xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” วอนพี่น้องชลบุรี ยุติความบาดหมาง-รวมพลังจัดงาน 17 ม.ค.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล วอนแกนนำพันธมิตรฯ ชลบุรี ยุติความขัดแย้ง หันมาร่วมแรงร่วมใจจัดงาน “คอนเสิร์ตการเมือง”

“สนธิ” วอนแกนนำพันธมิตรฯ ชลบุรี ยุติความขัดแย้งส่วนตัว หันมาร่วมแรงร่วมใจจัดงาน “คอนเสิร์ตการเมือง” ครั้งแรก 17 ม.ค.นี้ เพื่อเป็นต้นแบบของการจัดงานทั้งประเทศ ระบุหากงานนี้ไม่ประสบความสำเร็จ คนที่จะเจ็บ คือ เอเอสทีวี และพี่น้องพันธมิตรฯ ทุกคน

นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวผ่านรายการ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ทางเอเอสทีวี เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.วันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา ฝากไปถึงพันธมิตรฯ ในภาคตะวันออก ว่า มีความรู้สึกไม่สบายใจ กรณีที่แกนนำพันธมิตรฯ ในจังหวัดชลบุรี มีความขัดแย้งกันเกี่ยวกับการจัดงานคอนเสิร์ตการเมืองครั้งที่ 1 ที่สนามกีฬากลางจังหวัดชลบุรี ในวันที่ 17 มกราคม ที่จะถึงนี้

“สวัสดีครับท่านพ่อแม่พี่น้องชาวพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ท่านผู้ชม ASTV วันนี้เป็นกรณีพิเศษจริงๆ ที่ผมต้องมาพูดนะ ผมอยากจะพูดคำพูดนี้ฝากไปยังพ่อแม่พี่น้องที่รักของผมทุกๆ ท่าน ที่ภาคตะวันออกจังหวัดชลบุรี ผมมีเรื่องจำเป็นต้องพูด และผมไม่สบายใจ

ผมไม่ได้มาขออะไรแต่ผมกำลังจะเล่าว่า การที่จะมาร่วมทำงานกัน พ่อแม่พี่น้องให้การสนับสนุนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น พ่อแม่พี่น้องมาสนับสนุนเพราะมีอุดมการณ์ร่วมกัน เรามีความเห็นตรงกัน พ่อแม่พี่น้องได้มาชมการต่อสู้ ฟังเรื่องราวต่างๆ นั้น พ่อแม่พี่น้องเห็นด้วยว่าสิ่งที่แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยลุกขึ้นยืนสู้นั้นเราสู้บนความถูกต้อง สู้อยู่บนพื้นฐานของจริยธรรมและศีลธรรม สู้เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และราชบัลลังก์

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก่อกำเนิดมาทุกๆ จุด เหนือ ใต้ ตะวันออก อีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันตก ทั้งหมดนี้ ภาคใต้และภาคตะวันออกเป็นศูนย์ที่สำคัญที่สุดในการต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นหลายๆ จังหวัดทางภาคใต้ที่ต้องทิ้งไร่ ทิ้งนา ทิ้งบ้านช่องซึ่งถูกน้ำท่วม มาช่วยร่วมกันสู้ ส่วนภาคตะวันออกนั้นเป็นชนชั้นกลางส่วนใหญ่ของภาคตะวันออก ซึ่งยอมเสียสละเวลา เวลาเราเดือดร้อนขึ้นมา เราประกาศไปขอความช่วยเหลือจากต่างจังหวัด พ่อแม่พี่น้อง นอกจากรอบเขตกรุงเทพมหานครแล้วที่จะมาก่อนเพื่อนคือภาคตะวันออก ความรู้สึกผูกพันนั้นก็ผูกพันกับภาคตะวันออกเป็นพิเศษ ผมเองนั้นก็เป็นคนที่เจริญเติบโตมา เรียนหนังสืออยู่ที่ภาคตะวันออก โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา

