"มาร์ค"ปฏิเสธนั่งรถกันกระสุน หลังฝ่ายรักษาความปลอดภัยนำมาเสนอ ส่วนเรื่องการแต่งตั้งตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรี ยังไม่ได้แต่งตั้งใครเลย เพราะต้องผ่านครม. ย้ำจะพิจารณาคนที่เหมาะสมกับงาน "สุเทพ"ระบุตั้ง"นาม" เป็นที่ปรึกษารมว.ยุติธรรม แค่ข่าวโคมลอย
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลเมื่อวานนี้ว่า ช่วงก่อนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจะเดินไปตรวจพื้นที่เพลิงไหม้อาคารเสือป่าพลาซ่า นั้น ทาง ศรภ.ได้นำรถเบนซ์กันกระสุน ซึ่งอดีตผู้นำหลายคนเคยใช้ มาเปลี่ยนแทนรถบีเอ็มดับเบิลยู ประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ภายหลังที่มีกระแสข่าวลอบทำร้ายนายอภิสิทธิ์ แต่นายอภิสิทธิ์ ยังคงให้ใช้รถประจำตำแหน่งคันเดิมมามาใช้ เนื่องจากรถกันกระสุนคันดังกล่าว พึ่งออกจากอู่ จึงคิดว่าไมจำเป็นต้องเปลี่ยน แต่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่า มีหลายคัน ซึ่งคันดังกล่าวก็จอดอยู่ และไม่ได้ใช้ ทางเจ้าหน้าที่อยากให้ลองใช้ แต่นายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่า คันที่ใช้อยู่ปัจจุบันก็ไม่มีปัญหาอะไร จึงไม่เปลี่ยน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่กลัวการลอบทำร้ายหรือ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เมื่อถามว่าจะนำมาพิจารณาหรือไม่ เพราะเป็นมาตราการรักษาความปลอดภัยของศรภ. นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีประเด็นอะไร ตอนนี้ไม่ต้องเปลี่ยน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี ภรรยาของนายนาม ยิ้มแย้ม อดีตประธาน คตส. ระบุว่า นายนาม ได้ตอบรับตำหน่งที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม แต่ทางนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กลับระบุว่า ยังไม่มีการหารือในตำแหน่งดังกล่าว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ว่าจากการสอบถามยังไม่มี หากมีการแต่งตั้งข้าราชการทางการเมือง ต้องเข้า ครม. ขณะนี้ยังไม่มี ซึ่งหากมีการแต่งตั้งใดๆ ก็ตามรัฐบาลต้งองรับผิดชอบอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าต้องฟังมติ ครม.และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ใช่เราฟังความเห็นว่า จะทำงาน หรือช่วยงานรัฐมนตรีได้ดีจากทุกฝ่าย ขณะนี้มีการแต่งตั้งน้อยมาก มีเฉพาะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี รองเลขาธิการฯ และรองโฆษกรัฐบาลเท่านั้น
เมื่อถามว่า เหตุผลที่ถูกโจมตี คือมีการนำบุคคลที่เข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ หรือ คนที่เคยตรวจสอบพ.ต.ท.ทักษิณ จะทำให้เป็นประเด็นที่ต้องนำมาพิจารณาด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าประเด็นสำคัญอยู่ที่บุคคลนั้นๆ มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะทำงาน หรือทำอะไรที่เสียหายหรือไม่ คงไม่ใช่การมาบอกว่า เป็นไม่ได้เพราะอยู่ตรงนั้น หรือรู้จักคนนี้ ตนดูตามความเหมาะสม อย่างนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ตนพูดได้เลยว่า เป็นคนที่มีประสบการณ์ทางการทูตสูง และที่สำคัญมีความรู้ด้านเศรษฐกิจดี เห็นได้ชัดจากการเป็นอดีตเอกอัคราชทูตหลายประเทศ เมื่อทูตของประเทศนั้นเข้าพบ ก็สามารถต่อประเด็นกันง่าย
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยโจมตีว่า การตั้งนายนาม เป็นการตั้งใจที่จะโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะตั้งใครมาหรือไม่ ไม่มีการตั้งใจกลั่นแกล้งใครทั้งสิ้น ผิดคือผิด ถูกคือถูก ขอยืนยัน
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าตนสนับสนุนให้นายนาม ยิ้มแย้ม เป็นที่ปรึกษารมว.ยุติธรรม ว่า เป็นข่าวโคมลอย ข้อเท็จจริงก็คือไม่เคยมีการเสนอชื่อใครเป็นที่ปรึกษา หรือเลขานุการรมต.ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ในที่ประชุมครม.ที่ผ่านมาเลย ซึ่งนายกฯบอกไว้เหมือนกันว่า ให้ตนรีบดำเนินการในเรื่องนี้ และนำเข้าครม.ในสัปดาห์ถัดไป และตนต้องขอโทษนายนาม ด้วย ที่ทำให้ชื่อเสียงถูกวิพากษ์วิจารณ์ แต่ยืนยันข่าวนี้ไม่ได้ออกจากตนแน่นอน เพราะตนยังไม่เคยคิดถึงชื่อนายนาม มาก่อน
