“ตำรวจ” ระดมกำลังหลายกองร้อยคุมเข้ม “กลุ่มเสื้อแดง” คาดผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อเปิดทางให้ ส.ส.เข้าร่วมประชุมเพื่อแถลงนโยบาย หลังกลุ่มผู้ชุมนุมปิดล้อมหน้ารัฐสภาฯ เผย “เจ้าหน้าที่ระดับสูง” เดินหน้ายุทธวิธีเปิดการเจรจากับ “แกนนำ นปช.” เพื่อขอให้เปิดทางให้กับ ส.ส.แต่กลับไร้ผล
จากกรณีที่กลุ่ม นปช.บุกไปปิดล้อมรัฐสภา เพื่อไม่ให้รัฐบาลแถลงนโยบายไปก่อนหน้านี้นั้น ล่าสุดวันนี้ (30 ธ.ค.) เมื่อเวลา 07.00 น.รายงานข่าวแจ้งจากรัฐสภาฯ ว่า ได้มีเจ้าหน้าตำรวจจำนวนหลายกองร้อยจากทั้งกองปราบปราม ตำรวจตระเวนชายแดน และตำรวจหญิง พร้อมโล่ปราบจลาจล ตรึงกำลังตั้งแนวกั้นเพื่อเตรียมที่จะผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อเปิดประตูให้กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เข้าร่วมประชุมแถลงนโยบายของรัฐบาลในเวลา 09.30 น.
ส่วนการคุมเข้มรักษาความปลอดภัยบริเวณหน้าประตูปราสาทเทวฤทธิ์เป็นการเฉพาะนั้น เนื่องจากประตูทางเข้าสภาฯ ดังกล่าว ส.ส.สามารถนำรถไปยังด้านในได้ แต่บริเวณหน้าประตูดังกล่าว มีนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ซึ่งเป็นแกนนำ นปช. คอยบัญชาการกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่บนรถบรรทุกติดเครื่องขยายเสียงอยู่อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงพยายามที่จะเข้าไปเจรจากับแกนนำ นปช.เพื่อที่จะขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมเปิดทางให้กับบรรดา ส.ส.เข้าร่วมประชุม แต่การเจรจากลับไม่เป็นผล เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมยืนว่าจะไม่ยอมเปิดทางให้กับ ส.ส.ที่จะเข้าร่วมประชุมแถลงนโยบายแต่อย่างใด
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามที่จะทำการเปิดประตูเทวฤทธิ์ โดยใช้กำลังตำรวจตั้งขบวนแล้วเดินฝ่าผู้ชุมนุมออกไป เพื่อเปิดทางให้กับรถยนต์ของ ส.ส. ขับเข้าไปในรัฐสภา แต่ยังกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยินยอม ทำให้ตำรวจยังไม่สามารถเปิดทางได้แต่อย่างใด
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องสงสัย 1 ราย โดยผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าวพกหนังสติ๊ก ลูกแก้ว และแท่งเหล็กเข้ามาร่วมชุมนุม จากการสอบสวนผู้ต้องสงสัยอ้างว่าสาเหตุที่ต้องพกอาวุธติดตัวมาร่วมชุมนุมด้วยนั้นเพื่อป้องกันตัว เนื่องจากใช้เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยในการเข้าร่วมชุมนุม