เมื่อศึกสงครามสิ้นสุดลงแล้วพ่อแม่พี่น้องเองก็ไม่อยากให้เงียบหายไป ก่อให้เกิดการสลายตัวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็เลยเป็นสาเหตุที่พ่อแม่พี่น้องพยายามจัดร่วมชุมนุมกันตามที่ต่างๆ การจัดร่วมชุมนุมกันตามที่ต่างๆนั้นก็มีทั้งผลดี และผลเสีย เพราะเดิมทีแล้วทาง ASTV ก็ตั้งใจจะไปจัดคอนเสิร์ตทางการเมือง ซึ่งผมเคยกราบเรียนพ่อแม่พี่น้องไปแล้ว แล้วก็ขอให้พ่อแม่พี่น้องช่วยกันสนับสนุน โดยเก็บค่าบัตรคนละ 200 บาท เพื่อที่จะมาสนับสนุน ASTV ซึ่งพ่อแม่พี่น้องตอนนั้นก็ให้การสนับสนุนกันอย่างท่วมท้น

พี่น้องครับ ASTV นั้นเป็นหัวใจของการเชื่อมโยงพ่อแม่พี่น้อง และเป็นสื่อที่สำคัญในการที่จะเอาความจริงในสังคมไทยมาตีแผ่ แต่พี่น้องก็รู้ใช่ไหมครับว่า ค่าใช้จ่าย ASTV นั้นเราไม่ได้เอามาจากไหนเลยในการต่อสู้ 193 วัน พ่อแม่พี่น้องช่วยกันมา 100 กว่าล้าน แต่ค่าใช้จ่ายเกินกว่านั้นไปหลาย 10 ล้าน ซึ่งผมเองไม่เคยพูดเรื่องนี้เลย แต่ผมจำเป็นจะต้องมาพูด เพราะพ่อแม่พี่น้องจะได้รู้ว่าจริงๆ แล้วเนี้ย เราก็อยู่ในท่ามกลางความลำบาก ด้วยเหตุนี้ก็เลยมีพยายามหลายๆ ฝ่าย พยายามที่จะแย่งกันจัดโดยที่จัดเพื่อจะร่วมกันมาช่วย ASTV ก็ไม่ได้ว่าพ่อแม่พี่น้องกันนะครับ บางจังหวัดก็จัดกัน ก็เอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง เราไม่ได้ว่ากัน บางคน บางจังหวัดจัดแล้วก็ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น แค่เชิญคนไปพูดก็ถือว่าจัดแล้ว ส่วนเงินบริจาคนั้นก็เก็บเข้ากระเป๋าตัวเองเช่นกัน

ที่ภาคตะวันออกนั้นเป็นจุดที่มีหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญมาก ได้มีการพยายามที่จะมาจัด เคยจัดแล้วครั้งหนึ่ง มีคนเข้ามาหลายหมื่นคน คราวนี้ก็มาจัดอีกครั้งหนึ่ง การจัดครั้งนี้ก็พยายามที่จะดึงทุกฝ่าย ทุกส่วนที่มีความขัดแย้งกันในเรื่องของวิธีการจัด เข้ามาร่วมประชุมกันที่บ้านพระอาทิตย์ ถ้าพี่น้องจำได้ ผมเองเดินผ่านห้องประชุม ซึ่งคุณปานเทพเป็นประธานในที่จัด ผมเองยังขอร้องพ่อแม่พี่น้องว่า ให้ลืมความขัดแย้งส่วนตัวซะนึกถึงส่วนรวมก็แล้วกัน

ผมกราบขอบพระคุณพี่น้องครับที่อยากจะจัดงานที่ภาคตะวันออก พี่น้องคาดว่าจะจัดมีคนมา 4-5 หมื่นคน พิมพ์บัตรออกมา 5 หมื่นใบ พี่น้องทางภาคตะวันออกรับไป 4 หมื่นใบ ASTV รับมา 1 หมื่นใบ

ความขัดแย้งตรงนี้เริ่มเกิดขึ้นตรงที่ว่า ก็มีทั้งพี่น้องที่เป็นแฟนพันธุ์แท้รุ่นเก่าๆ กับคนซึ่งเข้ามาร่วมใหม่ ก็มีความรู้สึกว่าไม่ถูกชะตากัน ซึ่งผมต้องกราบเรียนพ่อแม่พี่น้องว่า ถ้าพ่อแม่พี่น้องรักผม ทิ้งความขัดแย้งไว้ข้างๆ ตัว ไม่ต้องรักผมหรอก รัก ASTV รักชาติบ้านเมือง เพราะถ้า ASTV อยู่ไม่ได้ สายใยที่จะเชื่อมโยงพวกเราก็ไม่มี

