xs
xsm
sm
md
lg

“กษิต” ยันกฎบัตรอาเซียนส่งเสริมระบอบ ปชต.ไม่มีวาระซ่อนเร้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กษิต ภิรมย์
เจ้ากระทรวงบัวแก้ว แจงกลางสภาพร้อมทำงานส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย โดยเปิดเผย และไม่เคยมีวาระซ่อนเร้น ย้ำเจตนารมณ์ รธน.สนธิสัญญาใดๆ ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อน ยัน 9 ประเทศกลุ่มอาเซียนพร้อมแล้ว

วันนี้ (27 ม.ค.) การประชุมร่วมกันของรัฐสภาวันนี้ ซึ่งก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม เป็นวาระการหารือเรื่องต่างๆ โดย น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมไปปรับปรุงศาลากลางจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งพรรคไทยรักไทยในอดีตตัดงบประมาณในส่วนนี้ออกไปตั้งแต่ปี 2544 และเมื่อตนเองได้อภิปรายในสภา รัฐบาลขณะนั้นก็จัดสรรเพียงงบประมาณปรับปรุงเท่านั้น อีกทั้งงบประมาณจัดซื้อคุรุภัณฑ์ สายโทรศัพท์ ไฟฟ้า ประปา ก็ไม่ได้จัดสรรให้ ทำให้ไม่สามารถใช้อาคารดังกล่าวได้

จากนั้นเข้าสู่วาระการพิจารณากรอบข้อตกลงอาเซียนต่อจากเมื่อวานนี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ประท้วงการชิงปิดประชุมรัฐสภาของ นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา เมื่อค่ำวานนี้ (26 ม.ค.) จนเป็นเหตุให้สมาชิกอภิปรายโต้เถียงกันถึงความเหมาะสม ในการใช้ถ้อยคำของการอภิปรายนั้น นายประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายท้วงติงให้ประธานควบคุมการประชุมให้ได้ และไม่ควรใช้วาจายั่วยุ เพราะไม่อย่างนั้นจะเสนอให้นับองค์ประชุมตลอดการประชุม

ทั้งนี้ ประธานรัฐสภา ตัดปัญหาด้วยการสั่งนับองค์ประชุม ซึ่งมีสมาชิก 350 คน และขอมติอภิปรายหมวดแรกต่อจากวานนี้ ด้วยคะแนนเสียง 264 ต่อ 78

หลังจากนั้น นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ใช้สิทธิ์ชี้แจงการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า ทำงานในกรอบของรัฐบาลได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทยและกัมพูชา ที่สะท้อนผ่านการเดินทางไปเยือนในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ได้รับการต้อนรับอย่างดี และยืนยันถึงการดำเนินความสัมพันธ์ด้วยสันติวิธีร่วมกัน พร้อมมั่นใจว่า การทำหน้าที่เจรจาและลงนามกรอบอาเซียน ก็จะไม่แตกต่างกัน ซึ่งส่วนตัวพร้อมปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสง่างาม ความแข็งแกร่งและมั่นคง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันด้วยว่า ที่ผ่านมาทำงานส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย ทำงานอย่างเปิดเผย ไม่เคยมีวาระซ่อนเร้น และภูมิใจที่มีส่วนทำให้ประชาธิปไตยก้าวเดินต่อไป

ส่วนการพิจารณากรอบข้อตกลงอาเซียนนั้น นายกษิต ชี้แจงว่า เคยมีการเสนอเข้าสู่การพิจารณาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว เพียงแต่มาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญที่ระบุว่า การทำสนธิสัญญาใดๆ ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อน เพิ่งมีผลบังคับใช้ จึงนำเรื่องนี้กลับเข้ามาพิจารณาอีกครั้ง พร้อมยืนยันว่า กรอบข้อตกลงทั้งหมด ประเทศในกลุ่มอาเซียน 9 ประเทศเห็นชอบแล้ว รอเพียงประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศเจ้าภาพ ดังนั้น เห็นว่าทุกคนควรจะร่วมมือกันเป็นเจ้าภาพ เพื่อสร้างศักดิ์ศรีให้แก่ประเทศไทย

ทั้งนี้ หลังการชี้แจงของนายกษิต บรรยากาศในห้องประชุมตึงเครียดขึ้น เมื่อนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นอภิปรายว่า สิ่งที่สมาชิกพรรคฝ่ายค้านติดใจนั้นไม่ใช่เรื่องเนื้อหาเพียงอย่างเดียว แต่ติดใจในเรื่องความสง่างามของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกาต่างประเทศ กรณีเคยประกาศสนับสนุนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บุกยึดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิว่าต่างชาติจะมองอย่างไร

การอภิปรายของนายจตุพร ทำให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ว.ส่วนหนึ่งลุกขึ้นประท้วงเป็นระยะ ทำให้บรรยากาศในห้องประชุมมีความวุ่นวายเกิดขึ้นเป็นระยะๆ กระทั่งนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ต้องสั่งพักการประชุมเป็นเวลา 5 นาที

ทั้งนี้ การประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบเอกสารสำคัญที่เกี่ยวกับความร่วมมือในกรอบอาเซียน และการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน ที่จะนำไปลงนามในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 14 ปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ ทั้งหมด 41 ฉบับ โดยแบ่งเป็น 4 กรอบใหญ่ ขณะนี้ให้ความเห็นชอบในกรอบที่ 1 ซึ่งมีทั้งหมด 8 ฉบับแล้ว ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับข้อตกลงและความร่วมมือกันภายในประชาคมอาเซียน

และขณะนี้เป็นการพิจารณาในกรอบที่ 2 ซึ่งเกี่ยวกับข้อตกลงทางการค้าการลงทุนระหว่างอาเซียนด้วยกัน และระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่ค้าอื่นๆ แต่บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา รัฐมนตรีและ ส.ส.ไม่อยู่ในห้องประชุม ทำให้ ส.ว.แสดงความเสียใจที่เรื่องสำคัญเช่นนี้ กลับไม่มีรัฐมนตรีหรือ ส.ส.ให้ความสนใจอย่างจริงจัง

ซึ่งฝ่ายค้านได้ขอนับองค์ประชุม เพราะเห็นว่า ส.ส.รัฐบาลไม่ให้ความสนใจในการทำหน้าที่ ขณะที่ฝ่ายรัฐบาล อ้างว่า ส.ส.ส่วนใหญ่อยู่บริเวณรัฐสภา แต่ต้องการพักผ่อน หลังลงมติในกรอบที่ 1 แล้ว และขณะนี้ประธานในที่ประชุมกำลังเรียก ส.ส.ทุกคนเข้าห้องเพื่อนับองค์ประชุม



















กำลังโหลดความคิดเห็น