“อภิสิทธิ์” ไฟเขียวทุ่มงบ 600 ล้านบาท เร่งสางหนี้สินเกษตรกร หลังเสี่ยงถูกยึด ชงเรื่องเข้าที่ประชุม ครม.28 ม.ค.นี้ พร้อมเล็งอนุมัติอีก 1.7 พันล้านบาท ช่วยเหลือหนี้สินเกษตรกรทุกกลุ่ม ฝ่ายเครือข่ายชาวนายังไม่ไว้ใจ ตรึงกำลังไว้รอผลชัดเจน
วันนี้ (26 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือร่วมกับตัวแทนเครือข่าวหนี้สินชาวนา วา รัฐบาลตระหนักถึงหนี้สินชาวนาเป็นนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้วที่จะช่วยเหลือเกษตรกร ตั้งแต่สมัยที่ประชาธิปัตย์ก่อตั้งกองทุนฟื้นฟู เพื่อแก้ไขภาระหนี้สินของเกษตรกร และเพื่อปกป้องทรัพย์สินที่เป็นที่ดินทำกินของเกษตรกร ทั้งนี้เกษตรกรได้มาชี้แจงถึงปัญหาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า การบังคับขายที่ดินทำกิน ซึ่งจำเป็นต้องจัดหางบประมาณมาซื้อหนี้สินตรงส่วนนี้กลับคืน โดยได้หารือกับนายกรัฐมนตรี และนายสังศิต พิริยะรังสรรค์ รักษาการเลขาธิการกองทุนฟื้นฟูฯ ซึ่งนายกฯ ได้กำชับต้องหาทุกวิถีทางในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยจะนำงบประมาณ 600 ล้านบาท เข้าสู่ที่ประชุม ครม.ในวันที่ 28 มกราคม เพื่อซื้อหนี้ของเกษตรกรที่กำลังถูกขายทอดตลาด และในอีก 2 สัปดาห์จะดำเนินการหาวิธีการซื้อหนี้ส่วนอื่นคืน จะอยู่ในส่วนของงบประมาณการฟื้นฟูอาชีพ งบประมาณ 17,500 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีงบประมาณอยู่อย่างจำกัด จึงจำเป็นต้องนำเรื่องเข้าสู่การหารือใน ครม.ว่าจะจัดหางบประมาณส่วนนี้มาจากแหล่งใด อย่างไรก็ตามง บประมาณที่อาจจะนำมาใช้ได้ก็คืองบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาฯ ที่คาดว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จในเดือนกันยายน
นายกรณ์ กล่าวต่อว่า บทบาทของกองทุนฟื้นฟูล้มลุกคลุกคลานมาตลอดเนื่องจากมีการเปลี่ยนตัวเลขาฯกองทุนฟื้นฟูฯ บ่อยครั้ง จึงทำให้กลายเป็นสาเหตุของปัญหา และจากนี้ไปเชื่อว่าการบริหารจัดการกองทุนฟื้นฟูฯ ภายใต้การดูแลของนายสังศิตน่าจะดีขึ้น
ด้าน นายชรินทร์ ดวงดารา แกนนำเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในการประชุม ครม.วันพุธนี้จะมีการเสนออนุมัติในที่ประชุม ครม. 600 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่เหลือจากกองทุนฟื้นฟูก่อน เพื่อซื้อหนี้ของเกษตรกร หลังจากนั้นในการประชุม ครม.ในวันที่ 10 ก.พ.จะมีการเสนอจะดำเนินการพิจารณางบประมาณ 18,000 ล้าน ซึ่งจะเป็นการซื้อหนี้ให้กับกลุ่มเกษตรกรกองทุนฟื้นฟูทุกกลุ่ม ไม่ใช่เฉพาะแต่กลุ่มของตนแต่อย่างใด
นายชรินทร์ กล่าวอีกว่า กลุ่มชุมนุมยังต้องปักหลักอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลต่อไปเพื่อรอดูความชัดเจนของรัฐบาลในวันพุธนี้ก่อน หลังจากนั้นหากไม่มีความคืบหน้าอะไรก็จะกลับมาอีกในวันที่ 10 ก.พ. เพื่อติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหา
ด้านพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกองทุนฟื้นฟูหนี้สินเกษตกร กล่าวก่อนหารือนร่วมกันตัวแทนกลุ่มเกษตรว่า หน้าที่ของกองทุนฟื้นฟูหนี้สินเกษตรกรมีหน้าที่ในการช่วยเหลือเกษตรกรที่จะต้องรับซื้อที่จำนอง หรือขาดแล้วมาให้เกษตรกรได้ทำกิน ถือเป็นนโยบาย เพราะฉะนั้นเป็นไปได้ตามที่เกษตกรเรียกร้อง ขณะนี้มันผิดมานานฟื้นฟูไม่ได้ซักที มาถึงรัฐบาลนี้ต้องช่วยเขาแก้ไขปัญหาตามหลักการ ที่ผ่านมาที่เกิดปัญหาขึ้นเนื่องจากไม่สามารถตกลงกันได้ระหว่างธนาคาร สหกรณ์ ทางรัฐบาลให้เงินไปแล้วก็ยังใช้ไม่หมดเหลืออยู่ประมาณ 800 ล้านบาท ซึ่งงบดังกล่าวก็ยังใช้ได้มีการดำเนินการมาอยู่เรื่อยๆ แต่มีการมาขอเพิ่มปีละ 2 หมื่นล้านให้มาช่วยเกษตรกร ซึ่งน่าจะเป็นไปได้ หากได้มาหมื่นกว่าล้านบาทก็จะช่วยบรรเทาเบาบางปัญหาลงได้
เมื่อถามว่า จำนวนเงินสูงตรงนี้จะนำงบส่วนไหนมา พล.ต.สนั่น กล่าวว่า กระทรวงการคลังต้องเป็นผู้พิจารณา ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า แต่มีกระแสข่าวว่าเงินคลังไม่มีแล้ว พล.ต.สนั่น กล่าวว่า หมดแล้วก็กู้ กองทุนเดิมก็ไม่ได้กู้ รูปแบบการเข้าไปฟื้นฟูจะเข้าไปดูในส่วนหนี้ที่กำลังจะขาดแล้ว ขาดไปแล้ว ศาลตัดสินแล้วให้เป็นของธนาคาร เป็นของสหกรณ์ คืนมาให้เกษตรกรทำต่อไป แต่ต้องมีหลักเกณฑ์ ใครอยู่ในข่ายที่ถูกต้องก็ได้ เดี๋ยวตนแก้ปัญหาให้ กลุ่มตนเหล่านี้เขามาทุกปี มาทุกรัฐบาล ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่เข้ามาใกล้ทำเนียบมาก พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ตำรวจก็ต้องดูแล ผู้กำกับก็ต้องดูแล
