xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” ประกาศจุดยืนให้โอกาส “มาร์ค” พิสูจน์การเมืองเก่า-บททดสอบแรกย้าย “พัชรวาท” เข้ากรุตามเดิม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สนธิ” ประกาศจุดยืนทางการเมือง เผยให้โอกาส “ปชป.-มาร์ค” พิสูจน์การเมืองเก่าเป็นครั้งสุดท้าย เชื่อไม่เกิน 3 เดือนรู้เรื่อง บททดสอบแรก ต้องกล้าหาญ ย้าย “พัชรวาท” กลับเข้าสำนักนายกฯ อีกรอบ หลัง “ชวรัตน์” เร่งรีบย้ายกลับ สตช.ท่ามกลางเงื่อนงำถูกสอบฐานประพฤติมิชอบตั้งแต่ยุค “เสรีพิศุทธ์” และ รมต.สำนักนายกฯ ตั้งกก.สอบแล้ว ซ้ำถูกกรรมการสิทธิฯ กล่าวหามีส่วนฆ่าประชาชน 7 ตุลาฯ แถมปล่อยแกนนำ นปก.หลุดคดีบุกบ้านป๋า ถ่วงคดี “จักรภพ-วีระ” หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ชี้หากยังให้อยู่ สตช.ตามเดิมเท่ากับเยียบศพ ปชช.ขึ้นใหญ่ โดยมี “อนุพงษ์-ประวิตร” และกลุ่มเนวินแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันชักใยอยู่เบื้องหลัง

 คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” 

รายการ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม 2551 จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ดำเนินรายการ โดยมีนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ มาปราศรัยแสดงจุดยืนทางการเมืองต่อรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ คั่นด้วยการแสดงดนตรีและร้องเพลงโดย “กรรณิการ์ อารีสมาน” และปิดท้ายด้วยการสนทนาประเด็นการศึกษาภายใต้รัฐบาลใหม่ มีผู้สนทนาประกอบด้วยนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันรธมิตรฯ และนายสุทธิ ผลสวัสดิ์ อดีตอธิบดีกรมพลศึกษา

จินดารัตน์ - สวัสดีค่ะ พ่อแม่พี่น้องเอ๊ย พ่อแม่พี่น้องเอ๊ย แหมคึกคักหน่อย วันนี้พ่อแม่พี่น้องที่อยู่ทางบ้านและที่อยู่ในห้องส่ง ขอต้อนรับท่านผู้ชมเข้าสู่รายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย วันนี้วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ.2551 อีกไม่กี่วันจะหมดปีนี้แล้ว พ่อแม่พี่น้องที่อยู่ทางบ้านหากว่ามีข่าวคราวประชาสัมพันธ์เช่นเคยคะ ฝากมาได้ที่หมายเลข 0-2629-4433 การขับเคลื่อนการเมืองใหม่ หรือวันนี้เราอยากฟังความเห็นของพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ทางบ้าน ส่งกันเข้ามาว่า รู้สึกอย่างไรกับการคืนตำแหน่ง ผบ.ตร.ให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เราอยากฟังความเห็นพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ทางบ้านมากจริงๆ

วันนี้ลองส่งกันเข้า และคงจะได้อ่านออกอากาศบ้างเป็นบางความเห็น วันนี้ผู้ปราศรัยของเราพลาดไม่ได้คะ เรื่องที่การกลับเข้ามานั่งในตำแหน่งเดิมของ ผบ.ตร.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ จะมีผลอย่างไรต่อไปในการเมืองใหม่ หรือการนั่งกลับที่นั่งเดิม หมายถึงอะไรบอกนัยอะไรได้บ้าง และที่สำคัญจุดยืนต่อรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นอย่างไร กับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล อีกสักครู่นะคะ เดี๋ยวเราจะมาดูข่าวประชาสัมพันธ์วันนี้กันก่อนคะ วันที่ 24 ธันวาคมนี้นะคะ วันพฤหัสบดีจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพคุณแม่อรพรรณ พลอยเพชร คุณแม่อรพรรณนั้นเป็นคุณแม่ของ คุณพี่ติ๊ดตี่ หรือว่าที่เรารู้จักกันเทียรี่ ลาสเวกัสนะคะ พี่เทียรี่นั้น เป็นคนแต่งเพลงเทียนแห่งธรรม พี่เทียรี่พึ่งเดินทางมาถึงเมื่อวานนี้นะคะ พิธีพระราชทานเพลิงศพจะมีขึ้นที่ศาลา 5 วัดเลา เขตบางขุนเทียนนะคะ ถ้าพ่อแม่พี่น้องท่านใดสะดวกในการจะไปร่วมพิธีดังกล่าว ขอเรียนเชิญนะคะ วันที่ 24 ธันวาคมนี้คะ

พี่น้องคะ วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม ก็คือวันพรุ่งนี้ของที่สหรัฐอเมริกานะคะ พี่การุณ ใสงาม และพี่ไชยวัฒน์ สินสุ่วงศ์ จะไปร่วมกันเสวนาให้ความรู้แก่พี่น้องพันธมิตรฯ ที่ร้านเทก ออฟ ไทย นะคะ สาขาเดลมาร์ หมายเลขติดต่อเจ้าของร้านเลยนะคะคุณแปด หมายเลข 858-793-9695 นะคะ ตั้งแต่บ่ายสามโมง จนถึงหกโมงเย็น เชิญชวนพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ในเขตซาเดียโก้นะคะ ไปร่วมรับฟังการปราศัยในครั้งนี้ด้วยนะคะ วันนี้แอนได้รับไปรษณียบัตร โปสการ์ด นะคะ อวยพรปีใหม่จากพี่น้องเขาเรา จากเชียงใหม่ ชื่อคุณดรุณี นะคะ คุณพี่ดรุณี เขียนมาอวยพรปีใหม่ให้พี่น้องพันธมิตรฯทุกท่าน และแอนเอง และพี่น้อง ASTV นะคะ แล้วก็บอกมาตอนท้ายว่าซื้อเสื้อพันธมิตรมาเชียงใหม่ แต่ไม่ได้ใส่เลยคะ กลัวมันตบเอา ก็เลยเอาไว้ใส่คลุมอาบน้ำนะคะ ปรากฏว่าวันนี้น้องๆทีมงาน บอกว่าคนที่เชียงใหม่โทรมาบอกว่าเนี้ย เขามีการจัดงานปีใหม่กันด้วยนะ บอกว่านี่กล้ากันขนาดนั้นเลยหรอ กล้าซิ พี่ไม่กลัวมันหรอก เออแล้วพี่จัดกันอย่างไร อ๋อ จัดกันเงียบๆ ปรากฏเขาจัดกัน 200 กว่าคน ไม่เงียบแล้วนะคะ 200 กว่าคน มากันเยอะ มาพบปะสังสรรค์แลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางการเมือง

