“จตุพร” พ่นน้ำลายรายวัน หยัน “โอบามาร์ค” ลอกต้นตำรับประชานิยมหวังให้ประชาชนลืม “แม้ว” แผ่นเสียงตกร่องเหน็บความสัมพันธ์พันธมิตรฯ ประโคมข่าวปลุกระดมคนเสื้อแดงนัดชุมนุมก่อนประชุมอาเซียนซัมมิต เลียนแบบ “ภูมิใจไทย” เปิดตัว “แม้ว” หนุนหลัง “เพื่อไทย”
วันนี้ (14 ม.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรีเร่งอัดฉีดงบใน 17 โครงการประชานิยมว่า ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์โจมตีนโยบายประชานิยมของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าจะนำไปสู่ความเป็นทาส แต่เมื่อพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลกลับอยู่ในอาการลุกลี้ลุกลน อนุมัติเงินเพื่อหวังซื้อความรักจากประชาชน และทำให้ประชาชนลืม พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะพรรคประชาธิปัตย์รู้ตัวดีว่าจะบริหารประเทศได้ไม่นาน ซึ่งน่าเป็นห่วงว่าความร้อนรนใช้เงินจำนวนมากนี้จะนำไปสู่ปัญหาในอนาคต เหมือนกับที่รัฐบาลนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ สร้างภาระหนี้สินจากการกู้ยืมไอเอ็มเอฟ และความเสียหายจากองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน หรือ ปรส. รวมมูลค่าหลายแสนล้านบาท จนเป็นภาระให้รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณต้องเป็นผู้ใช้หนี้
นายจตุพร กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่มีการแต่งตั้งนายประพันธ์ คูณมี แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นที่ปรึกษาคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนั้น เท่ากับยอมรับว่าเป็นกระบวนการเดียวกัน เพราะคุณหญิงกัลยาไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นประจำจนคนสงสัยว่าธนาคารกรุงเทพสนับสนุนพันธมิตรฯ ซึ่งนอกเหนือจากนายประพันธ์แล้วทราบว่ายังจะมีคนอื่นตามมาอีกหลายคน อย่างนายพิเชฐ พัฒนโชติ แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ไม่ได้รับการแต่งตั้งจากที่ประชุม ครม.วานนี้ เพราะยังเป็นสมาชิกกรรมการสภาพัฒนาการเมือง จึงต้องรอให้นายพิเชฐลาออกและจัดการเอกสารให้เรียบร้อยก่อน สำหรับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นจะกระจ่างก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนแน่นอน ซึ่งจะหารืออย่างรอบคอบ เพราะเราเป็นม็อบไม่มีเส้น จะปล่อยให้รีบสร้างความไม่ชอบธรรมไปเสียก่อน เพราะยิ่งรีบจะยิ่งมูมมาม แต่ภายในเดือน ม.ค.นี้จะต้องมีการชุมนุมเกิดขึ้นอย่างน้อย 1 ครั้งแน่นอน
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่ปรากฏภาพข่าว ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย โดยมีอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และอดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก รวมทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งก็ไม่ห้ามบุคคลเหล่านี้เข้าร่วมกิจกรรมการเมืองด้วย ดังนั้น ต่อไปนี้ก็ขอให้ต่างคนต่างทำได้ นับตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณลงมา ก็ขอให้ใช้สิทธิเหมือนคนอื่นได้ในการลงสนามการเมือง เพียงแต่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ไม่ได้เท่านั้น เพราะพรรคเพื่อไทยก็มีบุคลากรเหล่านี้หลายคน