ก็มีข่าวคราวออกมาตลอดเวลา ผมก็พยายามจะแก้ข่าวตลอดเวลา จนกระทั่งครั้งหลังสุด คณะผู้จัดงานอุตส่าห์เอาแคชเชียร์เช็คมาให้ 8 ล้านบาท ล่วงหน้า ก่อนที่จะขายบัตร ซึ่งบัตร 4 หมื่นใบนั้นก็ใบละ 200 บาท เพื่อมาเป็นเครื่องโชว์ความบริสุทธิ์ใจว่าเอาเงินมาให้แล้วนะ แล้วก็เอา 4 หมื่นใบนี้ ก็คือเป็นเงินค้ำประกัน 4 หมื่นใบนั้นก็เอาไปแจกให้พ่อแม่พี่น้องที่ จ.ชลบุรี

ปรากฏว่ามีการคืนบัตรกันมาเยอะ เช่นที่บ้านบึงรับไป 5 พัน ก็คืนมา 4 พัน เอาไป 1 พัน หลายๆ จุด เหตุผลเพราะว่าไม่ชอบขี้หน้ากัน

อันนี้พี่น้องครับ ผมจะกราบเรียนพี่น้องว่า คนที่เจ็บคือผมและ ASTV นะครับ พี่น้องไม่ถูกกันไม่เป็นไร แต่ว่าเมื่อไม่ประสานให้ความรักสมานสามัคคีกัน ในฐานะที่เราร่วมต่อสู้กันมา วันนี้ใครจัดเหมือนกันเขาก็จัดเพื่อ ASTV ผม ASTV และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แกนนำนั้นให้ความสำคัญกับพ่อแม่พี่น้องทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่ร่วมมาตั้งแต่ต้น ตลอดจนกระทั่งกลุ่มที่เข้ามาใหม่ ตราบใดที่อุดมการณ์ตรงกัน เราให้ความรักเท่าเทียมกันหมด เราไม่เคยแบ่งแยก เราไม่เคยลืมพ่อแม่พี่น้องที่ช่วยเรามา ตั้งแต่ยังจัดแค่ที่ภัตตาคารไต้ฮี้เล็กๆ และขยายตัวมาเราไม่เคยลืมเรื่องนี้นะครับ

แต่ว่าถ้าหากการจัดที่ชลบุรีนั้น ล่มสลายลงเพราะว่าเราตั้งใจว่าจะมีคนมาประมาณ 50,000 คน แล้วมีการคืนบัตรกัน โดยที่ไม่ช่วยกันกระจายไป แสดงว่าความสามัคคีของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น จริงๆแล้วมันเป็นของปลอม จริงๆ แล้วที่เราบอกว่าเรามีกำลังอยู่ที่พร้อมที่จะลุกมาสู้พร้อมกันนั้น ไม่น่าจะเป็นความจริงอีกต่อไป

เพราะฉะนั้นแล้วพ่อแม่พี่น้องยังไงก็ตามขอให้คิดถึงส่วนรวมก่อน ส่วนรวมคือชาติ บ้านเมือง ชาติบ้านเมืองจะอยู่ได้นั้นเพราะพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยรักใคร่สามัคคีกัน แล้วเราจะรักใคร่สามัคคีกันก็ต่อเมื่อมีสื่อที่จะเข้ามาช่วยโยงใยกันให้

พี่น้องครับโทรทัศน์ทุกช่องพี่น้องก็รู้ว่า เขาไม่ใส่ใจเรื่องของพวกเราเลย มีแต่ ASTV เท่านั้น ที่ฟันฝ่าอุปสรรค์ ฝ่าความเป็นความตาย ฝ่าระเบิด ฝ่ากระสุนปืนที่สถานีโทรทัศน์ ASTV ในท่ามกลาง 193 วัน ที่สู้มา เรามีแค่ ASTV เท่านั้น ไม่ใช่ว่า ASTV เป็นสิ่งซึ่งขาดไม่ได้ ถ้ามีช่องอื่นทำหน้าที่แทนเรา ผมไม่อยากมาเหนื่อยหรอกครับพ่อแม่พี่น้อง

ทุกอย่างนั้น ทุกวันนี้ยังต้องแบกอยู่คนเดียว ศึกสงครามเสร็จสิ้นแล้ว พี่น้องฉลองกัน แต่ความเจ็บช้ำ ความขมขื่น การต้องแบกภาระนั้น ทั้งหมดนั้นอยู่บนบ่าผมแค่ 2 บ่า เท่านั้นเอง ไหนจะคดีความที่จะต้องตามมาเป็นสิบคดีๆ แล้วพ่อแม่พี่น้องมาทะเลาะกันเพียงเพราะว่าไม่ชอบขี้หน้ากันนะครับ ถ้าอย่างนั้นอีกหน่อยถ้า ASTV จะปิดไปเพราะว่าผมไม่แบกอีกต่อไปแล้ว พ่อแม่พี่น้องก็ว่าผมไม่ได้นะครับเรื่องนี้ นะครับ