ที่ อ.แม่แตงนะคะ เมื่อคืนนี้ปรากฏว่าคนมาเนี้ยอบอุ่นกันมากทีเดียว ก็มีการเลือกคณะทำงานพันธมิตรฯเชียงใหม่ขึ้นมา 9 คนด้วยกัน นำโดยเจ้าเก่า พี่ชายของเราเองนะคะ พี่สุริยันต์ ทองหนูเอียด ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ จ.เชียงใหม่ แล้วก็เปิดตัวผู้ประสานงานพันธมิตรฯ แต่ละอำเภอของเชียงใหม่อีกด้วยนะคะ ปรากฏว่าวันนี้มีโฟนอินกันคะพี่น้อง แต่ว่าไม่ใช่แม้วโฟนอินนะคะ เป็นคุณสุริยะใส พี่สมบูรณ์ ทองบุราณ พี่มาลีรัตน์ แก้วก่า โทรศัพท์เข้าไปโฟนอิน ในงานนี้ด้วยอบอุ่นกันมากทีเดียวนะคะ และที่ลานประวัติศาสตร์เมื่อคืนที่ผ่านมา ที่หาดใหญ่เขาก็จัดขึ้นยิ่งใหญ่นะคะ โดยพี่สมศักดิ์ โกศัยสุข อยู่ที่นั่นด้วย รวมไปถึงอ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ก็ไปนะคะ ที่สำคัญเลยหญิงเหล็กคนนี้ก็ไปด้วยพี่เสน่ห์ หงษ์ทองคะ ไปขึ้นเวที เขาใช้การพูดคุยบนเวทีในประเด็นที่ว่า "จับตา(ย)รัฐบาลมาร์ค" ก็จังหวัดใกล้เคียงก็มากันเยอะเลย ทั้งสตูล ตรัง พัทลุง และยะลา ไปจนล้านลานประวัติศาสตร์เลยทีเดียว และมีศิลปินปักษ์ใต้มาหลายวงสนุกสนาน และร่วมฉลองเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันด้วย

ส่วนเมื่อวานนี้แอนก็ไปงานที่ชลบุรีนะคะ กลุ่มผู้ประกอบการที่เขาจัดกันขึ้นเพื่อหาเงินเข้ากองทุนสู้คดี จัดขึ้นที่ภัตตาคารไต้ฮี้ 2 ชลบุรี ได้เงินมา 50,000 บาทเศษ และมีคนมาสบทบอีก เดี๋ยวยอดที่แน่ๆ เดี๋ยวแอนจะนำมาเรียนให้ทราบอีกครั้ง ขอกพระคุณทุกท่านที่สบทบทุนกันเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา อบอุ่นมาก และอยากฝากข่าวไปถึงศิลปินกู้ชาติทุกท่านที่เคยขึ้นเวทีพันธมิตรฯ งานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ฉลองชัยประชาชนที่พันธมิตรฯ กรุงเทพจะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่วันที่ 27 นี้ วันเสาร์นี้ ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อยากจะเรียนเชิญศิลปินกู้ชาติทุกท่าน ตอนนี้พ่อแม่พี่น้องหลายคนยังอยากได้ซีดีผลงานเพลงของท่าน ไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่ ขอเชิญชวนให้นำมาจำหน่ายได้ในงาน เชิญชวนศิลปินทุกท่านเลยนะครับ วันเสาร์ที่ 27 นี้ ตั้งแต่ 16.00 น.เป็นต้นไป ไปกันไหมคะ เจอกันนะคะ ไปพงษ์เพชรกันมาหรือเปล่าคะ เห็นบอกว่าล้นทะลักเลย ถ่ายรูปมาด้วย บอกว่าบ้านของคุณไพโรจน์ ดูแคบไปถนัดตาเลย อบอุ่นใช่ไหมคะ เดี๋ยววันที่ 27 เชิญชวนพ่อแม่พี่น้อง ต่างจังหวัดก็มาได้นะคะ พันธมิตรฯ กรุงเทพฯ เขาเชิญชวนด้วยคะ

เอาละคะ เรามาดูข่าวคราววันนี้ก่อนที่จะไปพบคุณสนธินะคะ วันนี้คุณอภิสิทธิ์ได้นำคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับตำแหน่งหน้าที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ก็ทรงมีพระราชดำรัสใจความโดยรวมให้ช่วยกันทำให้บ้านเมืองมีความสงบสุขเรียบร้อย ให้ประเทศชาติผ่านไปด้วยดีตามความต้องการของประชาชนคนไทยทุกคน คุณอภิสิทธิ์พอเสร็จจากพิธีถวายสัตย์แล้ว ก็ออกมาให้สัมภาษณ์กับนักข่าว ยืนยันว่า น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมรับไปปฏิบัติ โดยเฉพาะที่พระองค์รับสั่งถึงความสำคัญของการทำงานให้สำเร็จ และที่แน่ๆ คือคุณอภิสิทธิ์ บอกว่า จะทำให้บ้านนี้เมืองนี้ปราศจากความแตกแยก อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข เราคงจะต้องรอดูว่าสิ่งต่างๆ พ่อแม่พี่น้องต้องช่วยกันจำนะคะว่า คุณอภิสิทธิ์เคยสัญญาอะไรไว้บ้าง เคยสัญญาว่าจะทำอะไรให้คนไทยให้บ้านนี้เมืองนี้เป็นอย่างไร ต้องจำเอาไว้ว่าคุณอภิสิทธิ์ สัญญาว่าอะไร เราจะได้มาทวงสัญญญาถูก วันนึงถ้าคุณอภิสิทธิ์ ไม่สามารถจะรับแรงกดดันทางการเมือง กลุ่มก้อนต่างๆที่อยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลได้ เราจะได้ออกมาทวงสัญญาว่า จำได้ไหมคุณเคยสัญญาอะไรเอาไว้กับคนไทยในวันเข้ารับตำแหน่งหน้าที่นะคะ

และคำขวัญวันเด็กปีนี้ คุณอภิสิทธิ์ให้เอาไว้ว่า “ฉลาดคิด จิตบริสุทธิ์ จุดประกายฝัน ผูกพันรักสามัคคี” และเด็กๆ ปีนี้จะได้เข้าไปนั่งในเก้าอี้ของท่านนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว ใครเคยพาลูกไปนั่งที่เก้าอี้บ้างคะ เคยบ้างไหมคะ อ๋อ เจ๊กบอกว่าลูกโตหมดแล้วจำไม่ได้แล้ว แต่ปีนี้อย่าลืม เด็กๆจะได้เข้าไปนั่งเก้าอี้ และขอแนะนำอย่างหนึ่งด้วย ขอแนะนำคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ลองเข้าไปนั่งเก้าอี้ได้ในวันเด็กนะคะ เพราะว่าคุณสมชายไม่มีโอกาสนั่งในวันอื่นคะนอกจากวันเด็ก ถ้าคุณสมชายไปจะได้นั่งถ่ายรูปด้วยเก็บไว้เป็น Profile ของตัวเองด้วยนะคะ

เอาละคะพี่น้องคะ เรามาดูข่าวกันอีกสักข่าว 2 ข่าว แต่จริงๆ มันก็เป็นข่าวเกี่ยวเนื่องกัน ประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ ออกมาพูดว่าอย่างไรคะ มีบิ๊กเซอร์ไพรส์ใช่ไหมคะ ความประหลาดใจครั้งใหญ่วันที่ 25 วันคริสต์มาส จะฉลองวันคริสต์มาส คนใหญ่คนโตที่เคยระเห็จออกไปอยู่นอกประเทศจะกลับบ้านคะ เซอร์ไพรส์สำหรับเราไหมคะ ดีใจไหมคะ ทำไมทำหน้าเศร้าอย่างนั้นละ เขาดีใจกันนะ จริงๆต้องดีใจถ้าเขากลับมาจริงพี่น้อง ถ้ากลับมาจริงขอให้กลับมาเถิดพี่แม้วขา พวกเรารออยู่ คุณอภิสิทธิ์ ก็เชิญกลับมาด้วย ถ้าแน่จริงก็กลับมา แต่โฆษกส่วนตัว คุณพงศ์เทพ เทพกาญจนา ที่ตัวเขาเองบอกว่าไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย ไม่รู้แกเป็นโฆษกได้อย่างไรนะคะ ตกลงจะกลับหรือไม่กลับพี่น้อง มันไม่ใช่เรื่องสาระสำคัญอะไรสำหรับเราแล้ว วันนี้คุณทักษิณ ไม่มีค่าอะไรสำหรับเราแล้ว ถูกไหมคะ ขนาดโฟนอิน กับขวัญชัย ไพรพนา ยังโฟนอินเลย ต่อไปนี้ต้องโฟนอินแต่ละอำเภอเลยมั้ง แต่ละหมู่บ้านแล้วมั้งคะ แล้วเดี๋ยวจะมีการปิดล้อมสภาฯ หรือเปล่า เดี่ยวจะเล่าข่าวนี้ให้ฟังต่อในช่วงหน้า

