ม็อบหนี้สินชาวนาร่วมพันคนล้อมทำเนียบ จี้รัฐบาล “มาร์ค” เร่งสางปัญหาหนี้สินเกษตรกร เผยตัวเลขที่ดินติดจำนองกว่า 38 ล้านไร่ เสี่ยงหลุดกว่า 8 ล้านไร่ พร้อมค้านจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก. เชื่อที่ดินตกอยู่ในมือนายทุนมากกว่ารุ่นลูกหลาน ลั่นขอคุยนายกฯ เท่านั้น เจรจาไม่คืบ เตรียมปักหลักนอนทำเนียบ ด้าน “สังศิต” เล็งขอมติ ครม.รับประกันหนี้ชาวนาประทังก่อน
วันนี้ (26 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.00 น. กลุ่มเครือข่ายหนี้สินชาวนาในนามกองทุนฟื้นฟูเกษตรกร จำนวนกว่า 1,000 คน นำโดยนายชรินทร์ ดวงดารา ประธานเครือข่าย ได้นำตัวแทนกลุ่มเกษตร 4 ภาค เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล โดยใช้รถ 6 ล้อติดเครื่องขยายเสียงขนาดใหญ่ แปลงเป็นเวทีปราศรัยชั่วคราว โดยผู้ชุมนุมบางส่วนได้ล้นทะลักกินพื้นที่บนถนนพิษณุโลก จนทำให้การจราจรติดขัด ตั้งแต่บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ ยาวไปจนถึงบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เนื่องจากมีผู้ชุมนุมปักหลักประท้วงอยู่
นายชรินทร์ กล่าวว่า ต้องการยื่นหนังสือต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่ออ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 1 โดยเรียกร้องให้รัฐบาลรักษาที่ทำกินไว้ให้กลุ่มเกษตร ช่วยเหลือดูแลเกษตรที่มีปัญหาหนีสิ้น และควรมีการพิจารณาขยายกรอบเวลาการชำระหนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะต้องมีการผ่อนผันการเร่งรัดหนี้สินของเกษตร นอกจากนี้ แกนนำกลุ่มเกษตรกร กล่าวว่า ทางกลุ่มผู้ชุมนุมไม่เห็นด้วยกับการแจกที่ดิน ส.ป.ก.ที่รัฐบาลจะนำมาดำเนินการใหม่อีกครั้ง โดยระบุว่านโยบายการจัดสรรที่ดินของรัฐบาลให้แก่เกษตรนั้น แท้จริงแล้วรัฐบาลไม่สามารถรักษาที่ดินผืนเดิมให้สืบทอดไปยังรุ่นหลานได้เลยแม้แต่ผืนเดียว
โดยในเวลา 12.30 น. พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ รักษาการเลขาธิการกองทุนฟื้นฟูหนี้สินเกษตรกร ออกมารับหนังสือกับเกษตรกรที่มาชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยแก้ปัญหา ภายหลังจากที่ผู้ชุมนุมเคลื่อนมาจากลานพระบรมรูปทรงม้า
จากนั้นนายสังศิต กล่าวว่า พล.ต.สนั่นให้ตนมารับเรื่องร้องเรียนว่ากลุ่มเกษตรกรมีเรื่องจะร้องเรียนอะไรบ้าง ความจริงแล้วกลุ่มเกษตรกรต้องการยื่นเรื่องให้กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แต่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ พล.ต.สนั่น รับผิดชอบดูแลกองทุนฟื้นฟู ขณะที่ พล.ต.สนั่นได้มอบหมายให้ตนเองดูแลแทน จนถึงขณะนี้ที่ได้มีการดำเนินการซื้อหนี้สินเกษตรกรไปแล้ว 700 ล้านบาท และจะพยายามเร่งรัดซื้อหนี้สินให้หมดภายในเดือนมีนาคมนี้ ส่วนเงินที่จะมาฟื้นฟูมีทั้งหมด 430 ล้านบาท หากได้เงินจำนวนนี้มาจะสามารถซื้อหนี้สินเกษตรกรได้จำนวนมาก ภายในปีนี้ที่สำคัญที่สุดเป็นการนำเงินมาใช้ในการฟื้นฟู เรื่องของเงินจำนวนกว่า 2 หมื่นล้านบาท ก็เป็นคำถามว่ารัฐบาลจะเอาเงินมาจากส่วนไหน หาก ครม.มีมติให้ค้ำประกันหนี้สามารถไปเอาเงินจากสถาบันการเงิน เช่น ธ.ก.ส. หรือออมสิน แล้วรัฐบาลก็ค้ำประกันหนี้ให้เรา ก็สามารถไปซื้อหนี้ฟื้นฟูเกษตรกรได้ รวมทั้งให้เป็นเงินกู้ยืมเกษตรกร โดยหลักการแล้ว ธกส.และออมสินน่าจะมีส่วนร่วมพิจารณาเงินดังกล่าวด้วย
เมื่อถามว่าคิดว่าจะสามารถแก้ไขได้ในรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ เพราะปัญหายืดยื้อมานาน นายสังศิต กล่าวว่า หากรัฐบาลให้การค้ำประกันคิดว่าจะสามารถแก้ไขหนี้ขนาดใหญ่ ได้เป็นจำนวนมาก โดยวิธีการคือรัฐบาลต้องออกมติ ครม.เพราะเป็นเงินจำนวนมาก เป็นเงินกว่าแสนล้านบาท ตอนนี้เงินกองทุนที่มีอยู่เหลือไม่กี่ร้อยล้าน