ผู้สื่อถามว่า จากนี้ไปการแต่งตั้งข้าราชการการเมืองถูกเพ่งเล็ง นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา เราก็ต้องรับผิดชอบคัดเลือกบุคคล หากมีการวิพากษ์วิจารณ์เราก็ต้องชี้แจง
เมื่อถามว่า การแต่งตั้งเหล่านี้จะมีต่างตอบแทน เช่น ตั้งบุคคลในพันธมิตรฯ เข้ามาหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เราอย่าไปแบ่งเป็นฝ่ายไหนเลย ถ้าเห็นว่าเป็นคนดี มีความสามารถ และทำงานให้กับรัฐบาลก็ทำไป สำหรับตนในฐานะที่เป็นเลขาฯพรรค และเป็นผู้จัดการรัฐบาล ก็ต้องมีการจัดทำบัญชีขึ้นมาก่อน และนำมาหารือกันในหลายๆ คน ซึ่งคาดว่า จะชัดเจนประมาณกลางเดือนม.ค.นี้ เมื่อถามว่า มั่นใจว่า การแต่งตั้งครั้งนี้จะไม่เป็นการขืนใจ รมต.นายสุเทพ กล่าวว่า ขืนไม่ขืน ก็ต้องคุยกัน
ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวจะแต่งตั้งบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยในจำนวนนั้นมีคนที่เคยร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ รวมอยู่ด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่มีการแต่งตั้ง แต่ถ้าจะตั้งใคร ครม.จะต้องมีเหตุผลที่จะอธิบายว่า ทำไมคนเหล่านั้นจึงมีความเหมาะสมในตำแหน่งดังกล่าว
เมื่อถามว่า กรณีการตั้งนายนาม ยิ้มแย้ม อดีตประธาน คตส. เป็นที่ปรึกษารมว.ยุติธรรม นายสาทิตย์ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นชื่อของคนที่ตั้ง และ ครม.ยังไม่ได้มีการพิจารณา แต่คงห้ามไม่ได้ ถ้าจะมีการวิจารณ์เรื่องชื่อ และมีการขยายผล เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่ต้องชี้แจง เพราะฝ่ายค้านจับทุกประเด็นอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ฝ่ายค้านควรทำนอกจากจับผิดประเด็นเหล่านี้แล้ว ควรพูดถึงนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินมากกว่า
เมื่อถามว่า จะมีการฟังเสียงคนของพรรคประชาธิปัต์หรือไม่ เพราะเป็นตำแหน่งดังกล่าวในโควตาของรัฐมนตรี นายสาทิตย์ กล่าวว่า คนที่เคยช่วยงานพรรค ทั้งทางเปิดเผย ทางวิชาการ หรือ อดีตผู้สมัคร ส.ส.มีสิทธิ์ จะได้รับการแต่งตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลเมื่อวานนี้ว่า ช่วงก่อนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจะเดินไปตรวจพื้นที่เพลิงไหม้อาคารเสือป่าพลาซ่า นั้น ทาง ศรภ.ได้นำรถเบนซ์กันกระสุน ซึ่งอดีตผู้นำหลายคนเคยใช้ มาเปลี่ยนแทนรถบีเอ็มดับเบิลยู ประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ภายหลังที่มีกระแสข่าวลอบทำร้ายนายอภิสิทธิ์ แต่นายอภิสิทธิ์ ยังคงให้ใช้รถประจำตำแหน่งคันเดิมมามาใช้ เนื่องจากรถกันกระสุนคันดังกล่าว พึ่งออกจากอู่ จึงคิดว่าไมจำเป็นต้องเปลี่ยน แต่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่า มีหลายคัน ซึ่งคันดังกล่าวก็จอดอยู่ และไม่ได้ใช้ ทางเจ้าหน้าที่อยากให้ลองใช้ แต่นายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่า คันที่ใช้อยู่ปัจจุบันก็ไม่มีปัญหาอะไร จึงไม่เปลี่ยน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่กลัวการลอบทำร้ายหรือ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เมื่อถามว่าจะนำมาพิจารณาหรือไม่ เพราะเป็นมาตราการรักษาความปลอดภัยของศรภ. นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีประเด็นอะไร ตอนนี้ไม่ต้องเปลี่ยน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี ภรรยาของนายนาม ยิ้มแย้ม อดีตประธาน คตส. ระบุว่า นายนาม ได้ตอบรับตำหน่งที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม แต่ทางนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กลับระบุว่า ยังไม่มีการหารือในตำแหน่งดังกล่าว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ว่าจากการสอบถามยังไม่มี หากมีการแต่งตั้งข้าราชการทางการเมือง ต้องเข้า ครม. ขณะนี้ยังไม่มี ซึ่งหากมีการแต่งตั้งใดๆ ก็ตามรัฐบาลต้งองรับผิดชอบอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าต้องฟังมติ ครม.และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ใช่เราฟังความเห็นว่า จะทำงาน หรือช่วยงานรัฐมนตรีได้ดีจากทุกฝ่าย ขณะนี้มีการแต่งตั้งน้อยมาก มีเฉพาะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี รองเลขาธิการฯ และรองโฆษกรัฐบาลเท่านั้น