เอาละ ตอนนี้เรารอคุณสนธิ ลิ้มทองกุล อยู่ เรียนเชิญคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ปรบมือต้อนรับคุณสนธิค่ะ คุณสนธิสวัสดีค่ะ

สนธิ - สวัสดีครับคุณแอน จินดารัตน์ครับ สวัสดีครับท่านผู้ชมที่อยู่ในห้องส่ง พี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตลอดจนท่านผู้ชม ASTV ที่อยู่ที่บ้าน ก็เป็นเวลานานแล้วที่กระผมห่างเหินจากจอทีวี วันนี้ที่ตัดสินใจกลับมาก็เพราะว่าหนึ่ง จะสิ้นปีแล้ว หลายคนก็ถามผมว่า จุดยืนของผมที่มีต่อการเมืองที่เป็นปัจจุบันนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เพราะว่าหลายๆท่านก็ได้แสดงความคิดเห็นของตัวเองออกไป ขาดอยู่เพียงท่านเดียว ก็คือตัวผมเอง วันนี้ผมจะมาพูดสิ่งที่ผมคิด ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ผลแปลความหมายของการเกิดขึ้นครั้งนี้อย่างไรบ้าง ผมมองอย่างนี้ท่านผู้ชมนะครับ และก็พ่อแม่พี่น้อง ผมมองว่าการกวาดบ้านนั้นเนี้ย มันไม่ใช่กวาดกันครั้งเดียวแล้วก็สะอาดไปเลยทีเดียว บ้านหลังนี้คือประเทศไทยนั้น รกรุงรัง สกปรกมาก ตั้งแต่ปี 2544 ตั้งแต่คุณทักษิณ เริ่มเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี จากสกปรกกลายมาเป็นเน่าเฟะ จากเน่าเฟะกลายเป็นเสาเรือนที่สั่นคลอน มีปลวก มีมอดเข้ามากิน จวนจะล้มหลายครั้งแล้ว

พี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขึ้นมาครั้งนี้เนี่ย ขึ้นมากู้ชาติ กู้บ้าน กู้เมือง แต่การกู้ชาติ กู้บ้าน กู้เมืองนั้น ไม่ได้ทำเพียงครั้งเดียวก็จะสำเร็จ ถ้าถามผม พี่น้องถามว่า ผมพอใจในการจบลงเมื่อวันที่ 2 และ 3 ธันวาคมนี้หรือเปล่า ผมก็ตอบได้ว่า ไม่พอใจ แต่ไม่พอใจนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่า ผมไม่รู้จักหยุด ผมคิดว่าถึงเวลาที่เราต้องหยุดพักกันสักครู่หนึ่ง การหยุดพักกันครั้งนี้นั้น เราต้องหันมาทบทวนสิ่งที่เราทำมา และในขณะเดียวกัน เราต้องหันมามองว่า แล้วเราจะเดินกับมันต่อไปอย่างไร สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นและผมพูดมาตลอดเวลา ซึ่งพ่อแม่พี่น้องหลายท่าน ซึ่งได้ยินผมพูดก็จะเข้าใจดี ผมบอกตลอดเวลาว่า 193 วัน ที่ผ่านมานี้ เป็น 193 วัน ที่เป็นเหมือนเบ้าหลอมอันใหญ่มหึมา ที่หลอมให้การต่อสู้ของพี่น้องประชาชนนั้น ได้พัฒนาการต่อสู้ไปขึ้น ไปอีกหลายลำดับขั้น

พี่น้องประชาชนที่เข้ามาร่วมสู้ครั้งนี้เนี่ย สู้กัน 2 ลักษณะ ลักษณะหนึ่งสู้ด้วยใจ ใจเนี้ยทุกคนสู้หมด ไม่ว่าจะนั่งอยู่ที่หน้าจอทีวี หรือว่าที่ต่างประเทศ หรืออยู่ที่บ้านในกรุงเทพมหานคร อีกอันหนึ่งคือสู้ด้วยทั้งตัว ทั้งกาย และทั้งใจ คือพวกที่มาร่วมกันที่ทำเนียบรัฐบาล ที่สะพานมัฆวาน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ที่ดอนเมือง หลายครอบครัวสู้ด้วยชีวิต 8 ชีวิตที่สูญเสียไป ตลอดจนญาติพี่น้องที่จะต้องโศกเศร้า เสียดายกับการสูญเสียของคนที่ตัวเองรักไป คนที่สูญเสียอวัยวะร่างกายตัวเอง คนพิการ อีกจำนวนหนึ่ง และผู้ที่บาดเจ็บ อีกประมาณ 700 กว่าคน พี่น้องครับ ความสูญเสียนั้น ผมทนไม่ได้กับมัน ผมเศร้าโศกสลดใจ ผมช้ำใจอยู่ในใจผม ผมไม่แสดงออก แต่ผมเปลี่ยนความสูญเสียนี้เป็นพลัง ที่ผมอยากจะเรียนพี่น้องว่า ผมไม่ได้ท้อใจอะไรเลย ผมคิดว่าอีกไม่นาน ถ้ามีความจำเป็นผมจะเชิญชวนพี่น้องอีกครั้งหนึ่ง ออกมาแสดงประชามติ ออกมาแสดงความคิดเห็นของพวก

เรา 193 วันนั้น มันได้เกิดการเมืองใหม่ขึ้นมาแล้ว อย่างน้อยที่สุดก็เป็นการเมืองใหม่ ในหมู่พวกเรา

193 วันได้ทำให้พี่น้องรู้สึกรัก และหวงแหนการต่อสู้ครั้งนี้

193 วัน ทำให้พี่น้องรู้สึกว่า ASTV เป็นทีวีของประชาชนอย่างแท้จริง

193 วัน ที่อยู่ในทำเนียบนั้นทำให้คนไทยเริ่มรู้สึกว่า จะอยู่เหนือ อยู่ใต้ อยู่ภาคตะวันออก อยู่ภาคกลาง มันคือคนไทยที่มีอุดมการณ์ร่วมกัน คืออุดมการณ์เพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

เราสู้เราไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น ผมยังยืนยันพ่อแม่พี่น้อง เหตุผลหนึ่งที่ผมเงียบไป หลังจากการต่อสู้จบแล้ว เพราะว่าผมไม่ต้องการที่จะออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆทั้งสิ้น เดี๋ยวจะหาว่าสนธิ คุณไม่รู้จักพอหรือ คุณต้องการอะไร พี่น้องก็รู้ว่าผมไม่ต้องการอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ผมต้องการชาติ บ้านเมือง ที่มั่นคง ผมต้องการสถาบันกษัตริย์ที่มั่นคง ผมต้องการเรียกร้องให้มีจริยธรรม และคุณธรรม กลับมาสู่ชาตินี้ บ้านนี้ เมืองนี้ ผมต้องการเรียกร้องให้ประเทศไทยอันเป็นที่รักของเรานี้ ให้กลับมาสู่อ้อมอกของเรา ถึงแม้ประเทศไทยนั้นจะกลับคืนมาสู่เรา ที่คว้าเกือบจะได้อยู่แล้ว แต่ยังคว้าไม่ได้ แต่ระยะห่างที่ยังห่างไกลกันมากนัก เริ่มเข้ามาใกล้ชิดขึ้นทุกทีๆจนกระทั่งผมมีกำลังใจขึ้นมากกว่าเก่า หลายต่อหลายท่านได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์มา