ผมคิดว่าผมทำมาให้ชาติ บ้านเมือง ถึงสุดๆ แล้ว แล้วผมคิดว่าพ่อแม่พี่น้องเข้าใจผมดี เข้าใจ ASTV ดี กลายกลับว่าพ่อแม่พี่น้องเอาเรื่องส่วนตัว เอาความไม่ชอบกันมา แล้วทำให้ ASTV แล้วก็กระบวนการสื่อมวลชนที่เหลืออยู่เพียงเจ้าเดียว ที่ยืนหยัดต่อสู้เพื่อพ่อแม่พี่น้องนั้น จะต้องสะดุดหกล้ม ล้มลุกคลุกคลานไป ผมก็ไม่ว่าอะไร ถ้าพ่อแม่พี่น้องที่ จ.ชลบุรี ต้องการเช่นนั้นจริงๆ นะครับ

ผมใคร่ขอความกรุณาพ่อแม่พี่น้องที่ จ.ชลบุรี พ่อแม่พี่น้องเลือดน้ำเค็ม แสดงความเข้มข้นในการต่อสู้มา ทุกยุค ทุกสมัย ทุกเวลาที่เราต้องการความช่วยเหลือ พ่อแม่พี่น้องจะมาก่อนเพื่อน พ่อแม่พี่น้องครับ ส่วนรวมสำคัญกว่า นึกว่าเป็นการขอร้องจากผมมาถึงพี่น้องชาวชลบุรีทุกคนนะครับ ขอเถอะครับ ถ้ารัก ASTV ถ้ารักผม ถ้ารักแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย วันที่ 17 นี้ขอให้มากันให้เต็มที่ เพราะว่าบัตรที่ส่งไปนั้นเดิมทีจะต้องขายหมดกลับส่งคืนมา เก็บเอาไว้นิดเดียว เหมือนกับว่าขายอย่างพอไปที เพื่อที่จะให้คนจัดนั้นเสียหน้า

คนจัดนั้นไม่เสียหน้าหรอกครับ แต่คนที่จะลำบากก็คือ พวกผมและ ASTV นะครับพี่น้อง พี่น้องทำอะไรคิดถึงจุดเริ่มต้นของเราก่อนดีกว่า อย่าให้ต้องขยายความไปถึงการล่มสลาย อย่าได้รับชัยชนะแล้วในที่สุดแล้วก็ต้องล้มหายตายจากกันไป แล้วไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าใจว่าพวกเราทำไมถึงเป็นอย่างนี้

พี่น้องครับผมขอร้องเถอะ ว่าเพื่อพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อ ASTV อย่าได้ทะเลาะกันเลยนะครับ ผมคิดว่าเอาเรื่องของส่วนตัวทิ้งเอาไว้แล้วเอาเรื่องส่วนรวมมาก่อน ผมขอยืนยันว่า แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และตัวผมนั้น ไม่เคยหลงลืมและละลืมแกนนำที่ จ.ชลบุรี หรือภาคตะวันออก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหน จะเป็นกลุ่มมาก่อน กลุ่มมาหลัง กลุ่มมากลาง กลุ่มอาเจ๊ กลุ่มอาซ้อ ผมไม่เคยลืม

เพราะฉะนั้นแล้วหวังว่าวันที่ 17 นี้ ผมจะได้เห็นการรวมพลังครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของคนเมืองชล ซึ่งจะเป็นแม่แบบของทั่วประเทศในการจัด พี่น้องต้องรู้นะครับ นี่คือแม่แบบที่แท้จริง เมืองชลบุรี ชลบุรีจะเป็นแม่แบบหรือว่าจะเป็นแบบที่พังทลายลงไปเจ้าแรก ขึ้นอยู่กับความรัก สามัคคี และความจริงใจที่พ่อแม่พี่น้องมีต่อผมและ ASTV ครับ ผมขอฝากเพียงแค่นี้ครับ ขอบพระคุณมากครับ”


กำลังโหลดความคิดเห็น