เมื่อถามว่า เหตุผลที่ถูกโจมตี คือมีการนำบุคคลที่เข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ หรือ คนที่เคยตรวจสอบพ.ต.ท.ทักษิณ จะทำให้เป็นประเด็นที่ต้องนำมาพิจารณาด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าประเด็นสำคัญอยู่ที่บุคคลนั้นๆ มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะทำงาน หรือทำอะไรที่เสียหายหรือไม่ คงไม่ใช่การมาบอกว่า เป็นไม่ได้เพราะอยู่ตรงนั้น หรือรู้จักคนนี้ ตนดูตามความเหมาะสม อย่างนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ตนพูดได้เลยว่า เป็นคนที่มีประสบการณ์ทางการทูตสูง และที่สำคัญมีความรู้ด้านเศรษฐกิจดี เห็นได้ชัดจากการเป็นอดีตเอกอัคราชทูตหลายประเทศ เมื่อทูตของประเทศนั้นเข้าพบ ก็สามารถต่อประเด็นกันง่าย
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยโจมตีว่า การตั้งนายนาม เป็นการตั้งใจที่จะโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะตั้งใครมาหรือไม่ ไม่มีการตั้งใจกลั่นแกล้งใครทั้งสิ้น ผิดคือผิด ถูกคือถูก ขอยืนยัน
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าตนสนับสนุนให้นายนาม ยิ้มแย้ม เป็นที่ปรึกษารมว.ยุติธรรม ว่า เป็นข่าวโคมลอย ข้อเท็จจริงก็คือไม่เคยมีการเสนอชื่อใครเป็นที่ปรึกษา หรือเลขานุการรมต.ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ในที่ประชุมครม.ที่ผ่านมาเลย ซึ่งนายกฯบอกไว้เหมือนกันว่า ให้ตนรีบดำเนินการในเรื่องนี้ และนำเข้าครม.ในสัปดาห์ถัดไป และตนต้องขอโทษนายนาม ด้วย ที่ทำให้ชื่อเสียงถูกวิพากษ์วิจารณ์ แต่ยืนยันข่าวนี้ไม่ได้ออกจากตนแน่นอน เพราะตนยังไม่เคยคิดถึงชื่อนายนาม มาก่อน
ผู้สื่อถามว่า จากนี้ไปการแต่งตั้งข้าราชการการเมืองถูกเพ่งเล็ง นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา เราก็ต้องรับผิดชอบคัดเลือกบุคคล หากมีการวิพากษ์วิจารณ์เราก็ต้องชี้แจง
เมื่อถามว่า การแต่งตั้งเหล่านี้จะมีต่างตอบแทน เช่น ตั้งบุคคลในพันธมิตรฯ เข้ามาหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เราอย่าไปแบ่งเป็นฝ่ายไหนเลย ถ้าเห็นว่าเป็นคนดี มีความสามารถ และทำงานให้กับรัฐบาลก็ทำไป สำหรับตนในฐานะที่เป็นเลขาฯพรรค และเป็นผู้จัดการรัฐบาล ก็ต้องมีการจัดทำบัญชีขึ้นมาก่อน และนำมาหารือกันในหลายๆ คน ซึ่งคาดว่า จะชัดเจนประมาณกลางเดือนม.ค.นี้ เมื่อถามว่า มั่นใจว่า การแต่งตั้งครั้งนี้จะไม่เป็นการขืนใจ รมต.นายสุเทพ กล่าวว่า ขืนไม่ขืน ก็ต้องคุยกัน
ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวจะแต่งตั้งบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยในจำนวนนั้นมีคนที่เคยร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ รวมอยู่ด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่มีการแต่งตั้ง แต่ถ้าจะตั้งใคร ครม.จะต้องมีเหตุผลที่จะอธิบายว่า ทำไมคนเหล่านั้นจึงมีความเหมาะสมในตำแหน่งดังกล่าว
เมื่อถามว่า กรณีการตั้งนายนาม ยิ้มแย้ม อดีตประธาน คตส. เป็นที่ปรึกษารมว.ยุติธรรม นายสาทิตย์ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นชื่อของคนที่ตั้ง และ ครม.ยังไม่ได้มีการพิจารณา แต่คงห้ามไม่ได้ ถ้าจะมีการวิจารณ์เรื่องชื่อ และมีการขยายผล เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่ต้องชี้แจง เพราะฝ่ายค้านจับทุกประเด็นอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ฝ่ายค้านควรทำนอกจากจับผิดประเด็นเหล่านี้แล้ว ควรพูดถึงนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินมากกว่า
เมื่อถามว่า จะมีการฟังเสียงคนของพรรคประชาธิปัต์หรือไม่ เพราะเป็นตำแหน่งดังกล่าวในโควตาของรัฐมนตรี นายสาทิตย์ กล่าวว่า คนที่เคยช่วยงานพรรค ทั้งทางเปิดเผย ทางวิชาการ หรือ อดีตผู้สมัคร ส.ส.มีสิทธิ์ จะได้รับการแต่งตั้ง