พ่อแม่พี่น้องคงสงสัยว่า แล้วผมละคิดอย่างไร หลายคนไม่พอใจ ที่พรรคประชาธิปัตย์นั้นไปร่วมกับกลุ่มคนซึ่งพ่อแม่พี่น้องรังเกียจเดียดฉันท์ แล้วก็ตั้งเป็นรัฐบาลขึ้นมา ผมจะไม่บอกว่าผมพอใจหรือไม่พอใจนะครับ ผมจะพูดอย่างนี้ให้พ่อแม่พี่น้องเข้าใจนิดหนึ่ง ความจริงแล้วการที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้มาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลนั้น บางท่านก็บอกว่าเป็นเพราะว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ วางแผนไปดำเนินการให้พรรคร่วมรัฐบาล ตลอดจนกลุ่มคุณเนวิน ชิดชอบ นั้น เข้ามาร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อที่จะจัดตั้งรัฐบาล จะเป็นอย่างไรก็ตามเนี้ย ขอเท็จจริงมันมีอยู่ ดังที่ผมจะพูดดังต่อไปนี้ หากไม่มีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็จะต้องมีการแก้รัฐธรรมนูญ

หากมีการแก้รัฐธรรมนูญ คุณทักษิณ ก็จะต้องพ้นผิด และก็จะไม่มีการยุบพรรค เพราะฉะนั้น 8 ชีวิต 10 กว่าคนที่พิการ ตลอดจน 700 กว่าคนที่บาดเจ็บ รวมไปถึง 193 วัน ของความขมขื่น ความสุข ความปรีดา และความเศร้า นั่นคือการลงทุนของสังคมไทย ที่จะให้พรรคประชาธิปัตย์มาเป็นรัฐบาลได้ ตลอดจนเป็นการลงทุนของสังคมไทย ที่จะทำให้คนอย่าง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สอดแทรกเข้ามาเพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์ ผมไม่อยากจะพูดว่าเขาใช้การตายของประชาชน การต่อสู้ของพวกเราเพื่อให้เขาได้เป้าหมาย ซึ่งเขาแอบวางเอาไว้นานแล้ว ผมไม่อยากจะพูดเช่นนั้น จะเป็นการกล่าวหากันมากเกินไป แต่ผมอยากจะพูดอย่างนี้มากกว่า ผมอยากจะพูดว่าภาคประชาชนเป็นภาคประชาชนที่บริสุทธิ์ เจตนารักชาติ รักแผ่นดินของประชาชนนั้นบริสุทธิ์ผ่องใส ไร้มลทิน ไร้ราคีคาว การต่อสู้ของประชาชนนั้นเป็นการต่อสู้ด้วยอุดมการณ์ที่สูงส่ง ไม่มีใครได้อะไร มีแต่สูญเสีย บ้างเสียเงิน เสียทอง บ้างเสียเวลา ที่ร้ายที่สุดก็คือ เสียชีวิต เสียทรัพย์สิน เสียอวัยวะ ทั้งหมดของประชาชนที่เสียนั้นเสียไปเพื่อเห็นสังคมให้ดีขึ้น

เอาละ การเมืองเก่าที่พวกเราเห็นนั้น ก้าวเข้ามาสู่โค้งสุดท้ายแล้วพี่น้องครับ ทำไมผมถึงกล้าพูดว่าก้าวเข้ามาสู่โค้งสุดท้ายแล้ว ก็เพราะว่าในบางครั้งบางเวลา เวลาเราพูดเรื่องการเมืองนั้นคนจะไม่เข้าใจ คนเขาจะบอกว่าการเมืองที่มันไม่ดี เพราะว่าพรรคการเมืองมันไม่ดี ถ้าได้พรรคการเมืองดีการเมืองมันจะดี ผมไม่ได้ปฏิเสธคำพูดเช่นนั้น ผมจะอยากจะเพิ่มเติมว่า พรรคที่ดีนั้น ถ้าอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดีอยู่ในระบบที่ไม่ดี พรรคที่ดีก็จะกลายเป็นพรรคที่ไม่ดีเช่นกัน ผมไม่ได้ขัดข้องที่พรรคประชาธิปัตย์เอาคุณเนวิน ชิดชอบ เข้ามาร่วม ไม่ได้ขัดข้องที่ข่าวออกมาว่า พล.อ.อนุพงษ์ และ พล.อ.ประวิตร แท้ที่จริงแล้วแอบจับมือคุณเนวิน มานานแล้ว เพราะผมรู้ว่าการเมืองกับความทะเยอทะยานส่วนบุคคลมันไปด้วยกัน เราทำการเมืองโดยไม่หวังอะไร แต่คนบางคนเล่นการเมืองเพียงเพื่อให้การเมืองมันหนุนให้ตัวเองอยู่ในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก โดยที่ไม่มีใครโยกย้ายได้ มีโอกาสใช้งบประมาณซื้ออาวุธได้ ผมไม่ติดใจเรื่องนี้ ไม่เป็นไรหรอก มันเป็นเรื่องสมมติ สักวันหนึ่งจะต้องแก่เฒ่ากันลงไป ก็ต้องเกษียณอายุกันไป เมื่อมองย้อนหลังไปแล้วพี่น้องก็รู้ผมพูดอยู่ตลอดว่าคนอย่างแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น เงยหน้าไม่อายฟ้าก้มหน้าไม่อายดิน ถึงเวลาตายเราก็ตายหนักอย่างขุนเขา เราไม่ได้เบาอย่างขนนก

