xs
xsm
sm
md
lg

โฆษก ปชป.ย้ำจุดยืน"มาร์ค"ไม่แก้ รธน.ช่วยคนพ้นผิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พันธมิตรฯ เดินหน้าถอดถอน"ปู่ชัย"บรรจุร่างแก้ รธน.พรรคร่วมพร้อมร่าง"หมอเหวง"เข้าที่ประชุมสภาโดยผิดกฎหมาย เชื่อพรรคร่วมฯ เดินเกมกดดัน ปชป.ต่อรองผลประโยชน์ ด้าน"หมอท็อป"ย้ำจุกยืน"มาร์ค"แก้ รธน.ต้องไม่ให้ ปชช.เดือดร้อน-ไม่ช่วยคนพ้นผิด พร้อมจับตาเสื้อแดงตลอดเดือน ก.พ.


 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ "คนในข่าว"  

รายการ "คนในข่าว" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 20.30-21.30 น. วันที่ 11 กุมภาพันธ์ มี น.ส.รัตติกรณ์ จารุเกษตรวิทย์ เป็นผู้ดำเนินรายการ แขกรับเชิญนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายแพทย์บูรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้พูดคุยกันถึงการเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และวิกฤตคนเสื้อแดง

นายสุริยะใส ชี้แจงว่าวันนี้ จะเดินทางไปยื่นแสดงตนต่อนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เพื่อขอถอดถอนนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ฐานจงใจใช้อำนาจกระทำการขัดต่อรัฐธรรมนูญ คือวันนี้เรารู้แล้วว่าพรรคร่วมรัฐบาลใข้การเป็นพรรคร่วมมาเป็นเงื่อนไขต่อรอง ซึ่งตนคิดว่าหากตนเป็นพรรคร่วมรัฐบาลคงจะต้องหาทางประคองสถานการณ์ตอนนี้ให้ผ่านพ้นวันที่ 26 ก.พ. ไปก่อน พรรคร่วมไม่ควรกระทำการซ้ำเติมวิกฤติการเมือง มีคนถามให้เราออกแต่เห็นว่าในตอนนี้เป็นช่วงที่ไม่เหมาะสม บนพื้นฐานของความขัดแย้งตรงนี้ เราไม่อยากไปเพิ่มให้รุนแรงขึ้น แต่สิ่งไหนไม่ถูกก็ไม่ได้เพิกเฉย เราสู้ตามพื้นฐานประชาชน

สิ่งที่พันธมิตรฯ กังวลคือเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็เห็นกันแล้วว่ามีการรวบรัดเอาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้ง 2 ฉบับคือของพรรคร่วมรัฐบาลและร่าง คปพร.ของ นพ.เหวง โตจิราการ เข้าที่ประชุมสภาแล้ว โดยไม่สนใจความขัดแย้งต่อสังคม เพราะร่าง คปพร.มีลักษณะไม่ชอบธรรม อาทิ มีการทำลายรัฐธรรมนูญ 2550 ที่ประชาชนได้ลงประชามติเอาไว้ เพียงเพื่อต้องการเอื้อประโยชน์กับพวกตนและให้ทักษิณเดินทางกลับไทยได้โดยไม่สนใจความขัดแย้งที่กำลังมีอยู่

สำหรับการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของ คปพร.นอกจากจะไม่มีกฏหมายรองรับเรื่องการเข้าชื่อของประชาชนแล้ว ยังพบว่ามีหลักฐานการล่ารายชื่อของประชาชนกว่า 71,543 คน ไม่สมบูรณ์

นพ.บุรณัชย์ กล่าวถึงการประเมินสถานการณ์กลุ่มเสื้อว่า วอร์รูมพรรคประชาธิปัตย์ ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเดือนกุมภาพันธ์นี้การเคลื่อนไหวจะรุนแรงถึงขั้นวิกฤต โดยเฉพาะในช่วงการพิพากษาคดียึดทรัยพ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งวอร์รูมเห็นว่าภายหลังจากที่คนเสื้อแดงประกาศตั้งกองทัพประชาชน แต่กลับไม่เป็นที่ชื่นชอบของสังคมทำให้คนเสื้อแดงได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการเคลื่อนไหวเป็น 2 ช่วงเวลา ภายใต้ 3 ยุทธศาสตร์ คือ ช่วงวันที่ 10-19 ก.พ. หลังจากนั้นจะมีการระดมคนมาชุมนุมใหญ่ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ช่วงนี้คนเสื้อแดงจะใช้สื่อเป็นเครื่องมือในการปลุกระดม ดูจากการที่ พ.ต.ท.ทักษิณเพิ่มวันออกอากาศรายการวิทยุทักษิณไลฟ์จากเฉพาะวันอังคาร มาเป็นออกอากาศทุกวัน นอกจากนี้ในช่วงเวลาเดียวกัน จะใช้ปฏิบัติการโอนเงิน ซึ่งพรรคขอสนับสนุนให้รัฐบาลให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยหากพบว่าไปปรากฎที่ใดก็ให้อายัดเงินทันที

นพ.บุรณัชย์กล่าวอีกว่า ช่วงก่อนและหลังการตัดสินยึดทรัพย์ของทักษิณ คนเสื้อแดงคงต้องใช้ยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหวมวลชน โดยจะเคลื่อนไหวมวลชนคนเสื้อแดงไปตามสถานที่สำคัญต่างๆ อาทิ ทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา ศาลฎีกา ยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหวมวลชนคนเสื้อแดง ยุทธศาสตร์อาศัยผู้อบรม นปช. และยุทธศาสตร์การฝึกกองกำลังติดอาวุธจรยุทธ และเมื่อฝึกเสร็จจะมีการมอบเครื่องแบบสีดำ จากนั้นจะอ้างเป็นการ์ดของ นปช.ใส่ชุดดำในการชุมนุม

สำหรับท่าที่ของนายกที่มีต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า นายกรัฐมนตรีมีแนวทางที่ชัดเจน 2 ข้อ คือ ต้องไม่ทำความเดือดร้อนให้ประชาชน และการแก้ไขนี้ ไม่ได้เอื้อประโยชน์เพียงเพื่อช่วยให้ใครบางคนพ้นผิดและออมมายืนอยู่เหนือกฎหมาย โดยรัฐบาลได้เตรียมการรับมือและเฝ้าระวังต่อเนื่อง เพราะเหตุการณ์เมื่อวันสงกรานต์ถือเป็นกรณีศึกษาที่ดี ซึ่งเรานำมาใช้เป็นบทเรียนและจะไม่ตอบโต้
กำลังโหลดความคิดเห็น