สรส.ฮึ่ม “มาร์ค” ขายรัฐวิสาหกิจไม่เอาไว้แน่-“อัมรินทร์” ซัดแจกเงินเลียนแบบ “แม้ว”

สรส.ย้ำ ต้าน “มาร์ค” ขายรัฐวิสาหกิจ ปรามหากยังทำการเมืองแบบเก่าๆ ปชช.จะลุกฮือไม่เอาไว้แน่ พร้อมจับตารัฐบาลทุกฝีก้าว หากฝืนทำตรงข้ามกับสิ่งที่ ปชช.เรียกร้อง เจอพันธมิตรฯ แน่ ด้าน “อัมรินทร์ คอมันตร์” สำทับ อย่าเดินตามกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ ซ้ำรอยปี 42 ติงรัฐบาล ปชป.ควรทำให้ดีกว่าประชานิยมเลียนแบบ “ทักษิณ” จวกมาตรการแจกเงิน หวังแค่คะแนนเสียง เท่ากับเอาน้ำเทใส่กระบุง รั่วทิ้งเปล่าๆ

 คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" 

รายการ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ออกอากาศทางเอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน วันพฤหัสที่ 15 มกราคม 2552 ช่วงเวลา 20.30-23.00 น. นางสาวสโรชา พรอุดมศักดิ์ ดำเนินรายการ ช่วงแรก นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ ชี้แจงถึงการช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตระหว่างการชุมนุม หลังจากนั้น เป็นการการปราศรัยของนายอำนาจ พละมี รองเลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) และนายอัมรินทร์ คอมันตร์ นักธุรกิจระหว่างประเทศ คั่นรายการด้วยร้องเพลงสดในห้องส่งของ “อลิศ คริสตัล” นักร้องสาวมาดเข้ม ประจำเวทีพันธมิตรฯ ปิดท้ายด้วยช่วงสนทนาประเด็นการช่วยเหลือเยียวยา ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาฯ และเหตุการณ์ต่อเนื่อง โดยมีนายพิภพ ธงไชย นางรัศมี เพชรสุข ทนายความจากสภาทนายฯ และพี่น้องผู้ได้รับบาดเจ็บและญาติ มาร่วมรายการ

สโรชา - สวัสดีคะพ่อแม่พี่น้องขอต้อนรับเข้าสู่รายการรายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยคะ ขอต้อนรับพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ในห้องส่งด้วยนะคะวันนี้ พ่อแม่พี่น้องคะ วันนี้วันที่ 15 มกราคม 2552 วันนี้เป็นวันที่ครบ 100 วัน การจากไปของ น้องโบว์ อังคณา และสารวัตรจ๊าบ นะคะ วันนี้เป็นวันครบ 100 วัน ที่เราสูญเสียพี่น้องของเราไปในเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม 2551 วันนี้ก็เลยมีพี่น้องของเราที่ทำป้ายพิเศษมาเพื่อรำลึกถึงผู้ที่จากไปในการต่อสู้ตลอด 193 วัน ที่พวกเราได้ร่วมต่อสู้ ปกป้องชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ภาพ หรือป้ายที่พี่น้องของเราได้นำมาวันนี้ “สิบ ร้อยวัน หรือพันปี มิลืมเลือน สิบเพื่อนพ้องยอดสตรีวีรบุรุษ น้องโบว์ สมเลิศ สมชาย สารวัตรจ๊าบ น้องติ๊ก ยุทธพงศ์ เจนกิจ เศรษฐา รณชัย หนูโบว์” ทั้ง 10 วีรชน และวีรสตรี และวีรบุรุษที่สละชีวิตให้กับการต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในการต่อสู้ตลอด 193 วัน ในวันนี้ในช่วงของการสนทนา เราจะพูดถึงเรื่องของการดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิต การดูแลผู้ที่พิการ การดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ นักร้อยๆ คน รวมไปถึงคดีความ ที่จะต้องดำเนินการกันเกิดขึ้น หลังจากวันนี้เป็นต้นไป วันนี้ได้มีการพูดคุยกันระหว่างแกนนำ ทนายความ และผู้ทีได้รับผลกระทบ ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาฯ รวมไปถึงเหตุการณ์อื่นๆ ด้วย ตลอดระยะเวลาการต่อสู้นะคะ ติดตามได้ในช่วงของการสนทนาคะ

แต่ว่าวันนี้ก่อนอื่น เราคงต้องมีข่าวประชาสัมพันธ์มาเรียนให้พ่อแม่พี่น้องได้ทราบกันเบื้องต้นก่อนนะคะ วันเสาร์นี้แล้วนะคะที่เราจะไปพบกันที่จังหวัดชลบุรี เป็นคอนเสิร์ตการเมืองครั้งแรกนะคะ ที่จะไปจัดขึ้นที่นั่น พี่น้องชลบุรีของเราก็ได้แจ้งมาถึงที่พัก สถานที่ แล้วแต่ว่าพ่อแม่พี่น้องเลือกจะไปพักแบบไหนนะคะ เบื้องต้นเรียนให้ทราบก่อนว่าอยู่ที่สนามกีฬา หรือที่สนามบอล เทศบาลเมืองชลบุรีนะคะ อยู่ใกล้กับศาลากลางจังหวัดนะคะ มีแผนที่ด้วยนะคะว่าสถานที่ที่เราจะไปพบกันนั้นอยู่ทีไหน สนามกีฬา หรือว่าสนามฟุตบอล เทศบาลเมืองชลบุรีอยู่ใกล้กันกับศาลากลางจังหวัดชลบุรี ติดกับสวนสุขภาพสีเหลืองๆ นะคะ ที่เห็นก็คือ สถานที่ที่เราจะไปพบกันนะคะ ถ้าหากว่าออกจากกรุงเทพฯ โดยใช้รถโดยสาร สามารถขึ้นรถได้ที่ขนส่งเอกมัยนะคะ จุดมุ่งหมายคือ ชลบุรี ลงที่สี่แยกเฉลิมไทย ลงแล้วต่อรถสองแถวมาส่งที่สถานที่จัดงานได้เลย ถ้าไปไม่ถูกถามคนแถวนั้น รับรองนะคะว่าไม่หลงทาง ถ้าหากว่าท่านจะมาโดยรถโดยสารนะคะ ขึ้นที่สถานีเอกมัย ไปที่ชลบุรีและลงที่สี่แยกเฉลิมไทยนะคะ จากที่สี่แยกเฉลิมไทยก็ขึ้นรถต่อมาถึงสนามกีฬาได้เลยนะคะ พี่น้องของเราที่นั่น แนะนำสถานที่พักมาให้ด้วย พี่น้องชลบุรีบอกว่าถ้าอยากจะพักฟรี ดีใจจัง ตังค์อยู่ครบ ก็สามารถที่จะไปอยู่ที่วัดจีนได้ที่แยกเฉลิมไทย ลงจากรถโดยสารก็เจอเลย สามารถที่จะไปพักผ่อนกันได้ สามารถรับรองพี่น้องได้ถึงประมาณ 200 คน ต้องเอาที่นอนมาเองนะคะ มีห้องน้ำให้ มีพัดลมให้ แต่ต้องเอาที่นอนมาเอง ส่วนพวกที่ชอบกางเต็นท์ชอบอยู่เต็นท์ ก็สามารถ เพราะว่าในบริเวณนั้นก็มีสวนสุขภาพ ใกล้บริเวณจัดงาน ก็สามารถที่จะไปกางเต็นท์นอนได้ ส่วนพวกที่ชอบโรแมนติก พี่น้องชลบุรีของเราบอกว่า ก็บางแสนเลยจ๊ะน้องจ๋า บางแสนใกล้ๆนะคะ สามารถที่จะไปได้ ช่วงเช้าก็แวะชอปปิ้งเล็กน้อย มีของอร่อยๆให้รับประทานกันที่หนองมน ก็อันนั้นคือพักฟรีดีใจจังตังค์อยู่ครบ

ประเภทราคาย่อมเยาก็มี คือ โรงแรมลิขิตโฮเทล จะมีราคาห้องเป็นพัดลม ราคา 300 บาท ห้องแอร์ 500 บาท ห่างจากสถานที่จัดงานประมาณ 700 เมตร โรงแรมอุนากูล พัดลม 350 แอร์ 550 อยู่ใกล้ๆ กับโรงแรมลิขิต พวกที่ชอบหรูขึ้นมาหน่อย อยู่แบบสบายๆ ก็จะมีอีกโรงแรมรัตนะ ราคา 700 บาท มีอาหารเช้าให้ 2 ท่าน อยู่ห่างจากสถานที่จัดงานประมาณ 1 กิโลเมตร อีกที่หนึ่งคือโรงแรมเมอร์คิว ราคาอยู่ที่ 1,250 บาท อันนี้รวมอาหารเช้าให้กับ 2 ท่านเช่นกัน อยู่ใกล้ๆกับโรงแรมรัตนะ ราคาทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นราคาพันธมิตรฯ เพราะฉะนั้นใครที่ไม่ใช่พันธมิตรฯ ก็อย่าหวัง