ในเมื่อเขาจะลองกันว่าการเมืองถ้ามันจะดีแล้วเขาต้องเอาพรรคที่ดีน้ำดีเข้ามา แต่พรรคน้ำดีมันจะเข้ามาได้อย่างไรละ เขาก็รู้ว่าถ้าไม่มีพรรคน้ำเน่าเข้ามาร่วมผสมด้วย เขาก็บอกว่าเห็นใจเขาเถอะ พี่น้องครับ เชื่อผมเถอะ เห็นใจเขาไปเถอะ ผมจะให้โอกาสเขา เหตุที่ผมให้โอกาสเขาเพราะว่า คุณอภิสิทธิ์ เป็นคนดี มีหลักการ มีความมุ่งมั่น และปรารถนาที่จะทำดี จริงๆแล้วเมื่อมองย้อนหลังแล้ว มันเหมือนครั้งที่คุณทักษิณ ชินวัตร เริ่มตั้งพรรคไทยรักไทย ถ้าพี่น้องจำได้คุณทักษิณ พูดตลอดเวลาว่า เขาไม่สนใจการเมืองน้ำเน่า เขาจะเอาคนรุ่นใหม่มา แต่ถึงจุดๆหนึ่งแล้ว เขารู้ว่าเขาค่อยๆสร้างพรรค เขาสร้างไม่สำเร็จ เพราะฉะนั้นเขาจำเป็นที่จะต้องไปเอาคุณเสนาะ เทียนทอง เข้ามา โดยเขาหวังว่าเมื่อเอาคุณเสนาะ เทียนทองเข้ามาแล้ว เขามีอำนาจรัฐในมือแล้ว เขาจะค่อยๆเปลี่ยนสิ่งที่ไม่ดีให้ดีขึ้น หรืออีกนัยหนึ่งให้โจรกลับใจกลายเป็นคนดีไปได้ แต่คุณทักษิณ ทำตัวเป็นโจรเสียเอง ในที่สุดคุณทักษิณ ก็ทำไม่สำเร็จ ฉันใดฉันนั้น เราให้โอกาสคุณอภิสิทธิ์ เขาสักครั้งละกัน เพราะนี่คือโค้งสุดท้ายของการเมืองเก่า เพราะว่าถ้ายังมีการล้มเหลวอีก พิสูจน์ชัด ถึงแม้ว่าจะมีพรรคน้ำดีอย่างพรรคประชาธิปัตย์เข้ามา ก็แก้ปัญหาไม่ได้ เพราะการเมืองมันยังน้ำเน่าอยู่เหมือนเดิม เมื่อมันน้ำเน่าเหมือนเดิมแล้ว มันไม่มีอะไรต้องพิสูจน์อีกแล้วพี่น้อง พรรคประชาธิปัตย์มีฐานเสียง ส่วนหนึ่งจำนวนหนึ่งที่เป็นพันธมิตรฯ ก็เป็นฐานเสียงพรรคประชาธิปัตย์ แต่ผมไม่รู้ว่าเขาจะคิดอย่างไร พรรคการเมืองอื่นๆคิดอย่างไร แต่ผมรู้ว่าคนที่เป็นฐานเสียงพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะอยู่ในกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด คนพวกนี้ที่เป็นพันธมิตรฯ เขาล้ำหน้าทางการเมืองเกินกว่าที่พรรคประชาธิปัตย์จะตามทัน นี่คือเรื่องที่น่ากลัวสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ผมหวังว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเรียนรู้ตรงนี้

คนใต้หลายคนที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ คนกรุงเทพฯ หลายคน ความคิดทางการเมืองจากการมาร่วมการชุมนุมนั้นเขาล้ำหน้าพรรคไปไกลแล้ว แต่พี่น้องครับในบางครั้งการเมืองที่ควรเป็นกับการเมืองที่เป็นจริงมันไม่เหมือนกันพี่น้อง เรามายืนบนเวทีเราพูดถึงการเมืองที่ควรเป็น แต่เผอิญการเมืองที่เป็นจริงคือการรวมตัวกัน แบ่งเค้กกัน พี่น้องไม่สังเกตหรือว่า การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ ผมต้องขออนุญาต ขออภัยพ่อแม่พี่น้องที่อยู่กับหลายๆ พรรค ผมต้องขออนุญาตตรงที่ว่าผมเห็นการรวมตัวครั้งนี้เหมือนกันซื้อวัวซื้อควาย รัฐมนตรีคนหนึ่งต้องการที่จะเป็นรัฐมนตรี ก็ไปซื้อ ส.ส.หัวละ 20 ล้าน ได้มา 6 หัว 120 ล้านก็เอาไปเสนอว่าผมมี ส.ส. 6 คน ผมขอรัฐมนตรี 1 คน มันต่างอะไรกับตลาดวัวตลาดควายพี่น้อง ไม่ได้ต่างกันเลย และนี่คือบทสะท้อนการเมืองเก่าที่เห็นได้ชัด แต่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีทางเลือก เพราะว่าถ้าต้องการดำรงอยู่ในอำนาจ เขาจำเป็นต้องการเสียง และเมื่อเขาได้เสียงมาแล้ว ในครั้งแรกเขาจำเป็นต้องยอม ใครอยากได้อะไรเขายกให้หมด เหตุผลเพราะว่ากติกามันบังคับ ว่าเขาต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภา และต้องมีการยกมือให้ผ่านนโยบายเขาถึงจะเริ่มทำงานได้

ผมก็เพียงแต่หวังว่า เมื่อเขายกมือและผ่านนโยบายแล้ว คุณอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์จะกลับคืนไปสู่จุดคุณธรรม และจริยธรรมที่ตั้งใจเอาไว้ ผมเพียงแต่คาดหวัง และผมเชื่อว่าคุณอภิสิทธิ์ต้องการเช่นนั้น ผมถึงต้องบอกพ่อแม่พี่น้องทุกคน ว่าผมขอร้องเถอะ ให้โอกาสเขาสักหน่อย ถ้าอุปมาอุปมัยเหมือนพรรคประชาธิปัตย์คือคนที่ใส่เสื้อสีขาว แล้วมานั่ง แล้วก็รวมหมู่คนที่คลุกดินมา คลุกฝุ่นมา เปื้อนโคลน เปื้อนน้ำมันเครื่อง แล้วมาร่วมกันทำงานบนโต๊ะๆ หนึ่ง คำถามมีอยู่ว่าคนใส่เสื้อสีขาว จะสามารถที่จะทำให้คนซึ่งสกปรกนั้น ซักล้างตัวเองให้สกปรกน้อยลง หรือว่าตัวเองจะโดนเศษสกปรกเข้ามาหา จนกระทั่งสีขาวของตัวเองนั้น เริ่มกลายเป็นสีเทา และในที่สุดก็กลายเป็นสีดำ อีกไม่นานเราก็รู้ ยุทธศาสตร์ของพรรคประชาธิปัตย์นั้น เขาไม่เคยมีอำนาจมา 8 ปีแล้ว ต้องให้เขามีโอกาสเข้าไปบริหารชาติบ้านเมืองมั้ง

แต่สิ่งหนึ่งผมอยากจะเรียนสักนิดหนึ่ง ให้พ่อแม่พี่น้องทราบ ASTV นั้น เป็นทีวีที่พูดความจริง และเปิดโอกาสให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นได้โดยไม่กีดกั้นกัน เราอาจจะเจอคุณสำราญ รอดเพชร พูดวาจาสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ อ.เจิมศักดิ์ ท่านให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์เต็มที่ คุณวีระ สมความคิด ท่านก็ตีแสกหน้าพรรคประชาธิปัตย์ด้วยไม้หน้าสาม คุณอมร อมรรัตนานนท์ ก็เช่นกัน เรามีความหลากหลาย บางส่วนของพวกเราก็สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ บางส่วนก็ไม่เห็นด้วย นี่คือความสวยงามของ ASTV นี่คือความสวยงาม อย่าไปคิดว่ามีความขัดแย้ง เพราะอย่างน้อยที่สุด คนสามารถพูดอะไรก็ได้หน้าจอทีวีที่นี่ ซึ่งที่อื่นไม่สามารถจะพูดได้ ผมก็เลยอยากจะฝากไปบอกถึงพรรคประชาธิปัตย์ด้วยว่าอย่าน้อยใจ อย่าบ่น อย่ามาตำหนิ ว่าเฮ้ยทำไม ASTV เดี๋ยวนี้มาโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่อย่างนั้น ผมไม่เคยสั่งว่าคนแต่ละคนต้องพูดอย่างไรบ้าง ผมไม่เคยพูด พูดตามที่คุณคิดว่าคุณจะพูด แต่ขอให้มีเหตุมีผล คุณวีระ สมความคิด พูด แกก็มีเหตุผลของแก ว่าแกไม่ได้ ในขณะเดียวกันอ.เจิมศักดิ์พูด อ.เจิมศักดิ์ ก็มีเหตุมีผล อ.เจิมศักดิ์ ก็บอกว่า คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ นั้น ก็เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า พยายามทำทุกอย่างโดยที่ตัวเองไม่หวังอะไรเลย ถึงแม้ว่าในข้อเท็จจริงนั้นคนที่อยู่เบื้องหลัง คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ และก็คุณเนวิน ชิดชอบ คือวิชัย รักศรีอักษร เจ้าของ คิงเพาเวอร์ ซึ่งเป็นคนซึ่งให้เงินทุนสนับสนุน ทั้งคุณเนวิน และก็คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ แต่ไม่เป็นไรผมไม่ว่า ผมถือว่าการเมือง ถ้ามันจำเป็นต้องเดินไปอย่างนั้น เพื่อให้ประชาธิปัตย์มีอำนาจก็ทำไป

