“ปธ.รัฐสภา” เชื่อพิจารณากรอบอาเซียนฯ ไร้ปัญหาไม่มีเหตุการณ์วุ่นวาย มั่นใจจบภายในวันนี้ ด้าน “วิปรัฐบาล” มั่นใจสภาลงมติให้ความเห็นชอบ เชื่อไม่มีเสียงแตก ไม่โดดประชุม ขณะที่ “ปธ.TDRI” เตือนสมาชิกรัฐสภารอบคอบ หวั่นไทยเสียโอกาส หากยังไม่สามารถลงสัตยาบันในกรอบความตกลงอาเซียนได้
วันนี้ (27 ม.ค.) นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา แสดงความเชื่อมั่นว่าการประชุมวันนี้จะไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายและไม่เกิดปัญหา โดยจะสามารถพิจารณากรอบการประชุมอาเซียนจนได้ แต่หากไม่จบวันนี้ คงมีการเลื่อนการประชุมเรื่องงบประมาณออกไปก่อน
ส่วนการอภิปรายนอกประเด็นของฝ่ายค้านถือเป็นเอกสิทธิ์ ซึ่งตนไม่มีอำนาจก้าวก่าย แต่ ส.ส.ต้องรับผิดชอบหากมีการหมิ่นประมาทเกินขอบเขต ซึ่งต้องดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนการเข้าประชุมของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่ถูกเพ่งเล็ง ในวันนี้ ส่วนตัวเชื่อมั่นว่าจะไม่เกิดความวุ่นวาย และจะพยายามควบคุมสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม ประธานรัฐสภายังประเมินว่า การประชุมเมื่อวานนี้ ถือว่าเป็นไปตามเนื้อหาและเป็นปกติดี
ขณะที่ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล เชื่อมั่นว่าการลงมติกรอบประชุมความร่วมมือระหว่างประเทศของรัฐสภาในวันนี้ เพื่อให้ทันการประชุมอาเซียนซัมมิตที่จะมีขึ้นปลายเดือนกุมภาพันธ์จะได้รับการสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาลอย่างแน่นอน เนื่องจากได้มีการซักซ้อมทำการตกลงกันไว้แล้ว เชื่อว่าจะไม่มีเสียงแตกและจะไม่มีการโดดประชุมสภา หรือแม้แต่ในส่วนของกลุ่ม ส.ว.ก็เชื่อว่าจะลงมติเห็นชอบด้วยเช่นกัน เนื่องจากหลายคนเห็นว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน
ส่วนการที่ฝ่ายค้านจะเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมมาธิการขึ้นมาพิจารณากรอบความร่วมมืออาเซียนแต่ละฉบันนั้น ไม่อยากมองว่าเป็นการเตะถ่วงทางการเมือง แต่ก็จะรับฟังเหตุผลว่าเหมาะสมหรือไม่
นายชินวรณ์ ยอมรับว่า การจะตั้งคณะกรรมมาธิการนั้นถือว่าเป็นประโยชน์ แต่อาจทำให้เสียเวลา ดังนั้นแม้ฝ่ายค้านเสนอ แต่ทางพรรคร่วมก็ต้องลงมติให้กรอบประชุมความร่วมมือระหว่างประเทศผ่านสภา เพราะไม่สามารถเลื่อนการประชุมอาเซียนซัมมิทได้อีก
ด้าน นายนิพนธ์ พัวพงศกร ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ TDRI กล่าวถึงการอภิปรายร่วม 2 สภา เพื่อพิจารณากรอบการประชุมอาเซียนว่าเป็นเรื่องที่สมาชิกรัฐสภาต้องให้ความสำคัญพิจารณาอย่างรอบคอบ ถึงแม้จะต้องใช้เวลาก็ต้องยอม เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นระบบ โดยรัฐบาลจะต้องให้ข้อมูลที่สมบูรณ์สมาชิกรัฐสภาพิจารณาอย่างจริงจัง ทำให้ความตกลงอาเซียนมีความคืบหน้า หลังจากประเทศไทยเป็นเพียงประเทศเดียวที่ยังไม่ได้ให้สัตยาบันในกรอบความตกลงอาเซียน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการแข่งขันของประเทศ
นอกจากนี้ ประธาน TDRI ยังกล่าวอีกว่าอนาคตอาเซียนจะเป็นตลาดการค้าขนาดใหญ่ที่ประเทศคู่ค้าให้ความสำคัญ หลังจากสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรปประสบวิกฤตเศรษฐกิจ อาเซียนจึงเป็นตัวเลือกในการทำการค้าและการลงทุนในอนาคต และหากประเทศไทยยังไม่สามารถลงสัตยาบันในกรอบความตกลงอาเซียนได้ จะทำให้ประเทศเสียโอกาสเป็นอย่างมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมรัฐสภาวันที่ 2 เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 09.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเข้าประชุมถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณากรอบข้อตกลงอาเซียนว่า ต้องดูที่ขอบเขตและขั้นตอน เพราะไม่อยากให้เกิดความล่าช้า แต่ทั้งนี้ไม่ได้ปิดกั้น ส่วนจะเป็นการเตะถ่วงเวลาของฝ่ายค้านหรือไม่นั้น เห็นว่าเรื่องนี้ให้วิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านไปหารือกัน
ด้าน นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน ยืนยันว่า ฝ่ายค้านพยายามช่วยรัฐบาลอย่างเต็มที่แล้วในการพิจารณากรอบอาเซียน เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญและควรดำเนินการให้เร็วที่สุด ส่วนที่ฝ่ายค้านอภิปรายมุ่งเน้นตัวบุคคลมากเกินไปนั้น เพราะเห็นว่าบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีบางคนไม่มีความเหมาะสม ซึ่งเรื่องนี้เป็นหน้าตาของประเทศ ที่นายกรัฐมนตรีจะต้องรับผิดชอบด้วย
ขณะที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี มั่นใจว่า นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะชี้แจงประเด็นปัญหาต่างๆ ต่อที่ประชุมรัฐสภาได้ เช่นเดียวกับ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ที่เห็นว่ารัฐมนตรีแต่ละคนที่ถูกอภิปรายจะต้องมีข้อมูลมาชี้แจงครบถ้วน เพราะเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว
