“สาทิตย์” เชื่อ “แม้ว”พล่ามผ่านสื่อนอกมีนัยยะหวังผลทางการเมือง ไม่ได้หยุดเคลื่อนไหวอย่างที่อ้าง ระบุยังอยู่เบื้องหลังม็อบแดงถ่อยเคลื่อนไหว ยอมรับจัดการลำบาก หวั่นกลายเป็นตัวจุดฉนวนปัญหาขั้นมาอีก พร้อมจอกฝ่ายค้านเล่นเกมการเมืองทำสภาล่ม ลั่นไม่ยอมให้สภาล่มอีก จี้วิปรัฐบาลเร่งหาวิธีรับมือแม้รู้ดีฝ่ายค้านจ้องเล่นงาน
วันนี้(23 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิน ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ผ่านทางหนังสือพิมพ์อาซาฮี ของประเทศญี่ปุ่นว่า ตนได้อ่านจากหนังสือพิมพ์เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้คิดว่าการเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ คงยังไม่จบ แล้วความจริงนายกฯก็เคยเรียกร้องอยากให้พ.ต.ท.ทักษิณ เห็นแก่ความสงบของชาติบ้านเมืองและให้โอกาสกับคนทุกฝ่ายแก้ปัญหาของประเทศ โดยให้กระบวนการแก้ไขปัญหาเดินไปข้างหน้าได้ เพราะเวลานี้สถานการณ์บ้านเมืองกำลังเดินไปสู่ทิศทางการแก้ปัญหาของประเทศ การออกมาสัมภาษณ์ของท่านมีนัยทางการเมืองมากและอาจทำให้สถานการณ์ ซึ่งทำท่าว่าจะดีขึ้นหรือสงบลงอาจจะมีปัญหาเพิ่มขึ้นได้ ทั้งนี้เป็นการกล่าวหาสถาบันซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั้งประเทศไม่ว่าจะเป็นสถาบันองคมนตรี ศาลหรือสถาบันอื่น
ผู้สื่อข่าวถามว่ามองว่าเป็นการบ่อนทำลายประเทศจากตัวพ.ต.ท.ทักษิณเองหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณคงรู้ดีว่าท่านทำอะไรและหวังอะไร ซึ่งในช่วงหลังๆพ.ต.ท.ทักษิณยังมีการเคลื่อนไหว โจมตีอยู่บ่อยๆ ความจริงรัฐบาลก็ไม่อยากมีปัญหาที่ต้องเสียเวลากับเรื่องทางการเมืองเพราะยังมีปัญหาของชาวบ้านที่ต้องแก้อีกเยอะ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเมื่อเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นต้องอธิบายทำความเข้าใจ แต่ขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของรัฐบาลอย่างมีนัยสำคัญ แต่เราก็ต้องชี้แจง
เมื่อถามว่าจะต้องทำความเข้าใจกับสื่อต่างชาติเป็นพิเศษหรือไม่ นายสาทติย์ กล่าวว่า ความจริงนายกฯก็พบกับสื่อต่างชาติเยอะ แต่อย่าไปโทษสื่อต่างชาติเลย โทษคนที่เป็นคนไทยของเราดีกว่า
ต่อข้อถามว่านอกจากจะขอความร่วมมือไปทางพ.ต.ท.ทักษิณแล้วรัฐบาลมีมาตรการอย่างอื่นหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า เห็นว่าทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลให้สัมภาษณ์ว่าเขามีหน้าที่ติดตามแหล่งที่อยู่ของพ.ต.ท.ทักษิณ ถือเป็นหน้าที่ต้องทำกันไปแต่คิดว่าพ.ต.ท.ทักษิณรู้ดีว่าท่านทำอะไรไปและหวังผลอะไร เพราะฉะนั้นท่านเองควรทำในสิ่งที่พูดมาตลอดว่า เป็นคนรักชาติบ้านเมือง อยากเห็นบ้านเมืองมีการแก้ปัญหาอย่างที่ท่านพุดแล้วบ้านเมืองคงจะดีขึ้น เพราะลำพังการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้จัดรายการความจริงวันนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้าหากไม่มีการสนับสนุนจากบุคคลสำคัญที่อยู่ใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณหรือตัวพ.ต.ท.ทักษิณเอง
