รมต.สำนักฯ น้อมรับงานเศรษฐกิจประสานต่างประเทศ ยอมรับกลัวคำตำหนิ ยืนยันจะไม่เอื้อประโยชน์กลุ่มทุน พร้อมเอาตำแหน่งเป็นเดิมพัน หากประชาชนไม่เล่นด้วย ตอบรับผลสอบไม่เกี่ยวเงินทุนหนุนพรรค 80 ล้านบาท
วันนี้ (24 ธ.ค.) นายวีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการแบ่งงานระหว่างรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ว่า คงต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง เข้าใจว่า ตนน่าจะได้รับมอบหมายให้ดูแลการประสานงานด้านเศรษฐกิจกับต่างประเทศ ซึ่งอาจเกี่ยวกับประเทศจีน ที่ผ่านมา ได้คุยกับทูตจีน ทราบว่า จะมีทูตคนใหม่ ซึ่งตนคงจะประสานงานตรงนี้ต่อไป และน่าจะประสานงาน คือ เรื่องการท่องเที่ยว ซึ่งขณะนี้กำลังจัดเตรียมทีมงาน ซึ่งมีทั้งบุคคลจากภาคธุรกิจ ภาคราชการบางส่วน ที่จะเข้ามาร่วมงาน ส่วนที่มีความกังวลเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนนั้น นายวีระชัย กล่าวว่า คงต้องไปดูผลงานในอดีตว่าตนเคยทำประโยชน์ให้คนใดคนหนึ่ง คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือบริษัทใดบริษัทหนึ่งหรือไม่ แต่คิดว่าสำคัญที่สุด นั่นคือ สิ่งที่จะพูดไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่จะทำ เมื่อตนเข้ามาอยู่ในตำแหน่งดังกล่าวพร้อมที่จะได้รับการตรวจสอบ
ทั้งนี้ การเข้ามาทำงานตนอยากได้คำชมไม่อยากถูกตำหนิ แต่ก็พยายามอดทนไม่ท้อใจ พยายามทำงานให้เต็มที่เมื่อถามว่า ในการทำงานนั้นจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้กับเครือซีพี นายวีระชัย กล่าวว่า “จะไม่เอื้อให้ใคร ไม่ว่าจะคนใด หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง สิ่งที่ผมเคยทำงานมาในอดีตอยากให้ไปลองถามข้าราชการที่กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงการคลัง กระทรวงต่างประเทศ ได้ ว่า มีหรือไม่ ผมไม่คิดว่าผมดีสมบูรณ์แบบ แต่ก็พร้อมทำงาน ส่วนคำวิพากษ์วิจารณ์ผมก็พร้อมน้อมรับ”
เมื่อถามว่า กรณี กกต.สอบสวนไม่พบว่า นายวีระชัย เคยบริจาคเงิน 80 ล้านบาท เข้าพรรคประชาธิปัตย์ นายวีระชัย กล่าวว่า ดีใจที่ผลสอบออกมา ตนไม่ได้ตั้งใจท้าทายอะไร แต่ถ้าเป็นไปได้น่าจะมีการออกมาชี้แจงก่อนหน้านี้สักหน่อย เมื่อถามว่า จะฟ้องร้อง นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาพูดเรื่องนี้หรือไม่ นายวีระชัย กล่าวว่า ไม่ฟ้อง ที่ผ่านมา ตนได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรี 2-3 ครั้ง เมื่อไม่ได้เป็นก็เข้าใจความรู้สึกนี้ดี เข้าใจว่า เพื่อน ส.ส.ส่วนใหญ่มาทำงานก็อยากก้าวหน้า ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งรัฐมนตรี แต่จะได้เป็นหรือไม่ มีเหตุผลอื่นมากมายคงต้องถามผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อถามว่า หากทำงานได้ดี จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ หรือไม่ นายวีระชัย กล่าวว่า “ลึกๆ แล้วผมมีสัญญาใจกับท่านเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนายกฯก็คงจะทราบแล้ว ทั้งนี้ ผมขอพิสูจน์การทำงานสักระยะหนึ่ง ว่า เป็นบุคลากรการเมืองที่เป็นประโยชน์ต่อพรรคประชาธิปัตย์ และเมื่อรับตำแหน่งนี้แล้วก็จะตั้งใจทำงานให้กับประเทศชาติ”
เมื่อถามถึงความสัมพันธ์กับ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ ล่าสุด นายธนินท์ ออกมาให้สัมภาษณ์เหมือนเป็นการตอกย้ำถึงความสัมพันธ์ระหว่างกันหรือไม่นายวีระชัย กล่าวว่า “ยังไม่ได้ฟังสิ่งที่ท่านพูดว่าอย่างไร คิดว่าจะไปดูคำให้สัมภาษณ์อีกที แต่มั่นใจว่า จะไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน อย่างที่ได้เคยบอกไปแล้วว่าอยากให้ดูการทำงานในอดีตของตน ยิ่งตนอยู่ในความสนใจของพี่น้องสื่อมวลชนขนาดนี้ คิดว่า จะได้รับการตรวจสอบ และคิดว่าคำว่า โปร่งใสต้องสูงกว่าคนอื่นด้วย”
เมื่อถามว่า พร้อมทิ้งตำแหน่งหรือไม่ หากมีผลประโยชน์ทับซ้อน นายวีระชัย กล่าวว่า คนทำงานการเมืองอยากจะก้าวหน้าทางการเมืองทั้งนั้น แต่การทำงานเมื่อถึงจุดหนึ่งแล้ว ไม่ได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนก็ต้องหยุด สิ่งที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีต รมว.คลัง เคยพูดไว้ว่า ต้องนึกเสมอไม่ใช่มาแล้วได้เป็นรัฐมนตรีแล้วทำอะไร แต่อยากให้ดูว่าเมื่อออกไปแล้วคนจะพูดถึงเราว่าอะไร ซึ่งตนจำมาโดยตลอด
เมื่อถามว่า พร้อมเอาตำแหน่งเป็นเดิมพันเลยหรือไม่ นายวีระชัย กล่าวว่า หากทำผิด ผมก็พร้อมยินดี ถ้าไม่ถูกต้อง คิดว่า นายกฯพร้อมดำเนินการอยู่แล้ว ในช่วงท้ายหลังการให้สัมภาษณ์ นายวีระชัย ได้มองหน้าสื่อมวลชนด้วยสีหน้าจริงจัง พร้อมกับบอกว่า “ผมขอชี้แจง วันนั้นไม่คิดว่าผมน้ำเสียงสั่นเครือ ไม่มีน้ำตาคลอเบ้า” เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ต้องชี้แจงเพราะกลัวคนมองว่าอ่อนแอใช่หรือไม่ นายวีระชัย กล่าวว่า ไม่ แต่ต้องการชี้แจงความเป็นจริง