พักในราคานี้ อันนี้เรียนให้ทราบสำหรับพี่น้อง จ.นครสวรรค์ เขาจะมีรถเพื่อเดินทางไปดูคอนเสิร์ตการเมืองครั้งที่ 1 รถจะออกบริเวณด้านหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ๊นันท์ วัดดงมูลเหล็กนะคะ รถออกเวลาตีหนึ่ง คือ 01.00 น. นอกจากนี้แล้ว มาเที่ยวสวนสัตว์เขาเขียว และก็พาไปแวะตลาดหนองมนอีกต่างหาก มากันเป็นทัวร์นะคะ นครสวรรค์ วัดดงมูลเหล็กนะคะ ออกตีหนึ่ง สามารถที่จะไปพบกันที่นั่นได้ ส่วนพันธมิตรพนัสนิคมมีรถมาเช่นเดียวกัน มาที่คอนเสริต์การเมืองครั้งที่ 1 รถบัสนะคะ เต็มออกๆ ไม่อั้นนะคะพี่น้อง สำหรับพนัสนิคม อันนี้เป็นสิ่งที่เรียนให้ทราบสำหรับคอนเสริต์ที่ชลบุรีนะคะครั้งที่ 1 ในวันที่ 17 นี้ พี่น้องอย่าลืมนะคะ ใครยังไม่มีตั๋วรีบไปหาซื้อนะคะ เราจะไปพบกันในคอนเสริต์การเมืองครั้งที่ 1 วันที่ 17 มกราคมที่จะถึงนี้นะคะ

เมื่อวานนี้ใครได้ดูคุณอภิสิทธิ์บ้าง คุณอภิสิทธิ์ไปที่ FCCT สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ถ่ายทอดสดทาง TOC ปรากฏว่ามีอยู่คำถามหนึ่งอยากจะนำมาให้พี่น้องได้รับชมอีกครั้งหนึ่ง ใครที่ยังไม่ได้ดู คำถามนี้เป็นคำถามที่ต้องดู เพราะว่าเป็นประเด็นทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไปชมกันก่อนคะ และเดี๋ยวเรากลับมาคุยกันต่อ

**VTR อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ**

The Answer is Yes, no and no คนหัวเราะแล้วก็ปรบมือกันเกรียวกราว ไซมอน มอลเลก เป็นผู้สื่อข่าวต่างประเทศที่อยู่ในประเทศไทยมายาวนาน และก็ทำข่าวมาอย่างยาวนาน ไซมอน มอลเลก ถามคุณอภิสิทธิ์ว่า คุณอภิสิทธิ์ดูเหมือนว่าจะให้ความสำคัญในการปกป้องสถาบันมหากษัตริย์เป็นนโยบายลำดับต้นของรัฐบาลชุดนี้ คุณไซมอนถามคุณอภิสิทธิ์บอกว่า คุณอภิสิทธิ์ เชื่อหรือไม่ว่ามีกระบวนการล้มล้างสถาบันจริง และถ้าหากว่าเชื่อว่ามีคุณอภิสิทธิ์รู้ไหมว่าใครอยู่เบื้องหลังกระบวนการ และถ้าเกิดรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังกระบวนการ คิดไหมว่าเขาจะทำสำเร็จ นี่คือคำถามของคุณไซเมิล คุณอภิสิทธิ์ ตอบสั้นๆ ง่าย ได้ใจความ Yes, No and no ความหมายคืออะไรคะ ใช่ มีกระบวนการล้มล้างสถาบันจริง No ไม่ ไม่บอกว่าเป็นใคร and no ไม่ เขาจะไม่มีวันทำสำเร็จ นั่นคือ สิ่งที่ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตอบผู้สื่อข่าวต่างประเทศเมื่อคืนนี้ จริงๆ แล้วตอบหลายประเด็นนะคะ ทั้งเรื่องของเศรษฐกิจ เรื่องของการเมือง เรื่องประเทศเพื่อนบ้าน เรื่องของในประเทศเอง แต่ว่าคำถามนี้ แอ้มคิดว่าเป็นคำถามที่เด็ดที่สุดในรอบคืนนั้น รวมไปถึงเป็นคำตอบที่สุดเช่นเดียวกัน หลายคนบอกโอ้โห ชอบจริงๆเลยถามแบบนี้ หลายคนบอกว่าแต่ชอบคำตอบมากกว่า Yes, No and no นะคะ ก็นำมาให้พ่อแม่พี่น้องได้รับชมกันนะคะ

ในช่วงนี้เราไปติดตาม คือ เดี๋ยวในช่วงสนทนา เราจะมีการพูดคุยกันถึงเรื่องของผู้ได้รับบาดเจ็บ ครอบครัวของผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงที่เกิดขึ้นในการต่อสู้ แต่ว่ามีข่าวและก็มีสิ่งที่อยากจะเรียนให้พ่อแม่พี่น้องทราบ โดยท่านนี้คะ ต้อนรับคุณพิภพ ธงไชยคะ สวัสดีคะ (เสียงมือตบ) เชิญพี่พิภพคะ

พิภพ - สวัสดีครับ ก็มีเรื่องมาพูดคุยกับพ่อแม่พี่น้อง ที่บาดเจ็บนะครับ และญาติของผู้เสียชีวิต โดยศูนย์เยียวยาผู้บาดเจ็บ ผู้พิการและผู้เสียชีวิต ซึ่งวันนี้ได้นัดพบกับผู้บาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ และต้องการที่จะทำคดี ที่จะเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ เพราะในชีวิตของผมผ่านเหตุการณ์ที่ การต่อสู้ในเรื่องประชาธิปไตย ในเรื่องสิทธิเสรีภาพ แล้วก็ประชาชนล้มตายไปเนี้ย 2-3 เหตุการณ์ด้วยกัน แต่ในสังคมไทยในรอบ 30-40 ปี เรายังไม่เคยเอาคนผิดมาลงโทษได้ วันนี้จึงมีการประชุมกันที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ นะครับ ที่มีทีมทนายความ และผู้บาดเจ็บในเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ และเหตุการณ์อื่นๆ นี่มาปรึกษาหารือกัน ว่าจะดำเนินคดีในเรื่องนี้อย่างไร เพื่อให้เป็นตัวอย่าง และไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำซาก ในการต่อสู้อย่างสงบและสันติของประชาชนเพื่อสถาบัน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ครับ แล้วหลังจากนั้น ก็ได้มาพบปะกันในที่ห้องส่งที่จะออกรายการในเวลา 4 ทุ่มในคืนนี้ ในหลายประเด็นที่เราจะพูดกัน

มีประเด็นหนึ่งที่ผมจะแยกมาพูดในตอนนี้ ก็คือ เมื่อได้มีการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล รัฐบาลซึ่งโดยนายกรัฐมนตรีนำโดย คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บอกว่าที่ผ่านมาบ้านเมืองเราอยู่ในสภาพการเมืองที่ล้มเหลว การเมืองที่ล้มเหลวก็ทำให้รัฐบาลไม่สามารถบริหารประเทศชาติได้ และเมื่อรัฐบาลบริหารประเทศชาติได้

ซึ่งอันนี้คุณอภิสิทธิ์ไม่ได้พูด สืบเนื่องมาจากกรณีรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งตอนนี้มีหลายคนอยากจะเรียกว่านักโทษชายทักษิณ ชินวัตร แต่ว่าเมื่อยังไม่มีการถอดยศก็เรียก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้กระทำมาอย่างที่เราทราบกันมาจนกระทั่งมีรัฐบาลที่เป็นตัวแทนของคุณทักษิณ 2 รัฐบาลด้วยกัน และเกิดเหตุการณ์พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ตำรวจออกมาใช้ความรุนแรงกับประชาชน และมีการยุยงพ่อแม่พี่น้องบางส่วนให้มาทำร้ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และมีการใช้ความรุนแรงในการชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลโดยยิง M 79 เข้ามาหลายครั้งหลายหน

มาถึงการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล รัฐบาลก็บอกว่าพร้อมจะเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการเมืองที่ล้มเหลว แต่เฉพาะเหตุการณ์ 7 ตุลาเท่านั้น ซึ่งผมก็เรียนในรายการนี้หลายครั้งว่า รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคร่วมรัฐบาล ก็มีส่วนในการเมืองที่ล้มเหลว แล้วว่าไปแล้วถึงแม้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นคนกระทำความรุนแรง เพราะไม่ได้เป็นผู้บริหาร รัฐบาลในช่วง 2 รัฐบาลที่ผ่านมา ตั้งแต่คุณสมัคร หรือคุณสมชาย แต่พรรคร่วมรัฐบาลมีส่วนในการบริหารประเทศ ก่อให้เกิดความรุนแรง

พูดไปทำไมมีที่ออกมาอยู่หน้าสลอน ก็ไม่ได้เป็นการมาทำการเมืองที่จะทำให้เกิดคุณธรรม และศีลธรรม หรือการเมืองใหม่ หรือการเมืองที่สะอาดให้ดีขึ้น หลายส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลก็มือเปื้อนเลือด มาจากเหตุการณ์ในช่วง 193 วัน เพราะฉะนั้นรัฐบาลก็น่าจะดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการเมืองที่ล้มเหลว ไม่ว่าจะเป็นสีอะไร เพราะทุกคนก็กลายเป็นเหยื่อของการเมืองที่ล้มเหลว ถึงแม้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีส่วนในการกระทำ