เพราะว่าผมยังเชื่อว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีความกล้าหาญ และต้องการยืนอยู่บนคุณธรรม และจริยธรรม และน้อมรับพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันถวายสัตย์วันนี้เข้าใส่เกล้า น้อมใส่เกล้าแล้ว ผมเชื่อว่าประเทศไทยจะดีขึ้น และผมก็คาดหวังว่าอาจจะทำให้การทำมาหารับประทานของรัฐบาลชุดนี้ น้อยลง และไม่โฉ่งฉ่าง แต่คำถามจะมีอยู่ว่า เมื่อมีการตรวจสอบแล้ว พบว่าพรรคร่วมรัฐบาลมีการทุจริตคอรัปชั่นอย่างเห็นได้ชัด อย่างหนักหน่วง คำถามมีอยู่ว่าคุณอภิสิทธิ์ จะทำอย่างไรกับตรงนี้ แต่อย่างที่บอกว่า คนโบราณเขาบอกว่าเมื่อยังไม่ถึงแม่น้ำ อย่าพึ่งคิดอะไร เมื่อถึงแม่น้ำแล้วค่อยคิดสร้างสะพานข้ามแม่น้ำไป เพราะฉะนั้นแล้วผมเลยอยากจะกราบขอร้องพ่อแม่พี่น้องทั่วประเทศไทยที่ดูรายการผมอยู่ และที่ติดตามการต่อสู้ของผมมาตั้งแต่ปี 2548 ให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์สักครั้งเถอะ ไม่ต้องนาน ผมคิดว่า 3 เดือนก็รู้แล้ว ว่าเป็นอย่างไรนะครับ ตั้ง 6 เดือนกว่าเรายังนอนกลางดิน กินกลางทรายได้เลย ทำไมเรานอนในห้องแอร์อยู่ที่บ้าน ทานข้าวอร่อยๆอยู่ที่บ้าน จะไม่ให้โอกาสเขาแค่ 3 เดือนหรือ ให้เถอะครับ เชื่อผม

วันนี้มีเรื่องอันหนึ่งซึ่งจะเป็นเรื่องท้าทาย เป็นงานชิ้นแรกที่จะท้าทาย คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในสิ่งที่ผมพูดไป พี่น้องที่ได้ติดตามข่าวคงรู้ว่าวันนี้ คุณชวรัตน์ ชาญวีรกูล รักษาการนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่รู้ว่ามีอำนาจหรือเปล่า ได้เซ็นคำสั่งโยกย้าย พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ กลับมาเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอีกครั้งหนึ่ง ตรงนี้มีประเด็นอยู่หลายประเด็นซึ่งผมอยากจะกราบเรียนพ่อแม่พี่น้อง ประเด็นแรกคุณชวรัตน์ ทำไมถึงกล้าหาญชาญชัยที่จะทำเช่นนั้น ทั้งๆที่คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้รับการโปรดเกล้าให้เป็นนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว ถือว่าเป็นนายกรัฐมนตรีเต็มตัวแล้ว ขาดอยู่อย่างเดียว ยังไม่ได้แถลงนโยบายต่อสภา ทำไมคุณชวรัตน์ ถึงไม่รอให้คุณอภิสิทธิ์ เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีหลังการแถลงนโยบาย แล้วค่อยให้คุณอภิสิทธิ์พิจารณาว่าจะย้ายคุณพัชรวาทกลับมาอีกครั้งหรือเปล่า ผมมีบันทึกฉบับหนึ่ง ซึ่งเป็นบันทึกที่สำนักนายกรัฐมนตรีทำเนียบรัฐบาล เขียนลงวันที่ 19 ธันวาคม เมื่อ 2-3 วันที่แล้ว เขียนถึง

กราบเรียนนายกรัฐมนตรีวงเล็บ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลงชื่อนายสุพล ฟองงาม รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลชุดรักษาการ สรุปง่ายๆเขาเขียนบันทึกมาว่าเรื่องเดิมเป็นอย่างไรๆ ว่าคุณพัชรวาทถูกย้ายเพราะอะไร เพราะฉะนั้นแล้วเขียนมาเพื่อให้นายกรัฐมนตรี คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน คุณพัชรวาท คือประกอบด้วยนายจุลสิงห์ วสันต์สิงห์ รองอัยการสูงสุด เป็นประธานกรรมการ นายวชิระ เพ่งผล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการ พล.ต.อ. วันชัย ศรีนวลนัดที่ปรึกษาเป็นกรรมการ พล.ต.ท.สุรสีห์ สุนทรศารทูล จเรตำรวจเป็นกรรมการ พล.ต.ท.เจตน์ มงคลหัตถี ผู้บัญชาการสำนักกฎหมายสอบสวน เป็นกรรมการเลขานุการ จดหมายฉบับนี้ คือจดหมายของการเสนอคุณอภิสิทธิ์ ตั้งคณะกรรมการสอบสวน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผมจะเรียนให้ทราบเรื่องทั้งหมดมีอย่างไร จะได้ทุกคนจะได้เข้าใจ คุณพัชรวาท ถูกย้ายสมัยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปเป็นประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ข่าวที่ออกมา ข่าวที่เสริมเติมแต่งโดยพวกคุณพัชรวาทเอง บอกว่าคุณพัชรวาทถูกย้ายนั้นเป็นเพราะว่าไม่ยอมปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาลให้ปราบปรามประชาชน

ประเดี๋ยวตามผมมาแล้วจะรู้ว่าใครโกหกใคร ปรากฏว่าหนังสือฉบับลับมากนี้ เขียนโดยคุณชูศักดิ์ ศิรินิล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เรื่องมันมีอยู่ว่าอย่างนี้พี่น้อง เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2551 สมัยที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ท่านเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ท่านได้รับหนังสือร้องเรียนมาจากคนซึ่งเข้าไปประมูลงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ และพล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ท่านจึงเสนอให้ตั้งกรรมการสอบสวน พิจารณา และท่านก็ตั้งชุดที่ทำงานมาพิจารณาสอบสวน แล้วปรากฏว่าผิดจริง ท่านก็เลยเสนอหนังสือเล่มนี้ เอกสารเล่มนี้ไปให้นายสมัคร สุนทรเวช นายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งตอนนั้นพึ่งจะย้าย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แล้วตั้ง พล.ต.อ.พัชรวาท ขึ้นมา ก็เอาหนังสือฉบับนี้เนี้ย หนังสือที่ร้องเรียนอันนี้เนี้ย ซึ่งเขียนโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 17 มีนาคม ใส่ไว้ในลิ้นชักเก็บเอาไว้เลย ไม่พิจารณา ทั้งๆที่ตัวเองต้องดำเนินการทันที ต้องไม่ตั้งพัชรวาท เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต้องตั้งกรรมการสอบสวน และต้องย้ายพัชรวาทมาประจำสำนักนายกเช่นกัน แต่ก็ไม่ทำ ตราบจนกระทั่งมาถึงยุค นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ก็กัดไม่ปล่อย ทำจดหมายร้องเรียนไปที่นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รวมเบ็ดเสร็จ 5 ฉบับ จดหมายร้องเรียนนั้นร้องเรียนไปถามถึงความคืบหน้า ว่ากรณีของ พล.ต.อ.พัชรวาท นั้น ไปถึงไหนแล้ว เพื่อถามไปเพื่อเป็นพื้นฐาน ถ้านายกรัฐมนตรีไม่ตั้งคำถามสอบสวน หรือไม่ดำเนินการกับ พล.ต.อ.พัชรวาท แล้ว นายกรัฐมนตรีจะถูกข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ครับ

