อดีต ผบ.ทบ.ประกาศไม่เลิกเล่นการเมือง ยอมรับตามไม่ทันเล่ห์ทางการเมือง วอนนักการเมืองให้ปรับตัวเพื่อชาติบ้านเมือง เอาใจช่วยรัฐบาลฟันฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี หลังจากประเทศตกอยู่ในภาวะแสนสาหัสมาช้านาน
วันนี้ (1 ม.ค.) พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีตหัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา แสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์บ้านเมืองที่ยังคงมีความแตกแยกว่า บ้านเมืองขณะนี้น่าเป็นห่วง โดยตั้งแต่ต้นปีนี้ ปัญหาเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบอย่างชัดเจนขึ้น ยิ่งน่าเป็นห่วงประชาชนเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะปัญหาคนว่างงานจากกรณีที่บริษัทปลดพนักงานออก แล้วยังผู้ที่จบการศึกษาอีก ประมาณ 7 แสนคน จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลจะต้องแก้ไข ในโอกาสขึ้นปีใหม่ ถ้าใครมีความคิดเห็นแตกแยกก็ขอให้ลดความคิดเห็นที่แตกแยกลงไป รักษาจิตใจให้มั่นคง รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ตั้งสติให้มั่น ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อลดความเดือดร้อนของตัวเองและครอบครัวลงไป
“สังคมไทยเป็นสังคมที่รักพวกรักพ้อง แต่รักในวงแคบ ทำให้เกิดปัญหามาตลอด เหลือง-แดง แดง-เหลือง สลับกันอยู่แบบนี้ ขอให้ทุกคนตั้งสติให้มั่น โดยเฉพาะนักการเมืองจะต้องมีเป้าหมายอยู่ที่ประเทศชาติและประชาชนเท่านั้น อย่างสหรัฐอเมริกา ทำไม โอบามา ให้ โรเบิร์ต เกตส์ จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นพรรคคู่แข่ง หรือแม้แต่คู่แข่งชิงประธานาธิบดีจากพรรคเดียวกันมาเป็นรัฐมนตรี เพราะเขาไม่คำนึงถึงตัวบุคคล คุณจะเป็นอะไรอย่างไรก็ช่าง คุณก็เป็นคนอเมริกัน ใครเก่งและดีมีความสามารถไม่ว่าอยู่ที่ไหน เขาก็เอามาทำงาน แสดงให้เห็นว่าสังคมของเขาถึงระดับแล้ว การเมืองของเราน่าจะปรับตัวได้เร็วขึ้น โดยมีเป้าหมายเดียวกันที่ประเทศและประชาชน เมื่อมีเป้าหมายเดียวกันความแตกแยกก็จะลดลง” พล.อ.เชษฐา กล่าว
เมื่อถามว่า การเมืองไทยต้องใช้เวลาอีกนานเพียงใดจึงจะพัฒนาไปถึงจุดนั้น พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า ถ้าเราพร้อมใจและตั้งสติให้มั่น คงใช้เวลาไม่นาน เพราะเราผ่านร้อนผ่านหนาว ความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสกันมาหมดแล้ว โดยนักการเมืองต้องทำใจให้กว้าง ทุกคนปรับตัวเองเพียงนิดเดียว ผมไม่อยากทำนายว่ารัฐบาลจะอยู่ได้นานหรือไม่ แต่ทั้งสองฝ่ายต้องร่วมมือกันและพยายามลดความแตกแยกลดความไม่ลงรอย ทั้ง ก. และ ข. ต้องปรับตัวเองเข้าหากัน ยึดมั่นสิ่งที่ถูกต้อง
พล.อ.เชษฐา ยังกล่าวถึงอนาคตทางการเมืองของตนเองว่า ตั้งแต่เกษียณอายุราชการมาได้ปวารณาตัวไว้ว่าพร้อมจะทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน และเมื่อถามถึงความรู้สึกว่าผิดหวังกับการเมืองหรือไม่ พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า ไม่ถึงกับผิดหวัง แต่คิดว่ามันควรจะดีกว่านี้ ที่นักการเมืองควรคำนึงถึงประเทศชาติและประชาชนให้อยู่ในหัวใจไว้จะได้ไม่เสียแนวทาง
เมื่อถามย้ำว่า การเป็นอดีตนายทหารที่อยู่ในระเบียบวินัยมาตลอด ถือเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ตามไม่ทันนักการเมืองที่มีความพลิกแพลงได้ตลอดเวลาหรือไม่ พล.อ.เชษฐา ยอมรับว่า เป็นส่วนหนึ่ง และทำให้รู้สึกท้อใจเหมือนกันว่าทำไมจึงเป็นเช่นนี้ เมื่อถามว่า ต้องการจะกล่าวฝากไปถึงน้อง ๆ นายทหารที่สนใจเข้าสู่วงการเมืองหรือไม่ พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า ในฐานะที่เรารับราชการมา จึงมีความผูกพันกับชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อมีสิ่งใดที่จะทำประโยชน์ให้กับสถาบันทั้ง 3 ได้ พวกเราก็ต้องร่วมมือร่วมใจกัน ไม่ว่าจะอยู่ในราชการหรือเกษียณอายุราชการแล้ว
“อย่างผม ผมก็จะไม่เลิก แต่จะไปช่วยแบบไหนก็อีกเรื่อง เราสละความสุขของเราบางส่วนเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนได้แน่นอน ส่วนจะลงเลือกตั้งสมัยหน้าหรือไม่กำลังคิดอยู่ว่าจะลงหรือไม่ แต่เรื่องการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม ยังไม่ทิ้งแน่นอน การเมืองก็อาจจะยังไม่ทิ้ง” พล.อ.เชษฐา กล่าว