ฉะนั้นวันนี้เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ เป็นแกนนำรัฐบาลได้ประกาศว่า จะให้ความช่วยเหลือในกรณีเหตุการณ์ 7 ตุลา ผู้ที่ได้รับผลกระทบ ผมก็เสนอว่าก็น่าจะช่วยเหลือทุกเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความรุนแรง ทำให้พ่อแม่พี่น้องไม่ว่าสีอะไรเสียชีวิตลง

อันนี้เป็นข้อเสนอที่อยากจะย้ำแล้วย้ำอีก นี่เป็นการเยียวยาประชาชนที่เป็นเหยื่อไม่ว่าซ้ายหรือขวา เหลืองหรือแดง แต่วันนี้ที่อยากจะพูดคือว่า เมื่อรัฐบาลโดยกระทรวงพัฒนาสังคมฯ บอกว่าให้คนที่ได้รับผลกระทบจากการเกิดเหตุการณ์ 7 ตุลา ไปแจ้งว่าตัวเองได้รับผลกระทบบาดเจ็บ เสียชีวิต และพิการ อย่างไร แต่รัฐบาลได้ยึดโยงเฉพาะคนที่ไปโรงพยาบาลรัฐเท่านั้น ซึ่งโดยความเป็นจริงแล้วคนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ 7 ตุลา ไม่ได้ไปโรงพยาบาลรัฐ แต่ไปที่คลินิก หรือสถานพยาบาลในทำเนียบเป็นจำนวนมาก ก็เลยอยากเสนอให้รัฐบาลได้พิจารณาคนพวกนี้ว่าไม่ได้มีโอกาสไปรักษาที่โรงพยาบาล แต่ได้รับการบาดเจ็บจากเหตุการณ์ 7 ตุลาคม ควรที่จะได้มีสิทธิ์ได้รับความช่วยเหลือจากเงินภาษีอากรของประชาชนที่รัฐบาลจัดมาให้

เพราะฉะนั้นวันนี้ก็ทำให้ผู้ที่จะเข้าไปยื่นเรื่องต่อรัฐบาลต้องการใบรับรองแพทย์ แต่สำหรับคนซึ่งไปที่โรงพยาบาลก็คงไม่มีปัญหา แต่ผู้ที่ไปคลินิก หรือสถานพยาบาลของกองทัพธรรม และของพันธมิตรฯ ที่มีอยู่ 5 เต็นท์ หรือ 6 เต็นท์ในทำเนียบรัฐบาล รัฐบาลก็น่าจะให้สิทธิ์กับคนพวกนี้ได้รับความช่วยเหลือในกรณีที่เกิดการบาดเจ็บจาก 7 ตุลา ถึงแม้ผมอยากจะให้เหตุการณ์อื่นๆ ด้วย เราจึงได้คุยกับคุณหมอ ซึ่งมีคุณหมอที่เป็นอาสาสมัคร ตั้งแต่โรงพยาบาลพระมงกุฎ รามาฯ เลิศสิน วชิระ หรือสภากาชาด รวมทั้งพยาบาล อาสาสมัคร มาช่วยดูแลผู้บาดเจ็บ แต่ปัญหาทำอย่างไรจึงจะได้หลักฐานที่ไปยื่นขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล

วันนี้ผมคุยกับคุณหมอคนหนึ่งที่เคยเป็นอาสาสมัครมาดูแลผู้บาดเจ็บในเต็นท์ข้างกองทัพธรรม และคุณหมอก็บอกว่ายินดี ที่จะออกใบรับรองแพทย์ ว่าได้เจ็บป่วย บาดเจ็บ และการบาดเจ็บบางอย่างมันซ่อนอยู่ แต่มาแสดงอากาศออกในภายหลังเมื่อไปโรงพยาบาล ก็ไม่ได้บอกว่าอาการที่ซ่อนอยู่จากการบาดเจ็บมาจากเหตุการณ์ 7 ตุลา แต่คนเหล่านี้ได้มาทำการให้หมอดูแลตั้งแต่วันที่ 7 ตุลา ก็อยากเสนอให้รัฐบาลว่า น่าจะรับพิจารณาเรื่องนี้ โดยคุณหมอวิษณุ ทรัพย์ปรุง ยินดีที่จะออกใบรับรองแพทย์ เพราะเรามีหลักฐานที่มาขอความช่วยเหลือจากกองทัพธรรม เอกสารต่างๆ อยู่ที่ผม

คุณหมอบอกว่าให้ผมส่งเอกสารเหล่านี้ให้คนที่ได้รับบาดเจ็บ นำเอกสารไปให้คุณหมอ แล้วคุณหมอก็จะออกใบรับรองแพทย์ให้ ซึ่งผู้บาดเจ็บสามารถติดต่อกับคุณหมอวิษณุ ทรัพย์ปรุง ได้ที่เบอร์ 083 821 8821 แล้วไปขอหลักฐานจากผม แล้วเอาหลักฐานจากผมซึ่งไม่มีใบรับรองแพทย์ แต่เป็นหลักฐานที่มารับการดูแลรักษา ทำแผล ล้างแผล ที่เต็นท์คลินิกในทำเนียบ แล้วนำไปให้ที่กระทรวงพัฒนาสังคมฯ และผมก็อยากจะเรียนท่านรัฐมนตรีว่า น่าจะเปิดกว้างในเรื่องการรับรองจากหมอที่มาเป็นอาสาสมัครในเต็นท์ต่างๆ ในช่วงที่อยู่ในทำเนียบรัฐบาล และให้ท่านเหล่านี้ที่ได้รับการบาดเจ็บตั้งแต่เล็กน้อยไป มีสิทธิ์ได้รับค่ารักษาพยาบาลได้

วันนี้ก็มาพูดเพิ่มเติม ในรายละเอียดที่มากกว่านี้ก็จะมีการพูดคุยกันในรายการตอน 4 ทุ่ม วันนี้ผมก็ขอมากราบเรียนพ่อแม่พี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ได้รับการบาดเจ็บในวันที่ 7 ตุลาฯ และได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ที่ตามมานี้ น่าจะรวมตัวกันเรียกร้องกับรัฐบาลให้ดูแล รับผิดชอบ เพราะทั้งหมดเกิดจากการเมืองที่ล้มเหลว ก่อให้เกิดการบาดเจ็บ ล้มตายขึ้นมา ในเหตุการณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ครับผมก็มาเรียนให้พ่อแม่พี่น้อง ประชาชน พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณครับ (เสียงมือตบ)

สโรชา - ขอบคุณนะคะพี่พิภพคะ เดี๋ยวเราคงได้คุยกันในรายละเอียด ค่อนข้างถี่ถ้วนนะคะในเรื่องของความช่วยเหลือ ในส่วนของการดูแลทั้งสภาพร่างกาย และจิตใจนะคะ สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และได้รับผลกระทบ และมีการคุยกันถึงสภาพจิตใจของหลายท่าน หลายท่านบอกว่าไม่ได้รับผลกระทบทางด้านร่างกาย แต่ปัจจุบันนี้ยังฝันร้าย บางท่านหลอน บางท่านสภาพจิตใจไม่ปกตินะคะ ก็เดี๋ยวเราจะคุยกันถึงความช่วยเหลือท่านเหล่านี้ด้วย รวมไปถึงคดีความต่างๆที่จะดำเนินการต่อไป เช่นเดียวกันคะ อีกท่านหนึ่งที่จะมาพบกับพ่อแม่พี่น้องในค่ำคืนนี้ จริงๆแล้วพรุ่งนี้เราจะเจอกันอยู่แล้วละ พรุ่งนี้เราจะขึ้นเวทีคู่กับหนุ่มหล่อคนนี้ ต้อนรับคุณอำนาจ พละมี สวัสดีคะ เชิญพี่อำนาจคะ

อำนาจ - สวัสดีครับพี่น้องประชาชน ที่สำคัญคือพี่น้อง พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทุกท่านนะครับ ห่างหายจากเวทีในการที่จะปราศรัย กับพี่น้องประชาชนมานานพอสมควรนะครับคุณแอ้ม นานพอสมควรนะครับพี่น้องครับ คือเพราะว่าเรามีภารกิจในหลายที่ หลายส่วนที่รับผิดชอบประจำอยู่ วันนี้เราได้เห็นหน้าเห็นตาของรัฐบาลใหม่ พี่น้องประชาชนลองคิดดูเราจะมีความหวังได้อย่างไร หรือไม่อย่างไรนั้น ต้องคอยติดตามดูนะครับ

สิ่งที่สำคัญคือวันนี้ จากการที่เราต่อสู้ร่วมกันมากว่า 193 วัน คิดง่ายก็กว่า 7 เดือน เราเป็นพลังอำนาจทางสังคมที่จะกดดันต่อกระบวนการ ดำเนินการในทุกๆ เงื่อนไข ในทุกกระบวนท่า ในทุกบริบทของสังคม ที่บอกว่าถ้าใครจะเฉไฉออกนอกทางที่ไม่ถูกต้อง เราจะลุกขึ้นมากดดัน เราจะแสดงพลัง เราจะบอกว่าสิ่งที่คุณกำลังคิดจะบิดเบี้ยว บิดเบือนประชาชนนั้น ไม่ถูกต้องอย่างไร เพราะฉะนั้นนี่คือพลังของพี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และมันจะต้องยังคงอยู่ต่อไป เพราะว่าการเมืองแบบเก่าๆ นักการเมืองในรูปแบบของการเมืองเก่านั้น มีอยู่ คงอยู่นะครับ

