ภูมิใจไทย สายขอนแก่น สั่งแกนนำม็อบเสื้อแดง ห้ามร่วมชุมนุมที่ท้องสนามหลวง 31 ม.ค.วอนให้โอกาสรัฐบาลพิสูจน์ประชานิยม ทวงบุญคุณ “เพื่อไทย” หลังช่วยไม่ให้ยุบสภา ลั่นหากบ้านเมืองสงบ หันช่วย “แม้ว” กลับมาต่อสู้คดีเสียที
วันนี้ (22 ม.ค.) นายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น กลุ่มเพื่อนเนวิน พรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ผู้จัดรายการความจริงวันนี้ ประกาศชุมนุมใหญ่ในวันที่ 31 ม.ค.ว่า น่าจะเป็นการแสดงพลังของคนเสื้อแดง ว่า ยังมีอานุภาพ มีความร่วมมือร่วมใจกันมากน้อยแค่ไหน แต่โดยข้อเท็จจริงแล้วชาวบ้านหลายจังหวัดไม่อยากมา เพราะอยากให้รัฐบาลได้ทำงานก่อน เชื่อว่า การชุมนุมครั้งนี้พื้นที่หลาย จ.ของอีสานจะไม่เดินทางมาร่วมชุมนุมด้วย ตนจึงสงสัยว่า หากไม่มีแนวร่วมจากอีสานจะมีคนจากที่ไหนมาร่วมชุมนุม แนวร่วมใน กทม.หรืออย่างไร
สำหรับประชาชนใน จ.ขอนแก่น นั้น ตนได้ทำความเข้าใจกับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงหมดแล้ว เพราะฉะนั้นการชุมนุมในวันที่ 31 ม.ค.จะไม่มีชาวขอนแก่นมาร่วมชุมนุมด้วยอย่างแน่นอน และไม่รู้ว่าจะจัดชุมนุมทำไม เพราะวันที่ 31 ม.ค.ดูแล้วก็ไม่มีเหตุการณ์อะไร รัฐสภาร่วมพิจารณากรอบการประชุมอาเซียนก็เสร็จสิ้นแล้ว
นายปัญญา กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ ได้พูดทีเล่นทีจริงกับ ส.ส.เพื่อไทย บางคน ว่า ต้องขอบคุณพวกตนที่อยู่ช่วยรักษาสภาไม่ให้มีการยุบสภา เพราะที่ผ่านมามีหลายเหตุการณ์ที่น่าจะทำให้ยุบสภา แต่พวกตนต่อสู้จนมีสภามาจนถึงวันนี้
นายปัญญา กล่าวอีกว่า กลุ่มเพื่อนเนวิน ได้ไปชี้แจงให้ชาวบ้านเข้าใจหมดแล้ว ถึงเรื่องประชานิยม ว่า ยังมีเหมือนเดิม เพียงแต่เปลี่ยนมือคนทำเท่านั้น หากยังรอ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้กลับมา นโยบายประชานิยมเรายังทำเหมือนรัฐบาลเดิม แค่เปลี่ยนคนทำ ซึ่งชาวบ้านก็เข้าใจ พร้อมทั้งบอกว่า จะรอดูว่าจะทำได้จริงหรือไม่ หากทำไม่ได้ ส.ส.ต้องรับผิดชอบ ตนก็รับปาก หากทำไม่ได้ก็คงจะเสียอนาคตทางการเมือง อย่างไรก็ตาม อยากให้จับตา หากงบประมาณลงท้องถิ่นเมื่อไหร่ เชื่อว่า กระแสต่างๆ ที่เคยต่อต้านกลุ่มเพื่อนเนวิน และรัฐบาลนั้นจะค่อยๆ ดีขึ้นตามมา โดยเฉพาะเรื่องถนนไร้ฝุ่นนั้น จะทำให้เป็นจริงให้ได้
ส่วนงบประมาณที่ร้องขอรัฐบาลกว่า 1 หมื่นล้านบาท แต่ถูกจัดสรรให้เพียง 1.5 พันล้านบาทนั้น นายปัญญา กล่าวว่า ไม่ถือว่าเป็นความขัดแย้ง เพราะมีการชี้แจงว่าการโดนตัดงบประมาณนั้น เป็นเพราะอยากนำไปช่วยเรื่องการจ้างงานก่อน ซึ่งพวกเราก็เข้าใจไม่มีปัญหาอะไร สำหรับกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น หากบ้านเมืองสงบสุข เราก็พร้อมช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ เต็มที่ อยากให้ท่านได้กลับมาต่อสู้เรื่องคดี เพราะท่านถือเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่า