ต่อมาเวลา 15.00 น.กลุ่มเครือข่ายหนี้สินชาวนากว่า 1,000 คน ได้พังประตูเหล็กบริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ด้านทางเข้าประตู 1-2 ทำเนียบรัฐบาล เข้ามาปักหลักชุมนุมอยู่บริเวณโดยรอบรั้วด้านในทำเนียบรัฐบาล โดยแกนนำได้ประกาศจะปักหลักพักแรมในทำเนียบรัฐบาลโดยสงบ หากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่เดินทางมาเจรจา และรับปากแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกร ทั้งนี้ ตำรวจสันติบาลประจำทำเนียบรัฐบาล ได้ปิดประตูทางเข้า-ออก ทำเนียบรัฐบาล เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมบุกเข้ามาภายในทำเนียบรัฐบาล พร้อมทั้งจัดกำลังตำรวจส่วนหนึ่งประจำการอยู่ตามแนวรั้วทำเนียบรัฐบาล เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยด้วย
อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ชุมนุมได้ปักหลักชุมนุมประท้วงปิดถนนพิษณุโลก บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่ช่วง 11.00 น.วันเดียวกันนี้ หลังจากชุมนุมอยู่หน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์มากกว่า 100 วัน เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตร โดยเฉพาะปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน ซึ่งกำลังถูกดำเนินคดี
รายงานข่าวแจ้งว่า เครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย มาปักหลักชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ถ.พิษณุโลก บริเวณประตู 4 เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือเกษตรกรที่มีปัญหาจากการติดประกันจำนองถึง 38 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 35 ของพื้นที่การเกษตรทั้งประเทศ และเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบมีจำนวนถึง 3 แสนราย โดยพื้นที่ที่ติดประกันจำนองดังกล่าว มีภาวะเสี่ยงต่อการหลุดจำนองกว่า 8 ล้านไร่ จึงขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีช่วยเหลือ โดยการซื้อหนี้มาเป็นของรัฐบาล และขยายเวลาการผ่อนชำระ ทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งจะส่งผลให้สามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจได้โดยเร็ว ทางกลุ่มเครือข่ายหนี้สินฯ ได้เรียกร้องให้มีการเจรจาโดยเปิดเผย และขอเจรจากับนายกรัฐมนตรีเท่านั้น นอกจากนี้ขอให้ทำข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรด้วย และหากนายกรัฐมนตรีไม่ยอมเจรจา ก็จะปักหลักชุมนุมอยู่ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล โดยอาจร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดง
ขณะที่การชุมนุมดังกล่าวกลุ่มผู้ชุมนุมได้ปิดเส้นทางการจราจรบนถนนพิษณุโลก 2 ช่องทาง โดยเจ้าหน้าที่ได้พยายามเจรจาต่อรองให้มีการเปิดถนน เนื่องจากเส้นทางนี้เป็นเส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยินยอม โดยได้หยิบยกกรณีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯที่สามารถปิดถนนราชดำเนินกลาง และบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลมาเปรียบเทียบ เพราะถ้ากลุ่มพันธมิตรฯ เคยทำได้ ทางผู้ชุมนุมก็จะดำเนินการอย่างเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชรินทร์ ดวงดารา ประธานเครือข่ายได้นำ ตัวแทนกลุ่มเกษตร 4 ภาค ระบุว่า จะปักหลักชุมนุมอยู่บริเวณประตู 1 ทำเนียบรัฐบาลไปจนถึงวันพุธที่ 28 ม.ค. เพื่อรอฟังการประชุมคณะรัฐมนตรี แต่เมื่อเวลา 17.00 น. แกนนำเกษตรกรกลับประกาศว่า ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางออกจากบริเวณทำเนียบฯ โดยให้ไปรวมตัวที่หน้าลานพระบรมรูปทรงม้าแทน เพื่อรอฟังของการประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง จึงทำให้ผู้ชุมนุมต่างเดินขบวน หอบกระเป๋า เสื้อผ้า และสัมภาระที่เตรียมมาออกจากทำเนียบรัฐบาล