สำหรับพี่น้องประชาชนเราต่อสู้กันมานั้น 7 เดือนนี้ ไม่ใช่ 7 เดือนแรก เราเริ่มต้นเกาะเกี่ยว ร้อยรักกันมาตั้งแต่ปี 2548 2549 2550 และปีที่ผ่านมา 2551 การต่อสู้ของภาคประชาชนนั้นยังไม่สิ้นสุด เพราะว่าการเมืองใหม่ หรือว่าการเมืองภาคประชาชนนั้น ยังไม่เกิดขึ้นจริง เพียงแต่เริ่มที่จะตั้งไข่ เริ่มที่จะมีกระบวนการที่จะจัดอภิปราย จัดให้ความรู้ต่อพี่น้องประชาชน

พี่น้องซึ่งเชื่อในความคิดในมุมมองของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า การเมืองแบบนี้ไม่สามารถนำพาประเทศไทยให้อยู่รอดปลอดภัยได้ในอนาคต และการเมืองแบบนี้จะทำให้พี่น้องประชาชนในประเทศไทยนั้น ต้องประสบกับความทุกข์ยากในอนาคตอย่างแน่นอน และที่ผ่านมาเป็นบทพิสูจน์แล้วว่า การเมืองเก่าๆ นั้นทำให้เราทั้งหลายต้องประสบกับความทุกข์ยากอย่างไร พี่น้องคงได้รับบทเรียนหลายอย่างนะครับ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการในการที่จะเขาเรียกว่า คอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย หรือทุจริตเชิงนโยบาย ทำท่า ทำทีดูเหมือนไม่ผิดกฎหมาย แต่จริงแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทำ เป็นการอาศัยช่องโหว่ทางกฎหมาย เพื่อหาประโยชน์โดยที่ดูเหมือนไม่ผิดกฎหมาย แต่เผอิญว่าพี่น้องประชาชน ซึ่งรวมตัวกันขึ้นมาในนามของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และพี่น้องประชาชนอีกหลายภาคส่วนรู้ทันเข้า ทำให้กระบวนการในการที่พัฒนาตัวเองเป็นระบอบทุนสามานย์ที่หลายๆ ท่านพูดถึงกัน ไม่สามารถขยับเขยื้อนต่อไปได้ เพราะว่าพี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น จับตาทุกฝีก้าว

สำหรับนักการเมืองแบบเก่าๆ วันนี้ถึงแม้จะบอกว่า จะมาทำเพื่อชาติ ทำเพื่อประชาชน หรือว่าทำเพื่อนายนะครับ เราก็คงจะไว้ใจไม่ได้ เพราะว่านักการเมืองก็คือนักการเมือง ตราบใดที่พี่น้องประชาชนยังไม่สามารถสร้างการเมืองใหม่ขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ เราก็ยังมีโอกาสที่จะถูกนักการเมืองแบบเก่าๆ นั้น ฉ้อฉลเชิงนโยบายได้อีก ดังนั้นนี่เป็นภาระ หน้าที่ของพี่น้องประชาชนที่จะต้องลุกขึ้นมาตรวจสอบร่วมกัน วันนี้กระบวนการในการที่จะตรวจสอบนั้นอยู่ที่พี่น้องประชาชน ในการที่จะเดินทางไปทุกที่ ทุกจุด ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นเล็ก 4-5 คน กลุ่มใหญ่ 50 คน หรือ 100 คน เริ่มมีกระบวนการในการเรียนรู้ในทุกหัวระแหง ในทุกตำบลหมู่บ้าน

วันนี้พี่น้องหลายๆ ส่วน ล่าสุดได้ข่าวมาว่า ทางที่ทางอุดร ดูเหมือนว่าจะเป็นจังหวัดที่ ซึ่งจะทำให้พี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้นต้องประสบกับเหตุการณ์ในการที่คนไทยตีกันเอง เริ่มลดระดับความเข้มข้นลง เพราะว่าเริ่มที่จะเข้าใจมากขึ้น มันก็เหมือนกับยามเช้า เป็นรุ่งอรุณของวันใหม่ เป็นรุ่งอรุณแห่งความหวังนะครับ เพราะว่าเมื่อแสงสว่างจากดวงอาทิตย์สาดส่องจ้ามากขึ้นเพียงใด เราก็จะเห็น เราก็จะรับรู้ได้ว่ามีอะไรซุกซ่อนอยู่บ้าง

วันนี้เริ่มมีหลายคน หลายฝ่าย ทั้งที่เป็นนักการเมือง ทั้งที่เป็นผู้ประสานงานของนักการเมืองเก่าๆ เพราะบอกว่าที่ผ่านมานั้นจะทำอะไร คิดอะไร แสดงความเห็นอะไรไม่ได้ ให้รอคำสั่งผู้ใหญ่ เขาก็ให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้นะครับ ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่ตกลงในพรรคที่ผ่านมานั้น ตกลงใครใหญ่สุด สมาชิกพรรคหรือว่าเจ้าของพรรค พรรคการเมืองมันเป็นองค์ประกอบนะครับ ที่จะประกอบขึ้นด้วยสมาชิก มีลักษณะซึ่งการรวมศูนย์ ซึ่งที่ผ่านมาซึ่งพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ใช้แบบนี้ อำนาจสั่งการอยู่ที่คนๆ เดียวนั้น มันไม่ถูกต้องตามหลักการของพรรคการเมือง พรรคการเมืองต้องทำเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มชน ซึ่งมีอุดมการณ์ความคิดตรงกันนะครับ แต่ที่ผ่านมาพรรคนั้นฟังคำสั่ง เขาบอกว่าผู้ใหญ่เพียงคนเดียว

ดังนั้นพี่น้องหลายคนอาจจะบอกว่าทำไมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่แปลงรูป เปลี่ยนร่าง เป็นพรรคการเมืองเสียเลย ตราบใดที่ประชาชนทั้งประเทศยังไม่เข้าใจถึงลักษณะของพรรคการเมือง ไม่เข้าใจถึงวิธีคิด ทัศนะทางการเมือง เราจะยังไม่พัฒนาไปถึงขั้นนั้น แต่เราพร้อมที่จะสร้างการเมืองภาคประชาชนให้เข้มแข็ง

วันนี้ก็คงได้เห็นอดีตที่ผ่านมา มีพรรคการเมืองนำกิจการของพี่น้องประชาชน ซึ่งก็คือรัฐวิสาหกิจไปแปรงสภาพนะครับ หรือแปรรูป วันนี้พี่น้องคงเห็นแล้วว่าเราทำอะไรได้บ้าง และทำอะไรไม่ได้บ้าง ที่ผ่านมาเราพูดถึงการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ หลายท่าน หลายคนก็บอกว่า เอ๊ะ เรื่องนี้ก็ดีนี่ทำให้รัฐวิสาหกิจมีเงินทุนไหลเข้ามาเพิ่มมากขึ้น เปรียบไปมันก็เหมือนแบบนี้ครับพี่น้องครับ เหมือนกับว่าเราเป็นตัวเราแต่เราขาดแคลนเงิน ซึ่งจะดูแลรักษาตัวเอง หรือจะมาทำหล่อทำสวย เราก็ถอดเสื้อขายทีละชิ้น ถามว่าวันหนึ่งเราถอดเสื้อผ้าหมดตัว เราจะเอาอะไรขาย ครับ

เช่นกัน นักการเมืองที่ผ่านมาบอก เอารัฐวิสาหกิจไปแปรสภาพขายหุ้นเสีย มันก็เหมือนกับการตัดแขนขาย ตัดขาแขน ผลสุดท้ายเงินที่ได้มาก็ตกไปอยู่ในการจัดรูปร่างแต่งตัวให้กับรัฐวิสาหกิจนั้นนะครับ เราคงเห็นว่าตัวอย่างชัดๆ ก็คือ เขากำลังฟ้องผมอยู่นะครับ บริษัท ปตท. วันนี้แปรสภาพไปเรียบร้อยแล้ว พี่น้องก็เห็นแล้วว่าที่ผ่านมาราคาน้ำมัน มันไม่ต้องสูงขนาดนั้นก็ได้ ขายราคาต่ำ ปตท.ก็ไม่ได้เจ๊ง แต่ ปตท. กลับไม่ขายราคาที่พี่น้องประชาชนอยู่ได้ กลับมุ่งทำกำไรสูงสุด เพราะว่าต้องตอบสนองต่อผู้ถือหุ้น โดยตรงนะครับ ผู้ถือหุ้นบอกว่าต้องการกำไรสูงสุด ใครอย่ามาลดกำไรของฉัน