เมื่อถามว่ารัฐบาลเองไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะจัดการแก้ปัญหาเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาให้ประเทศไทยหรืออย่างไรถึงต้องคอย แต่ขอร้องหรือหวังความร่วมมือจากพ.ต.ท.ทักษิณ นายสาทิตย์ กล่าวว่า การเรียกความเชื่อมั่นทำได้หลายทาง ทั้งเรื่องนายกฯเดินทางไปต่างประเทศและการจัดประชุมอาเซียนซัมมิต ส่วนการรักษาความสงบเรียบร้อยในประเทศก็ทำกันอยู่อย่างเข้มข้น แต่ต้องยอมรับว่าขณะที่ฝ่ายหนึ่งทำงานไปแล้ว มีคนอีกฝ่ายเคลื่อนไหวอยู่เบื้องหลัง ทำให้สถานการณ์ไม่สงบเกิดขึ้น ดีที่สุดคือการขอร้องพูดคุยกัน และอีกอย่างพ.ต.ท.ทักษิณอยู่ต่างประเทศ และใช้วิธีการต่างๆ ผ่านคนใกล้ชิดหรือเครือข่ายของท่าน ดังนั้นการพูดจาผ่านสาธารณะก็ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้ใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกต้องหรือไปข่มขู่บังคับกดดัน แต่เราใช้วิธีขอร้อง ขณะเดียวกันการบังคับใช้กฎหมายในประเทศเราต้องทำไปอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน
นายสาทิตย์ กล่าวถึงการประชุมสภาที่ส.ส.ไม่เข้าร่วมประชุม จนทำให้สภาล่ม ว่า เรื่องใหญ่คือต้องทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนด้วยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก และจะต้องไม่กระทบต่อการดำเนินการหรือการตัดสินใจในเรื่องสำคัญของรัฐบาล แต่โชคยังดีที่การประชุมสภาเมื่อวานนี้ (22 ม.ค.) ยังไม่มีเรื่องที่เป็นกฎหมายสำคัญ แต่เป็นเรื่องรับทราบของศาลปกครองที่มารายงานประจำปี ทั้งนี้เห็นได้ชัดว่าฝ่ายค้านไม่ได้เลือกว่าอยู่วาระใด แต่สัปดาห์หน้าจะเป็นเรื่องสำคัญ โดยเริ่มตั้งแต่กรอบการเจรจาอาเซียน ต่อด้วยเรื่องงบประมาณรายจ่ายกลางปี ฉะนั้นสัปดาห์หน้าองค์ประชุมจะมีเรื่องสำคัญมาก อย่างไรก็ตามแม้จะทราบว่าฝ่ายค้านตั้งใจทำอย่างใดก็ตามเป็นเรื่องที่ต้องชี้แจงกับประชาชน เข้าใจว่าวันนี้วิปรัฐบาลคงจะประชุมและหาทางแก้ปัญหากัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหาอย่างนี้ขึ้นอีก นายสาทิตย์ กล่าวว่า เป็นมาตรการที่วิปรัฐบาลต้องดำเนินการควบคุมให้เข้มข้น เพราะถ้าเกิดเหตุการณ์ในการพิจารณากฎหมายสำคัญก็จะเป็นปัญหากับรัฐบาล วิปรัฐบาลต้องปรับแนวทางว่าหลังจากนี้จะมีกฏหมายสำคัญอีกหลายฉบับที่ต้องเข้าสู่สภา ดังนั้นเสียงจะต้องครบเพื่อผ่านกฎหมายอย่างรวดเร็วและถ้าเกิดรัฐบาลทำเช่นนั้นฝ่ายค้านก็อย่ามาโวยอีกว่ารัฐบาลใช้เสียงข้างมากรวบรัด ความจริงไม่อยากให้มีการโทษกัน ว่าพรรคนั้นพรรคนี้มาประชุมเท่านั้นเท่านี้ นี่เป็นการเริ่มต้น แต่เรื่องสำคัญที่สุดคือ ทุกพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องร่วมรับผิดชอบด้วย การพูดเช่นนี้ไม่ได้แปลว่าฝ่ายค้านจะปัดความรับผิดชอบให้รัฐบาลอย่างเดียว อย่าลืมว่าคุณก็เป็นส.ส.ที่ประชาชนเลือกมาทำหน้าที่ในสภาฯเหมือนกันและรับเงินเดือนจากภาษีประชาชนเท่ากันกับส.ส.ฝ่ายรัฐบาล
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้รัฐบาลเองมั่นใจว่ามีเสียงมากกว่าแต่ก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้ นายสาทิตย์ กล่าวยอมรับว่าใช่ การประชุมวันพุธก็ผ่านไปได้ แต่ก็มาเจอวันพฤหัสบดีก็มาเจออีก หลายคนก็รอนับองค์ปรชุม แต่เห็นว่าเย็นแล้วจึงกลับไปก่อนก็มี พอจบกระทู้สด ทุกคนคิดว่าเป็นเรื่องรับทราบรายงานศาลปกครอง ซึ่งโดยปกติวันพฤหัสบดีจะเหลือแต่เฉพาะคนที่จะอภิปรายเท่านั้น เมื่อถามว่า จะมีการคาดโทษส.ส.ที่โดดร่มขาดการประชุมสภาฯหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า คงไม่ แต่เป็นเรื่องของวิปรัฐบาลที่จะต้องคุยกัน