วันนี้ (22 ม.ค.) นายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น กลุ่มเพื่อนเนวิน พรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ผู้จัดรายการความจริงวันนี้ ประกาศชุมนุมใหญ่ในวันที่ 31 ม.ค.ว่า น่าจะเป็นการแสดงพลังของคนเสื้อแดง ว่า ยังมีอานุภาพ มีความร่วมมือร่วมใจกันมากน้อยแค่ไหน แต่โดยข้อเท็จจริงแล้วชาวบ้านหลายจังหวัดไม่อยากมา เพราะอยากให้รัฐบาลได้ทำงานก่อน เชื่อว่า การชุมนุมครั้งนี้พื้นที่หลาย จ.ของอีสานจะไม่เดินทางมาร่วมชุมนุมด้วย ตนจึงสงสัยว่า หากไม่มีแนวร่วมจากอีสานจะมีคนจากที่ไหนมาร่วมชุมนุม แนวร่วมใน กทม.หรืออย่างไร
สำหรับประชาชนใน จ.ขอนแก่น นั้น ตนได้ทำความเข้าใจกับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงหมดแล้ว เพราะฉะนั้นการชุมนุมในวันที่ 31 ม.ค.จะไม่มีชาวขอนแก่นมาร่วมชุมนุมด้วยอย่างแน่นอน และไม่รู้ว่าจะจัดชุมนุมทำไม เพราะวันที่ 31 ม.ค.ดูแล้วก็ไม่มีเหตุการณ์อะไร รัฐสภาร่วมพิจารณากรอบการประชุมอาเซียนก็เสร็จสิ้นแล้ว
นายปัญญา กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ ได้พูดทีเล่นทีจริงกับ ส.ส.เพื่อไทย บางคน ว่า ต้องขอบคุณพวกตนที่อยู่ช่วยรักษาสภาไม่ให้มีการยุบสภา เพราะที่ผ่านมามีหลายเหตุการณ์ที่น่าจะทำให้ยุบสภา แต่พวกตนต่อสู้จนมีสภามาจนถึงวันนี้
นายปัญญา กล่าวอีกว่า กลุ่มเพื่อนเนวิน ได้ไปชี้แจงให้ชาวบ้านเข้าใจหมดแล้ว ถึงเรื่องประชานิยม ว่า ยังมีเหมือนเดิม เพียงแต่เปลี่ยนมือคนทำเท่านั้น หากยังรอ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้กลับมา นโยบายประชานิยมเรายังทำเหมือนรัฐบาลเดิม แค่เปลี่ยนคนทำ ซึ่งชาวบ้านก็เข้าใจ พร้อมทั้งบอกว่า จะรอดูว่าจะทำได้จริงหรือไม่ หากทำไม่ได้ ส.ส.ต้องรับผิดชอบ ตนก็รับปาก หากทำไม่ได้ก็คงจะเสียอนาคตทางการเมือง อย่างไรก็ตาม อยากให้จับตา หากงบประมาณลงท้องถิ่นเมื่อไหร่ เชื่อว่า กระแสต่างๆ ที่เคยต่อต้านกลุ่มเพื่อนเนวิน และรัฐบาลนั้นจะค่อยๆ ดีขึ้นตามมา โดยเฉพาะเรื่องถนนไร้ฝุ่นนั้น จะทำให้เป็นจริงให้ได้
ส่วนงบประมาณที่ร้องขอรัฐบาลกว่า 1 หมื่นล้านบาท แต่ถูกจัดสรรให้เพียง 1.5 พันล้านบาทนั้น นายปัญญา กล่าวว่า ไม่ถือว่าเป็นความขัดแย้ง เพราะมีการชี้แจงว่าการโดนตัดงบประมาณนั้น เป็นเพราะอยากนำไปช่วยเรื่องการจ้างงานก่อน ซึ่งพวกเราก็เข้าใจไม่มีปัญหาอะไร สำหรับกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น หากบ้านเมืองสงบสุข เราก็พร้อมช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ เต็มที่ อยากให้ท่านได้กลับมาต่อสู้เรื่องคดี เพราะท่านถือเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่า