แต่ ณ วันนี้ หลังจากที่เรากดดันอย่างหนัก ถ้า ปตท. ไม่โกยกำไรมาโดยตลอด เป็นไปได้อย่างไรในวันที่เราไปกดดันเต็มที่นั้น เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา น้ำมันลดลงวันเดียว 6 บาท ต่อลิตร พี่น้องประชาชน พี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ พี่น้องที่รับฟังอยู่ ทุกหัวระแหงนะครับ พี่น้องที่รับฟังอยู่ในต่างประเทศ ที่สัญญาณเราไปถึงคุณคือเพื่อนเรา คุณคือพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คุณคือคนไทยเจ้าของประเทศ เพราะฉะนั้นเราต้องคิดดูว่า มันสมควรหรือไม่ มันจำเป็นหรือไม่ ที่เราจะเอาสมบัติของเราเองนั้น ไปขายให้กับกลุ่มคน กลุ่มใด กลุ่มหนึ่ง ทำไมเราไม่ปรับปรุง ทำไมเราไม่ตัดแต่งเสื้อผ้าของเราให้ดูดีสวยงาม และทำให้ร่างกายแข็งแรงด้วยตัวเราเอง

ไม่จำเป็นนะครับสำหรับการที่กิจการของรัฐ หรือกิจการใดก็ตาม วันนี้ไม่จำเป็นต้องมีกำไรมาก แค่ไม่ขาดทุน แค่สามารถดูแลพี่น้องประชาชนอยู่ได้ เพราะว่าหน้าที่เหล่านี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาล รัฐบาลในการที่จะดูแลบำบัดทุกข์ บำรุงสุขประชาชน ไม่ว่ารัฐบาลใดก็ตามที่ขึ้นมา ถ้าไม่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขประชาชน นะครับ รัฐบาลนั้นก็ไม่สมควรอยู่ ในขณะที่เราเสียภาษี เพื่อให้รัฐบาลนำไปเสียค่าใช้จ่าย เป็นเงินเดือนของนักการเมือง เป็นเงินเดือนของ ส.ส. เป็นเงินเดือนรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี แต่ถ้ารัฐบาลไม่ทำหน้าที่เหล่านี้ เราก็ไม่จำเป็นต้องมีรัฐบาลนะครับ

หลายท่าน หลายคนบอกว่าเรานั้นไม่เสียภาษี เราขายของข้างถนน เราเข็นของขาย เราไม่ต้องเสียภาษี นอกจากคนที่ทำงานกินเงินเดือนเท่านั้นที่จะเสียภาษี ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ หลายท่านอาจจะสูบบุหรี่ เราเสียภาษีสรรพสามิต หลายท่านอาจจะดื่มสุรานิดหน่อยนะครับ เราก็เสียภาษีสรรพสามิต ท่านที่เป็นสุภาพสตรีอาจจะต้องมีเครื่องประทินโฉม มีน้ำหอม มีน้ำปรุง ท่านก็เสียภาษีสรรพสามิต และที่แน่นอนนะครับ ทุกท่านทุกคนเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ทุกคนหนีไม่ออก คุณจะเข็นของขายข้างถนน คุณจะขับแท็กซี่ ขับสามล้อ ขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือว่าท่านจะไม่มีรายได้เป็นหลักแหล่ง

บางท่านอาจจะเป็นพี่น้องที่ไม่มีรายได้ที่จะสามารถดำรงชีพอยู่ได้เองจริงๆ อาจจะต้องไปขอรับบริจาคนะครับ พี่น้องเหล่านี้ก็ต้องเสียภาษี เพราะไม่ว่าจะไปซื้ออะไร ใช้สินค้า หรือใช้บริการอะไรก็ตาม ท่านก็ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % ดังนั้นภาษีที่เราเสีย รัฐบาลต้องตอบสนองต่อเรา รัฐบาลต้องดูแล นำเงินภาษีเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์

แต่วันนี้ที่ผ่านมานั้น รัฐบาลยังไม่ทำประโยชน์เท่าที่ควร รัฐบาลอาจจะบอกว่าจะต้องแปรรูปรัฐวิสาหกิจ จะต้องทำให้ทุกอย่างมันเป็นธุรกิจ ปล่อยให้กลไกตลาดมันจัดการนะครับ รัฐบาล 2-3 รัฐบาลที่ผ่านมา เราก็ไม่เห็นด้วย พี่น้องประชาชนคงเห็นนะครับ ถ้าช่วงก่อนนั้นในการแปรสภาพการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ถ้าเราไม่สามารถยื้อไว้ได้ วันนี้ค่าไฟคงจะพุ่งถึงขนาดที่พี่น้องประชาชนเดือดร้อนแน่นอน เมื่อค่าไฟสูงขึ้น มันไม่เพียงแต่ค่าไฟ เพราะว่าอะไรรู้ไหมครับ การสูบจ่ายน้ำประปาไปตามบ้าน พี่น้องทุกท่านยังต้องใช้ไฟฟ้านะครับ ในการจะไปปั๊บน้ำสำหรับโรงสูบจ่ายน้ำของการประปา ไม่ว่าจะเป็นประปานครหลวง ไม่ว่าจะเป็นการประปาส่วนภูมิภาคเหมือนกันนะครับ

แล้ววันนี้ต้นทุนค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นมาจากไหน ส่วนใหญ่ กฟผ. จะใช้น้ำมันจาก ปตท. ซึ่งเป็นข้อตกลงบังคับเลยว่าหน่วยงานของรัฐต้องใช้น้ำมัน ปตท. เท่านั้น แล้วก๊าซธรรมชาติที่นำมาใช้ในการที่จะเดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ก็มาจาก ปตท. เจ้าเดียว กฟผ. ไม่สามารถจะซื้อก๊าซจากเจ้าอื่นได้ ปตท. พร้อมส่ง ถ้า กฟผ. ไม่ใช้ กฟผ. ต้องเสียค่าปรับ แต่ถ้า กฟผ. มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้า พร้อมที่จะผลิตกระแสไฟฟ้าได้ แต่ ปตท.ไม่พร้อมที่จะจ่ายก๊าซเข้าไปให้ กฟผ. ปตท.ไม่ต้องจ่ายค่าปรับ

เรื่องแบบนี้นะครับ ประชาชนหลายท่านอาจจะยังไม่ทราบ เรื่องนี้ ปตท. ต้องตอบคำถามประชาชนว่า คุณทำอย่างนี้ได้อย่างไร เขาก็จะตอบว่า เพราะนโยบายรัฐบาล เราก็ต้องกลับไปดูนโยบายรัฐบาลมาจากไหน ก็มาจากนักการเมืองเก่าๆ เป็นรูปแบบการเมืองเก่า ซึ่งคนเหล่านี้อิงกับผลประโยชน์ จากกลุ่มทุนธุรกิจ ตัวเองไม่ได้ถือหุ้นในส่วนของธุรกิจพลังงาน แต่ให้ญาติพี่น้องไปถือหุ้น และเราจะฝากอนาคตประเทศชาติ และพี่น้องประชาชนไว้กับนักการเมืองแบบนี้ได้อย่างไร

ดังนั้นจึงเป็นที่มาของกำเนิดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรามาเรียนรู้ร่วมกัน 193 วัน ในการชุมนุมซึ่งถือว่ายาวนานที่สุดในโลก ผ่านการไม่แยแส ไม่ใส่ใจของรัฐบาล รัฐบาลซึ่งถ้าเป็นรัฐบาลของประชาชนจริง ใครจะชุมนุมอย่างไร รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลให้ความปลอดภัยในการชุมนุม แต่รัฐบาลกลับนิ่งเฉยปล่อยให้ ผู้คนมาทำร้ายผู้ชุมนุม ดังนั้นจึงสมควรแล้วนะครับ ที่เราบอกว่าเราไม่ต้องการรัฐบาลที่ผ่านมา

แต่รัฐบาลนี้ก็เช่นเดียวกัน ถ้ายังทำการเมืองแบบเก่าๆ ผมก็ได้แต่หวังว่าพี่น้องประชาชนทั้งหลายจะลุกขึ้นมา แล้วบอกว่าเราก็ไม่เอารัฐบาลนี้เหมือนกัน ใช่ไหมครับ

พี่น้องครับ สิ่งเหล่านี้เอง เราจึงต้องมากำหนดร่วมกันว่า สำหรับระยะเวลาช่วงหนึ่ง เราจะดูว่ารัฐบาลทำอะไรให้กับประชาชนบ้าง อะไรที่เราเรียกร้องมาตลอดมาคุณต้องไม่ทำ แต่ถ้าคุณทำ พี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะลุกขึ้นมารวมกัน เราจะเติบโตร่วมกันอีกครั้ง และมันจะต้องเติบโตไปทั่วทั้งแผ่นดินนี้ ดังนั้นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะไม่ตายไปจากสังคมไทยครับ พ่อแม่พี่น้องครับ ขอบคุณครับ

รายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ช่วงที่ 2

สโรชา - กลับเข้าสู่รายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนะคะ เรียนให้ทราบถึงผู้สนับสนุน นายแพทย์ไพศาล ได้มอบให้ ASTV เป็นเงิน 10,000 บาท นอกจากนี้แล้ว พันธมิตรฯ ดี.ซี.ได้แจ้งมาว่าได้มีการโอนเงินมา พันธมิตรฯ ดี.ซี.มอบให้ ASTV เป็นเงิน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ นะครับ และก็ให้ผู้บาดเจ็บด้วย เป็นเงิน 3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต้องขอขอบพระคุณทุกท่านด้วยนะคะ ขอบพระคุณมากคะ