ด้วยเหตุนี้นายชูศักดิ์ ศิรินิล ผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมาย และเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ถึงมีหนังสือด่วน เขียนอย่างนี้ กราบเรียน ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรี สรุปง่ายๆในหนังสือเนี้ย คุณชูศักดิ์ ศิรินิล บอกว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ได้ทวงถามเรื่องนี้มา 5 ครั้งแล้ว 3 ครั้งในยุคนายสมัคร สุนทรเวช 2 ครั้ง ในยุคสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายสมชาย อยู่เป็นนายกรัฐมนตรียังไม่ถึง 3 เดือนเลย ถูกถามมา 2 ครั้ง เขาก็ให้ความเห็นว่าหากไม่ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งไป นายกรัฐมนตรีจะต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพราะฉะนั้นแล้ว นายชูศักดิ์ ศิรินิล ก็เลยเสนอว่า 2.21 ให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง และ 2.22 หากเห็นว่าการดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง ตามข้อ 2.21 อาจมีปัญหาอุปสรรค์ก็อาจจะพิจารณา มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี

โดยแต่งตั้งบุคคลซึ่งมีอาวุโสสูงสุดเป็นผู้รักษาราชการแทนไปพลางก่อน คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ลงชื่อว่า เห็นชอบตามข้อเสนอ หัวข้อ 2.2.1 และ 2.2.2 ก็คือว่า ให้ตั้งกรรมการสอบสวน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ และให้ย้ายมาที่สำนักนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นพี่น้องจะเห็นได้ชัดว่า คุณพัชรวาท วงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็นน้องชาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ข้อเท็จจริงของการถูกย้ายไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น คือข้อหาที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส ตั้งข้อหาว่าได้ประพฤติมิชอบทุจริต ซึ่งมีหลักฐานร้องเรียนที่ถูกต้อง หาใช่คำพูดที่บอกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะว่าไม่ได้ ไม่เห็นด้วยกับการฆ่าประชาชน พี่น้องจำได้หรือเปล่าว่า พลต.อ.พัชรวาท เมื่อ 3- 4 วันที่แล้ว ถูกคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ระบุไปเลยว่า การที่ตำรวจฆ่าประชาชนครั้งนี้ 23 คนที่โดนด้วยนั้น พล.ต.อ.พัชรวาท ต้องรับผิดชอบ

และสำนวนของการสอบสวนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนนั้น ได้ถูกส่งไปให้ ป.ป.ช. และในขณะเดียวกันก็ได้ถูกส่งไปให้ท่านนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับการโปรดเกล้าฯ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นอกจากกรณีที่ต้องถูกตั้งกรรมการสอบสวนข้อหาทุจริต ข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่แล้วตามที่ถูกย้ายไปแล้ว ยังถูกกรรมการสิทธิฯชี้มูล และส่งไปที่ ป.ป.ช.ผมถามว่าควรหรือไม่ควรที่คุณชวรัตน์ ชาญวีรกูล จะพูดง่ายๆว่า เนื่องจากหน้าที่ที่ได้ถูกสั่งมาให้ปฏิบัติที่สำนักนายกฯ ได้หมดสิ้นแล้ว ให้ส่งกลับ แสดงว่าเรื่องนี้มีเบื้องหลัง นี่คือการท้าทายจริยธรรม และคุณธรรม การท้ายทายของรัฐบาลชุดพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำของท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นกรณีแรกที่ถูกท้าทาย

ท้าทายประเด็นไหนพี่น้อง ที่ประเด็นที่พรรคประชาธิปัตย์เอง และพวกเราเองเคยพูดตลอดเวลาใช่ไหม ว่ารัฐบาลชุดทักษิณ รัฐบาลชุดนอมินีทักษิณ เป็นคนซึ่งไม่เห็นแก่คุณธรรม จริยธรรม ไม่เคารพในกฎหมาย ไม่เคารพในกติกา ป.ป.ช.ชี้มูลแล้วก็ยังไม่ยอมออก คณะกรรมการสิทธิฯ ชี้แล้วก็ทำงานต่อ หน้าด้าน ในขณะนี้เขาใช้มาตรฐานเดียวกับทักษิณ มาทดสอบคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

พี่น้องครับ คุณพัชรวาทไม่มีวุฒิภาวะของการเป็นผู้นำ มีส่วนร่วมในการเข่นฆ่าประชาชนเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม จะมีเหตุผลหรือไม่มีไม่สำคัญ สำคัญที่ว่าถ้าคุณพัชรวาทไม่เห็นด้วยกับการที่ตำรวจตัวเองมาฆ่าประชาชน คุณพัชรวาท ตำแหน่งคือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ใช่ไม่ใช่ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ใช่หรือไม่ ตำรวจทุกคนที่ลั่นไกปืน ตำรวจทุกคนที่ขว้างระเบิด ตำรวจทุกคนที่หน้าขมึงถึงด่าประชาชน และฆ่าประชาชน เป็นผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของคุณพัชรวาท วงษ์สุวรรณ ทั้งสิ้น ถ้าคุณพัชรวาท พูดออกมาตอนนั้น สั่งให้ตำรวจหยุด ให้หยุดทำร้ายประชาชน และคุณพัชรวาท ถูก นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ย้ายทันที เหตุผลเพราะไม่สนองนโยบาย ถ้าอย่างนั้นคุณพัชรวาท ไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่คุณพัชรวาท เคยทำอย่างนี้ไหม ไม่เคยทำ

เขาฆ่าประชาชนที่อุดรธานี โดย นายขวัญชัย ไพรพนา ยกทีมไป ก็เห็นเอาขวานจามหัวคน ไล่กระทืบผู้หญิง ไล่กระทืบคนแก่ ตำรวจยืนเฉยๆ คุณพัชรวาท ไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับการบาดเจ็บ การตายของประชาชนเลยแม้แต่นิดเดียว คุณพัชรวาท ก็ไม่กล้าบอกว่าผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ซึ่งรับผิดชอบ จ.อุดรธานี นั้นเป็นเพื่อนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 25 รุ่นเดียวกับเขา ไม่กล้าพูด คนใช้อาวุธสงครามยิงปืน M-79 จนประชาชนตาย บาดเจ็บ หลายคน คุณพัชรวาท ก็ไม่รู้ร้อนรู้หนาว นั่งเฉยๆ ไม่ได้ออกมาแถลงข่าว เรียกประชุมผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 191 บอกคุณต้องยุติให้ได้นะ การใช้อาวุธสงคราม คุณต้องมีการตรวจลาดตระเวน ไม่พูดสักคำ ปล่อยให้ประชาชนถูกกระทืบถูกฆ่าถูกทำร้าย แล้วนั่งเฉยๆ ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น แต่พอมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง พอพี่ชายตนเองเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็เริ่มมาพูดเป็นการภายใน ผมไม่ได้รับความเป็นธรรม ผมถูกย้ายเพราะผมไม่ทำตามนโยบายเขา

