“อภิสิทธิ์” ลั่นไม่กลัวตาย ปฏิเสธข้อเสนอ ศรภ.ประเคนรถกันกระสุนทดแทน ไม่กลัวซักฟอกนอกสภา เชื่อ “แม้ว” ตั้งล็อบบี้ยิสต์เป็นการต่อรองทางการเมือง ยันเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นต่อไป
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันนี้(5ม.ค.)ก่อนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปตรวจพื้นที่เพลิงไหม้อาคารเสือป่าพลาซ่านั้น เจ้าหน้าที่ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.)ได้นำรถเบนซ์กันกระสุนรุ่น เอส 600 ซึ่งเคยใช้กับอดีตผู้นำหลายคน เช่น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ มาให้นายอภิสิทธิ์ใช้ ภายหลังที่มีกระแสข่าวลอบทำร้าย ซึ่งจากการตรวจสอบป้ายทะเบียนเดิมคือ ษห 3836 แต่ได้เปลี่ยนทะเบียนใหม่เป็น ชพ 1420 กรุงเทพ ทั้งนี้ รถรุ่นดังกล่าวมีอยู่ 3 คัน เป็นรุ่นเดียวและแบบเดียวกันทั้งหมด อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ ได้เปลี่ยนมานั่งรถบีเอ็มดับเบิ้ลยู รุ่น ซี่รี่ 7 ป้ายทะเบียน ศฮ 9201 กรุงเทพ ซึ่งเป็นรถประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามเดิม
นายภิสิทธิ ให้เหตุผลว่า พอดีรถกันกระสุนคันดังกล่าวพึ่งออกจากอู่ ตนจึงคิดว่าไมจำเป็นต้องเปลี่ยน แต่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่ามีหลายคัน ซึ่งคันดังกล่าวก็จอดอยู่ และไม่ได้ใช้ทางเจ้าหน้าที่อยากให้ลองใช้ แต่ตนคิดว่าคันที่ใช้อยู่ปัจจุบันไม่มีปัญหาอะไร จึงไม่เปลี่ยน
เมื่อถามว่า ไม่กลัวการลอบทำร้ายหรือ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เมื่อถามว่า จะนำมาพิจารณาหรือไม่ เพราะเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยของ ศรภ. นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีประเด็นอะไร ตอนนี้ ไม่ต้องเปลี่ยน
เมื่อถามว่า การเตรียมจัดงานวันเด็กจะเปิดทำเนียบหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เปิด ส่วนการบำรุงบูรณะทำเนียบฯ นั้นมีผู้รับผิดชอบดูแลอยู่ เนื่องจากสภาพทำเนียบขณะนี้ยังไม่เรียบร้อย
เมื่อถามว่า จะให้เด็กนั่งเก้าอี้นายกฯ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ให้นั่งแต่กำหนดแนวคิดไว้ว่า ก่อนนั่งต้องเขียนว่า ถ้าอยากนั่งจะทำอะไรให้กับส่วนรวม ทั้งนี้จะให้เด็กเขียนกันตรงนั้นโดยไม่ต้องส่งไปรษณียบัตรแต่อย่างใด
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเปิดการอภิปรายนอกสภา ว่า ต้องสรุปข้อมูลอีกครั้งว่าฝ่ายค้านติดใจเรื่องอะไรบ้าง รัฐบาล พร้อมที่จะชี้แจง อะไรที่เป็นเรื่องตรวจสอบโดยสุจริตใจ และหากมีการละเมิดกฎหมายก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง ตนเชื่อว่าส่วนใหญ่น่าจะเป็นการแสดงความคิดเห็นตามปกติ
เมื่อถามว่า ส่วนหนึ่งที่ฝ่ายค้านอภิปรายคือ นโยบายของรัฐบาลโดยระบุว่าลอกของ พ.ต.ท.ทักษิณมา ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีมาร้อยละ 99 นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ เพราะนโยบาย 3 ชุดหลังของรัฐบาลเป็นไปตามรัฐธรรมนูญปี 50 ที่เขียนไว้ค่อนข้างละเอียด ด้านนโยบายอื่นๆที่เป็นนโยบายเร่งด่วนนั้น ไม่ได้ตรงกับนโยบายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นการจัดให้เรียนฟรี หรือเบี้ยยังชีพ คาดว่าคงเป็นการเข้าใจผิด รวมถึงนโยบายด้านยาเสพติด ก็ได้มีการเขียนไว้ด้วย
เมื่อถามว่า ขณะที่มีพยายามเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ปัดการเจรจาด้วยการจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ จะทำอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนปัญหาเมืองไม่เป็นไร แต่อย่าโจมตีประเทศล่วงละเมิดสถาบัน ส่วนการต่อรองทางการเมืองเป็นเรื่องปกติธรรมดา
เมื่อถามว่า กระทรวงการต่างประเทศต้องทำงานในเชิงรุกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกฝ่ายรวมถึงตนต้องทำงานเชิงรุก ให้ทั่วโลกได้เข้าใจสถานการณ์ที่แท้จริงของประเทศไทย รัฐบาลเองได้พบกับสื่อต่างประเทศพอสมควรเพื่อชี้แจงให้เกิดความเข้าใจและจะทำต่อเนื่องในหลายรูปแบบ
เมื่อถามว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอุปสรรคต่อการบริหารงานรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนถือว่า เป็นส่วนหนึ่งของการทำความเข้าใจ เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่ที่วันนี้เจอทั้งศึกในและนอกประเทศ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ห่วง เราเดินหน้าแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ วันนี้เร่งรัดหลายเรื่องไปได้ด้วยดี เช่น เรื่องท้องถิ่น ภายในสัปดาห์หน้าสามารถอนุมัติเงินถึงมือประชาชนได้เร็วขึ้น อย่างเรื่องยางพารา นายวีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯได้ไปดำเนินการ ในกรณีของรัฐวิสาหกิจไม่อยากให้ระงับการสั่งซื้อ โดยผ่านสถานทูตจีน ทุกอย่างเดินหน้าแก้ปัญหา เป็นธรรมดา มีการเมืองบ้าง บริหารบ้าง ตนมุ่งแก้ปัญหาของประชาชนเป็นหลัก ส่วนปัญหาการเมืองถ้ากระทบการทำงานก็แก้ไป ถ้าไม่หนักหนาก็ต้องปล่อยไปบ้าง