เดี๋ยววันที่ 14 มีนาคมนะคะ เข้าใจว่าอย่างนั้น หลายท่านจะไปกันที่สหรัฐอเมริกา ส่วนแอ้มคงต้องทำงานอยู่ที่สถานี แต่มีหลายต่อหลายท่านไปกันหลายชีวิตเหลือเกิน พ่อแม่พี่น้องที่สหรัฐฯ ต้องเตรียมตัว และรีบ พอทราบรายละเอียดแล้ว รีบจองตั๋วเครื่องบิน เข้าใจว่าจะจัดงานกันที่มหานครลอสเองเจลิส เพราะฉะนั้น 14 มีนาคม ไปพบกับพันธมิตรฯได้นะคะ

พ่อแม่พี่น้องทราบแล้วถึงการเปิดตัวของสถานีโทรทัศน์แห่งใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น สถานีโทรทัศน์แห่งใหม่แห่งนี้ คุณสาธิต วงศ์หนองเตย บอกว่า ไม่ได้เป็นสถานีใหม่เลยซะทีเดียว เพียงแต่ว่าเป็นสถานีเดิม แต่อาจจะเปลี่ยนชื่อเล็กน้อย คืออาจจะ PTV เป็น DTV ให้มันดูแบเก๋ มีอะไรใหม่ๆ เขาอ้างว่าเขาเป็นทีวีเพื่อประชาธิปไตย ภาษาอังกฤษเรียกว่า Democracy TV ฟังดูดีมาก แต่เมื่อดูรายนามของผู้ที่จะมาจัดรายการแล้ว อาจจะมีข้อกังขาบางอย่าง เพราะว่าเรียงมาเลยคะ ตั้งแต่อดีต 111 คนของไทยรักไทย มาถึงอดีตพลังประชาชน มาถึงกลุ่มเสื้อแดง เป็น นปช., นปช. ละลานตา ลายตา แต่เขาบอกว่าจะเริ่มในวันที่ 19 ม.ค.นี้ แต่มีติงนิดหนึ่ง กล้าพูด ออกดาวเทียมดวงเดียวกับ ASTV เขาบอกว่าใครดู ASTV ได้ จะรับชม DTV ได้ กล้าพาดจริงๆคะพี่คะ พี่คิดหรือว่าใครที่ดู ASTV เขาจะหมุนไปดูพี่ ใครคิดเหรอคะ กล้าคิดได้อย่างไรคะ ASTV เขาก็ดู ASTV เขาจะดูช่องพี่ พี่บอกว่าควรจะดูนะ DTV จะได้ถ่วงดุล ใครที่ถูกล้างสมองจะได้กลายเป็นผีดิบที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ ใครคะพี่ผีดิบ แถวนี้เขามีแต่ประชาชนชาวไทยหัวใจรักชาติเต็มเปี่ยมทั้งนั้น ใครผีดิบที่ไหนคะพี่ ผีดิบอาจจะต้องสถานีพี่แล้วมั้งคะ แถวนี้เขามีแต่ประชาชนชาวไทยผู้รักชาติทั้งนั้น ไม่มีผีดิบแน่นอน แต่กล้าพูดนะ แต่ไม่เป็นไร ขอบคุณมากที่โฆษณาให้กับ ASTV และถ้าหากใครซื้อจานของพี่ไป ไม่พอใจ DTV พี่หมุนมา ASTV เรายินดีต้อนรับพวกพี่เสมออยู่แล้วนะคะ อย่าลืม

พูดถึงเสื้อแดงไม่พูดถึงเพชรบุรีไม่ได้ เพราะว่า เขาบอกว่าประชุมอาเซียน ที่จะมีผู้นำประเทศมารวมตัวกันที่หัวหินตามที่รัฐบาลกำหนดนั้นจะมีกลุ่มเสื้อแดงไปต้อนรับ หรือว่าต้อนรับผู้นำอาเซียนคัดค้านการประชุม เขาว่ากันอย่างนั้น อันนี้ต้องไปถามเจ้าของถิ่นเขานะ พันธมิตรฯ เพชรบุรี เขาเพิ่งจัดงานไปเมื่อคืนนี้ เขาไปกัน ไปเปิดเวทีการเมืองภาคประชาชนภายใต้ชื่อว่า "แนวคิดการเมืองใหม่พันธมิตรภาคประชาชน" มีพี่สมศักดิ์ โกศัยสุข อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ มีพี่หรั่ง ร็อคเคสต้า วง ก.ไก่ แหลม ผู้จัดกวน คีตาอัญชลี ประทีปขจัดพาล ก็ไปกันที่เพชรบุรีเมื่อวานนี้ ได้พูดคุยกันหลายเรื่อง แถมยังมีการป่วนกันเล็กน้อย มีการปาระเบิดปิงปองกัน แต่ที่สำคัญนัยสำคัญถ้าหากไปถามเจ้าของพื้นที่อย่างพันธมิตรฯ เพชรบุรีว่า ที่เขาจะไปจัดประชุมอาเซียนกัน พันธมิตรฯ เพชรบุรีจะทำอย่างไร เมื่อเสื้อแดงเขาบอกว่าจะมาขัดขวางการประชุม คนเพชรบุรีบอกอย่างนี้คะ คนเพชรบุรีขอบอกว่าคุณอย่ามา แต่ถ้าอยากมาเรายินดีต้อนรับ แต่คุณอย่าหวังนะว่าคุณจะได้กลับ สั้นง่ายได้ใจความ ไม่ต้องอธิบายต่อ นี่เล่าให้ฟังว่า เจ้าของพื้นที่เขาว่าอย่างไรสำหรับเพชรบุรี ที่เขาจะต้อนรับผู้นำอาเซียน ในการประชุมที่จะมีอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าคะ

วันนี้มาต้อนรับท่านนี้กัน วันนี้มีเรื่องอะไรมาพูดคุยกับพ่อแม่พี่น้องพันธมิตรฯ เดี๋ยวรอฟังกันนะคะ ต้อนรับคุณอัมรินทร์ คอมันตร์ สวัสดีคะ คุณอัมรินทร์เชิญคะ

อัมรินทร์ - ขอบคุณครับคุณแอ้ม เพื่อนร่วมชาติที่เคารพรักทุกท่าน ผมจำได้ว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ ได้นำคณะรัฐมนตรีเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สิ่งหนึ่งที่พระองค์ได้ทรงห่วงใยพสกนิกรของพระองค์อย่างยิ่ง และได้กล่าวเตือนคณะรัฐมนตรีว่า ถ้าบริหารประเทศไม่ดี ประเทศล่มจม ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นอย่างชัด ถึงความห่วงใยของพระองค์ท่านที่มีต่อพสกนิกรที่มีต่อบ้านเมือง

ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาเกือบเดือน ที่รัฐบาลนี้เข้ามาบริหารประเทศ ผมเรียนตรงๆ โดยไม่ปกปิด ว่าเมื่อทราบว่าจะเข้ามาบริหารประเทศ ผมก็มีความห่วงใยประเทศชาติ และประชาชนเป็นอันมาก ทั้งนี้ก็เพราะว่า ทั้ง 2 ฝ่ายที่เข้ามาร่วมกัน ก็เคยมีประวัติศาสตร์ เคยมีการแสดงผลงาน ที่สร้างความปวดร้าวให้แก่ประชาชนมาเป็นอย่างมหาศาลเลย ซึ่งจะต้องจดบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ และยิ่งได้เห็นการให้สัมภาษณ์ หรือแนวทางการที่จะได้บริหารประเทศต่อไปโดยรัฐบาลชุดนี้ ก็ยิ่งเป็นห่วงมากอีก และนอกเหนือไปจากนั้น ก็คือการที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศได้ ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็เป็นเหตุการณ์ทางด้านการเมือง จากการที่พันธมิตรฯ ได้ออกมาที่จะปกป้องสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ออกมาปกป้องแผ่นดิน ปกป้องสมบัติของชาติ รัฐวิสาหกิจต่างๆ รวมทั้งออกมาปกป้องการทำกินของชาติ

สิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้มีการพูดบนเวทีมาตลอดร้อยกว่าวัน พี่น้องร่วมชาติได้ยอมเสียสละด้วยชีวิตตนเอง ยอมอดตาหลับขับตานอน นอนกลางดินกินกลางทราย ยอมทิ้งบ้าน ทิ้งครอบครัว มาอยู่ที่ทำเนียบ แล้วแต่ละท่านนอกจากจะแสดงความห่วงใยต่อชาติ บ้านเมือง ต่ออนาคตของลูกหลานเราแล้ว ก็ยังได้แสดงสิ่งที่ประชาชนควรจะต้องมี ประเทศชาติควรจะต้องการ และสิ่งเหล่านี้มันน่าจะอยู่ในสมอง มันน่าจะอยู่ในความคิดของผู้ที่มีอำนาจในการบริหารประเทศวันนี้ของนักการเมืองที่อยู่ในสภาวันนี้ ในอันที่จะปกป้องประเทศชาติ ปกป้องประชาชน ปกป้องการทำกิน ปกป้องสถาบัน และสร้างความกินดีอยู่ดีให้แก่ประเทศชาติ

แต่มาวันนี้ผมพูดได้เลยว่า ไม่จำเป็นต้องคอยกันนานหรอก ไม่จำเป็นต้องให้เวลา เพราะพวกท่านทั้งหลายที่บริหารประเทศ ท่านผู้มีเกียรติทั้งหลายเหล่านั้น พวกท่านเป็น ส.ส.มากี่สมัย เคยเป็นรัฐบาล เป็นรัฐมนตรี พวกท่านกินเงินเดือนประชาชนมาตลอด 10 กว่าปีนี้อย่างน้อย แล้วพวกท่านบอกว่าขอเวลาศึกษาหน่อย ชาวบ้านเขาเดือดร้อนเรื่องการทำมาหากิน ร้องเรียนมา 10 กว่าปีแล้ว ท่านมาบอกว่าขอเวลาศึกษาหน่อยซิ อันนี้มันไม่ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ หรือความตั้งใจที่จะเข้ามาบริหารประเทศ เพื่อประโยชน์สร้างความอยู่ดีกินดีให้แก่ประเทศชาติ และประชาชนเลย

ท่านพูดได้อย่างไรว่าท่านบอกว่าจะขายรัฐวิสาหกิจต่อ จริงอยู่ พวกท่านเมื่อ 10 กว่าปีแล้ว พวกท่านี่แหละเป็นพวกที่ออกกฎหมายขายรัฐวิสาหกิจ ไม่งั้นคุณทักษิณ ขายรัฐวิสาหกิจไม่ได้หรอกครับ นอกแต่ว่าเขาต้องออกกฎหมายมาใหม่ แล้ววันนี้แทนที่พวกท่านจะสำนึกผิดนะครับ จะเอาของที่สมบัติของชาติขายไปแล้วกลับคืนมาสู่ประชาชน สู่ประเทศชาติ สำหรับลูกหลานไทยของเราต่อไปปรับปรุงให้ดีต่อไป แต่ท่านกลับจะขายต่อ

ท่านครับ ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่คิด หรือไม่มีประสบการณ์ทางด้านการค้า ก็อาจจะขาย ช่างหัวมัน แต่ท่านทราบไหมครับ วันนี้คนเขารู้กันนะครับ จากที่ผ่านมา การขายรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง ผู้บริหารประเทศ นักการเมืองบางคน รวมทั้งญาติพี่น้อง และข้าราชการที่ไม่สุจริตบางคน สามารถที่จะแสวงหาผลประโยชน์จากการขายรัฐวิสาหกิจได้ทุกขั้นตอนของการขายรัฐวิสาหกิจเลย เริ่มตั้งแต่การหาที่ปรึกษา ที่ปรึกษาเงินมหาศาลเลยครับ ว่าจะขายอย่างไร จะทำอย่างไร จะศึกษาควรจะขายเท่าไหร่ อะไรต่างๆ ต่อมา ตั้งผู้ขาย จะให้ธนาคารไหน หรือให้สถาบันการเงินขาย นี่ก็ได้เงินอีก มีเงินเข้ามาเกี่ยวข้องมหาศาลอีก ก่อนจะขายก็เอาญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง กวาดหุ้นไว้ก่อน อยู่ในพวกของตัวเอง ต่อไปเมื่อขายไปแล้วก็ปั่นหุ้นไปอีก บางรายได้เงินเป็นมหาศาลเลยทีเดียว เป็นแสนล้าน หมื่นล้านก็มี

นี่แหละครับคือที่มาของการขายรัฐวิสาหกิจ ต่อมาเมื่อประชาชนรู้มากเข้า ก็ขายให้ต่างชาติโดยผ่านตลาดหลักทรัพย์ แต่ที่สำคัญอีกอย่างก็คือว่า ประเทศต่างๆ ที่เคยมีผู้บริหารที่เลวร้าย แล้วก็ขายสมบัติของชาติ ขายรัฐวิสาหกิจ ขายแผ่นดิน วันนี้เขามีรัฐบาลที่ดี เพราะว่าประชาชนหมดตัวแล้ว ก็เริ่มตื่น ต้องการรัฐบาลที่ดี ซื่อสัตย์ สุจริต เพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน เพื่อประชาชน เขาเอารัฐวิสาหกิจกลับมานะครับ แล้วรัฐบาลชุดนี้ รัฐมนตรีชุดนี้ไม่รู้เรื่องเหรอครับ จบดอกเตอร์ จบมหาวิทยาลัยต่างประเทศกันทั้งนั้น ไม่รู้เรื่องเหรอ แล้วยังจะคิดขายกันต่ออีก แสดงให้เห็นว่าพวกคุณไม่ได้เข้ามาเพื่อประเทศชาติ เพื่อความอยู่ดีของประชาชนเลย

นอกจากนั้นแล้วทุกวันนี้ก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่ ว่าพี่น้องร่วมชาติเราจนลงจนลงทุกวัน ความจนมาเยือนแทบทุกประตูบ้าน ทำไมจะไม่จนละครับ ในช่วงเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา พวกท่านออกกฎหมายเปิดเสรีการค้าอย่างร้ายกาจ เลวร้ายที่สุด แล้วท่านก็โกหกประชาชนกัน ว่าต้องทำตาม WTO ต้องโลกาภิวัตน์ ต้องเปิดเสรี ใครๆ ก็เปิด

หลอกประชาชนทั้งนั้น จนกระทั่งทุนข้ามชาติมากว้านอะไรหมด ทั้งแต่ธนาคาร ยันค้าปลีกค้าส่ง แล้ววันนี้ท่านก็เป็นนักการเมืองมาตลอด ถ้าท่านไม่รู้ความทุกข์ยากของประชาชน และวันนี้ท่านมาเป็นรัฐบาล ท่านเคยอ้าปากออกมาซักนิดหนึ่งไหม ว่าท่านจะปกป้องส่งเสริมการทำกินของคนในชาติ มีไหมครับ ท่านกลับมาบอกว่า จะเปิดเรื่องการค้า จะยึดนโยบายเสรีอย่างเป็นธรรม ซึ่งมันไม่มีที่ไหนในโลก มันไม่มี ขนาดสหรัฐฯ ซึ่งเป็นชาติใหญ่ ชาติมหาอำนาจ เขายังปกป้องการทำกินของคนในชาติเขาเลย แต่เขาก็อ้าปากบอกให้ทุกชาติเล็กๆ ให้เปิดเสรีเพื่อที่เขาจะเข้าไปฮุบกิจการได้ ถ้าประเทศไหนมีนักการเมืองที่ไม่มีความผูกพันต่อประเทศชาติ และประชาชน จนทุกวันนี้คนไทยจะหากินก็ลำบาก ไม่ใช่เฉพาะค้าปลีกค้าส่งนะครับ ที่ถูกครอบงำ ถูกทำลาย ชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยถูกทำลายไปมากมายเหลือเกิน กับการเข้ามาครอบงำจากทุนข้ามชาติ แล้วไม่มีนักการเมือง หรือผู้บริหารประเทศคนไหนที่มีความกล้าพอที่จะออกมาปกป้องประชาชน และประเทศชาติ ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ที่เล็กกว่าประเทศไทยเยอะแยะ เขาไม่ให้พวกนี้มาทำลายคนในชาติเขาเลย แต่นี่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับความทุกข์ยากของคนไทย แผ่นดินก็เหมือนกัน ปล่อยให้ทุนข้ามชาติมาซื้อ แล้วคนไทยจะหาที่ทำกิน ที่ซุกหัวนอนเป็นนับสิบล้านคน ลูกหลานเราจะแย่ ในขณะที่คนอื่นต้องปกป้องต่อสู้ ฆ่ากันตายรบกันตายก็เพราะแผ่นดิน แต่ประเทศไทยปล่อยให้เขาเข้ามา

ย้อนกลับมาเรื่องการทำกินนิดหน่อย วันนี้แทนที่จะช่วยกันปกป้องการทำกินไว้ให้กับคนไทย ยกมาตรฐานระดับการทำกินให้เขาอยู่ดีกินดี กลับปล่อยให้ต่างชาติเข้ามาแย่งการทำกินเกือบทุกอย่าง แม้กระทั่งนายหน้า พาซื้อบ้าน ขายบ้าน สารพัดไปหมด เข้ามาขายที่ดินเยอะแยะ โดยไม่คำนึงถึงคนในชาติเลย

สิ่งที่เลวร้ายอีกอย่างก็คือ ผมก็ต้องพูดซ้ำ พูดมา 10 ปีแล้ว เรื่องกฎหมายขายชาติผม อาจารย์พิภพ คุณสมศักดิ์ เคยต่อต้านกฎหมายนี้มาตั้งแต่ปี 42 เรียกว่าไปขับไล่รัฐบาลคุณชวน หน้าทำเนียบ บนเวทีมาแล้ว พวกนี้ก็ไม่ฟัง พอมีอำนาจแล้วพวกนี้ไม่ฟัง ไม่รู้ประชาชนจะเป็นอย่างไร พูดอย่างไร ชั้นเล่นลูกนี้ ชั้นเล่นลูกนั้น อันนี้ละครับคือสิ่งที่ผมไม่อยากเห็นรัฐบาลชุดนี้ทำ

ที่พูดมานี่ไม่ใช่พูดเพื่อความเกลียดชัง แต่พูดเพื่อที่จะปกป้องคนไทยทั้งชาติมาไม่ให้ได้รับกรรมต่อกันไป พูดให้พวกเราได้เห็นคุณค่าของคนที่ยอมเสียสละชีวิต ยอมเป็นยอมตาย เพื่อจะขับไล่นักการเมืองเลวๆ ให้พ้นแผ่นดินไป เพื่อที่จะได้มาซึ่งผู้บริหารประเทศที่ยืนอยู่เคียงข้างประเทศชาติ ประชาชน และสถาบันอย่างแท้จริง ไม่ใช่มาเล่นละครให้เราดูอยู่ทุกวัน

ผมบอกตัวผมเองว่าผมมีเวลา ผมก็ออกมาร่วม เขามาเชิญผมขึ้นเวทีผมก็ขึ้น ผมเห็น ถ้าเราอยู่กันเฉยๆ บ้านเมืองวิบัติแน่ ประชาชนปล่อยให้คนเพียงกลุ่มเดียวเข้ามาจูงจมูกกันไปอย่างนั้นเลย เขาอยากจะทำอะไรก็ทำไป ผมคนหนึ่งจะไม่ให้เวลานะครับ ผมบอกตรงๆ เลย คุณคิดว่าพวกเราโง่หรืออย่างไร ที่คุณมีพฤติกรรมอย่างนี้ออกมา

เพราะฉะนั้นผมถึงเห็นว่า ถ้ารัฐบาลนี้ยังขืนทำอย่างนี้ต่อไป แย่ รัฐบาลนี้หลายคนเคยขึ้น เคยด่า ไม่ว่าสถานที่ไหนก็ตาม เคยว่ารัฐบาลทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประชานิยม การโกง การกิน อะไรก็แล้วแต่ แต่วันนี้พวกคุณกำลังทำอย่างเขาเลย คุณเอาประชานิยมมา ซึ่งประชานิยมของคุณที่เอามาไม่แพ้ที่คุณทักษิณ ทำอยู่ คุณน่าจะเอาสิ่งที่ดีกว่านั้นมานะครับ

ผมต้องพูดซ้ำอีกครั้งหนึ่ง เพราะประชานิยมที่ทำกันเนี่ย ก็คือการเอาเงิน ถ้าเปรียบก็เสมือนน้ำ เอามาเทใส่กระบุง มันไม่ได้ใส่ชัน คือไม่ได้ทำให้น้ำก็สามารถอยู่ในกระบุงได้ ชันก็คือมาตรการต่างๆ ที่ถูกต้องก่อนที่จะให้เงินกับประชาชนเขาไป เพื่อที่จะไปพัฒนาความอยู่ดีกินดี พวกคุณไม่ทำเลย ลุกลี้ลุกลนกันใหญ่รีบเอาเงินไปให้เขานะครับ เซ็นสัญญา รถใต้ดิน ปากท้องของประชาชน ทำไมคุณไม่คิดถึงก่อน ทำไมคุณไมทำสิ่งที่ถูกที่ควร

อันนี้เป็นเรื่องที่อย่าจะให้คิดไว้ ว่าการบริหารประเทศต้องยึดมั่น ไหนๆ ก็ให้สัตย์ปฏิญาณกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ถึงเวลาทำกันจริงหรือเปล่า แต่ประชาชนจะต้องเฝ้าดู ไม่ใช่เฝ้าอย่างเดียว ต้องส่งเสียงออกมาด้วย ถ้าคุณทำผิดอย่างนี้ไป ผมเคยเรียนมาตั้งแต่ต้นแล้ว ตอนขึ้นเวทีผมก็พูด ผมบอกว่าการที่จะแก้ปัญหาบ้านเมืองได้ จะต้องมีรัฐบาลเฉพาะกิจเท่านั้น ที่กล้าอย่างแท้จริง แล้วยืนอยู่เคียงข้างประเทศชาติ ประชาชนอย่างแท้จริง และสถาบันอย่างแท้จริง ประเทศชาติถึงอยู่รอด ประชาชนถึงอยู่รอด ผิดจากนี้ไปแล้วไม่มีทางหรอกครับ เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์และอำนาจต่อไปอีก เพราะฉะนั้นเราจะทำอย่างไรครับ เราก็จำเป็นนะครับ

ผมออกมานี่เนี้ย ผมไม่ได้ออกมากล่าวหารัฐบาล แต่ออกมาเตือนรัฐบาล ว่าคุณเนี้ย ในฐานะที่ผมเองก็มีความผูกพันต่อประเทศชาติ ประชาชน และสถาบัน และสู้มาตลอด ผมมาเตือนว่าคุณทำอย่างนี้มันไม่ถูกนะ คุณกำลังก้าวผิดแล้ว แล้วจะให้ผมเชื่อว่าคุณก้าวถูกเนี้ย ผมไม่เชื่อหรอกนะครับ แล้วมีอยู่ทางเดียวที่จะนั่นได้ก็คือ คุณต้องไป แล้วคุณก็เตรียมตัวจะไปด้วย เพราะวันนี้คุณใช้วิธีประชานิยมอย่างรวดเร็วเลย คุณพยายามจะสร้างคุณทักษิณ เอาคะแนนมาได้อย่างไร คุณก็จะเอาคะแนนอย่างนั้น คุณคิดว่าจะมีการเลือกตั้งครั้งต่อไป ทำไมคุณไม่ทำให้ดีกว่านี้ละ ทำอะไรต่ออะไรให้ดี ประชาชนเขาก็หันมาสนับสนุนคุณเอง ผมก็สนับสนุนถ้าคุณทำถูก แต่ถ้าคุณทำไม่ถูกต้อง ผมก็จะต้องออกมาพูดอย่างนี้แหละ

คุณเคยพูดไหมว่าคุณจะเอาเขาพระวิหารกลับมาอย่างรวดเร็ว คุณเคยพูดไหม คุณก็ไม่เคยพูด คุณเคยพูดไหมว่า เอาละตั้งแต่นี้ต่อไปฉันจะไม่ให้ทุนข้ามชาติ ค้าปลีกทั้งหลาย ที่มาสร้างผลกระทบให้กับคนในชาติ ให้มันถอยกลับไปบ้าง เพราะว่าชาติอื่นก็ไม่ให้มันเข้า ให้มันถอยกลับไป คุณเคยพูดไหม คุณเคยพูดไหมว่าคุณจะเอารัฐวิสาหกิจกลับคืนมา คุณก็ไม่เคยพูด แล้วคุณทำอะไรเข้ามา เข้ามาเพื่ออะไร แล้วประชาชนเองผมก็สงสาร

พอสมัยหนึ่งมีเทพ มีมาร ประชาชนก็มาเลือกเทพ ดีใจก็ได้เทพมา แต่ก็โดนเทพเล่นงานจน ไปเจอเทพปลอมเข้า คราวนี้ก็เหมือนกันอีก ไม่เอาอันนั้นก็ดันมาเจออันนี้ แล้วไม่ได้เจออย่างนี้ มาจับมือกันซะอีกด้วย แล้วประชาชนจะเป็นอย่างไรครับ ถ้าคุณไม่ทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนอย่างแท้จริง คุณเอาเงินไปให้ชาวบ้านชาวช่องเขา อย่างเช่น ประชานิยม

คุณเคยบอกไหม คุณเอาเงินเป็นแสนล้าน ไปให้เขา แล้วจะได้กลับมาเท่าไหร่คุณบอกเขาบ้างหรือเปล่า คุณไม่บอกเลย การเอาเงินออกไปจากกระเป๋าต้องคิดแล้วว่าจะกลับมาเท่าไหร่ นี่คุณไม่บอกเลย เอาเงินของประชาชนไป และผู้ที่ได้รับก็เป็นหนี้ต่ออีก คุณเคยบอกไหมว่าคุณจะไม่ให้เกษตรกรไทยได้รับความเดือดร้อนจากการเปิดเสรีการค้า ไอ้ FTA ที่ไปให้สินค้าเกษตรต่างชาติเข้ามาทำร้ายเกษตรกรไทย คุณก็ไม่เคยพูด คุณคิดแต่ว่าจะเอาเงินพันล้าน แล้วไปช่วยส่งออก สิ่งเหล่านี้ผมขอเรียนตรงๆ ว่าวันนี้คนไทยอาจจะตื่นตัวกัน

แล้วก็เป็นที่น่าเห็นใจนะครับที่พันธมิตรฯ พยายามจะทำเพื่อประเทศชาติ และประชาชน แต่บางครั้งเราทำไปแค่ครึ่งทางเท่านั้น มันไม่ถึงสุดทาง 2 ครั้งแล้วที่เราทำ ผมจึงคิดว่าถ้ารัฐบาลชุดนี้ยังมีสติอยู่ ก็ต้องรีบเปลี่ยนปรับตัว ถ้าไม่รีบปรับตัวผมก็คิดว่าประชาชนคงไม่ยอมที่จะถูกทำร้ายอีกต่อไป ขอบคุณครับ