ผมไม่รู้ว่า คุณพัชรวาท วงษ์สุวรรณ ใช้ความกล้าหาญอะไรมาพูดแบบนี้ ใช้ความกล้าหาญอะไรมาพูดบนซากศพประชาชน งานศพน้องโบว์ ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ เสด็จไปพระราชทานเพลิงศพ คุณพัชรวาท อยากจะไปด้วย แต่คุณพ่อน้องโบว์ บอกว่า อย่ามา ไม่ต้อนรับ

พี่น้องครับ คนที่ปล่อยให้ลูกน้องตัวเองยิงประชาชน ไม่กล้าสั่งให้หยุด แต่พอเรื่องจบตัวเองถูกย้าย จึงบอกว่าตัวเองไม่เห็นด้วย ปล่อยให้มีการใช้อาวุธสงครามยิงใส่ประชาชนโดยไม่รู้ร้อนรู้หนาวไม่ดำเนินการป้องกัน ปล่อยให้มีการฆ่าประชาชนที่อุดรธานี ไม่มีการตั้งกรรมการสอบสวน ไม่มีออกมาเลย ท่านผู้บัญชาการภูธรภาค4 ท่านทำไมปล่อยให้ตำรวจ ปล่อยให้ นายขวัญชัย นั้น ตั้งกรรมการสอบเลย ทำหรือเปล่า ก็ไม่ได้ทำ

พี่น้องรู้ไหมความลับอีกข้อหนึ่ง พี่น้องจำพวก นปก. ที่ไปบุกบ้านป๋าเปรมได้ไหม แล้วถูกดำเนินคดี พี่น้องรู้ไหมว่าทำไมเงียบไป ตำรวจสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว และสั่งไม่ฟ้องในยุคที่ คุณพัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพราะฉะนั้นคุณพัชรวาท รู้เห็นเป็นใจกับพวก นปก. พี่น้องจำได้ไหมที่อาจารย์จุฬาฯ นิสิต นักศึกษาจุฬาฯ หมอจุฬาฯ เดินขบวนตรงสยามสแควร์เพื่อไปยื่นหนังสือให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพี่น้องรู้ไหมว่าตำรวจใช้ นปก.กุ๊ย มาล้อมสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาป้องกันตำรวจ เพราะฉะนั้นคุณพัชรวาท ซึ่งเป็นเพื่อสนิท ทำมาหากินกับ เสธ.ไอซ์ พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต ร่วมมือกันเป็นเพื่อนรักกัน จะปฏิเสธไม่ได้ว่า ไม่รู้เห็นเป็นใจกับพวก นปก.

พี่น้องครับ ผมพูดเรื่องนี้แล้วผมเจ็บช้ำน้ำใจ คดีจักรภพ เพ็ญแข คุณพัชรวาท ไม่เคยลงมาสั่งให้ดำเนินคดีทันที ให้สั่งฟ้อง คุณจักรภพ เพ็ญเเข เพิ่งถูกรักษาการ ผบ.ตร.คนปัจจุบัน พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ เป็นคนสั่งฟ้อง ทำไมถึงไม่สั่งฟ้องที่คุณพัชรวาท วีระ มุสิกพงศ์ จาบจ้วงพระเจ้าอยู่หัว เรื่องก็ไปไม่ถึงไหน คุณสุชาติ ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น คนแบบนี้คือคนที่ขาดวุฒิภาวะทุกอย่าง กลับถูกผลักดันให้กลับมาเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือว่า ผมเกรงอย่างนี้ ถ้าปฏิบัติไม่ดีเรื่องนี้ ข่าวลือที่บอกว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นคนไปคว้าคุณเนวิน และพรรคร่วมฯ มาร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเป็นแกนนำ เพื่อแลกกับการที่ให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นกลาโหม เพื่อปกป้อง พล.อ.อนุพงษ์ ที่เป็นผู้บัญชาการทหารบก เพื่อไม่ให้ถูกย้าย และขณะเดียวกันแลกเปลี่ยนโดยเอาน้องชายคุณประวิตร กลับมาเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทั้งหมดนี้ผมเกรงว่าประชาชนจะเข้าใจผิด สรุปแล้วการเมืองทั้งหมดก็คือ ให้คุณอนุพงษ์ เป็น ผบ.ทบ.ต่อไป ให้คุณพัชรวาท กลับมาเป็น ผบ.ตร. และให้คุณประวิตร เป็นรัฐมนตรีกลาโหม ส่วนประชาชนตาย สมน้ำหน้า ใช้ศพประชาชนเหยียบขึ้นมาเพื่อให้ตัวเองเป็นใหญ่ ใช่หรือเปล่า ใช่หรือไม่ ผมต้องถามละ

พี่น้องจำได้ใช่ไหม พ่อหมออย่างผมเคยพูดอะไรผิดไหม ผมไม่เคยพูดอะไรผิด ไม่เคย ถ้าไม่ใช่ทำไมถึงมีการบีบบังคับคุณชวรัตน์ เมื่อวันสองวันนี้ ที่ผมรู้มาคือ บังคับให้เซ็นแล้วย้ายกลับเลย เหตุผลที่บังคับเซ็นแล้วย้ายกลับ ก็เขารู้แล้วว่า นายสุพล ฟองงาม รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ได้ทำหนังสือถึงท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ ให้เซ็นคำสั่งแต่งตั้งกรรมการสอบสวนวันที่ 19 แต่หนังสือยังไปไม่ถึง ก็เลยรีบให้คุณชวรัตน์ ย้ายกลับทั่งๆที่สถานภาพคุณชวรัตน์ ถูกกฎหมายหรือเปล่ายังไม่รู้เลย ซึ่งโดยมารยาทแล้วใครเขาทำกัน ก็คุณอภิสิทธิ์ เพิ่งได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกฯ ธรรมดามนุษย์ที่มีสมอง เขาจะไม่ทำกัน เขาจะบอกว่า ผมไม่เซ็น ผมรอให้คุณอภิสิทธิ ซึ่งเขาได้รับการโปรดเกล้าฯ พี่น้องครับ คุณอภิสิทธิ์ ได้รับการโปรดเกล้าเรียบร้อยแล้วให้เป็นนายกรัฐมนตรี คุณจะรออีกสักอาทิตย์หรือ 10 วันไม่ได้หรือ แต่คุณจะต้องรีบทำเพราะอะไร เพราะกลัวความมันแตก ว่าคุณอภิสิทธิ์จะรู้ว่าในที่สุดแล้ว ที่เขาย้ายคุณพัชรวาท เขาย้ายเพราะคุณพัชรวาทถูกร้องเรียน ข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

เอาละ ถึงอย่างนั้นก็ตาม โดยมารยาทแล้วคุณพัชรวาท โดนคณะกรรมการสิทธิ์ฯ กล่าวหาแจงมาแล้วส่งเรื่องไปที่ ป.ป.ช. โดยมารยาทแล้วก็ไม่ควรจะย้าย อย่างน้อยที่สุดควรจะรอจนเรื่องที่ ป.ป.ช.จบสิ้นใช่ไหม ว่าคุณพัชรวาท ถูกหรือผิด ก็ค่อยย้ายกลับมา แต่ทำไมต้องรีบย้าย ถ้าเขาทำเช่นนี้ที่ผมเกรงว่าข้อกล่าวหาของพรรคเพื่อไทย ที่เขากล่าวหาว่าพรรคประชาธิปัตย์ นั้นขึ้นมาเป็นรัฐบาลได้เพราะทหารช่วย เพื่อแลกกับการที่จะเอาคุณประวิตร มาเป็นรัฐมนตรีกลาโหม และขณะเดียวกันเพื่อแลกกับการซึ่งให้น้องชายคุณประวิตร คือคุณพัชรวาท กลับมาเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอีก คนที่ไม่อยู่นิ่ง ไม่ดูดายกับการตาย ที่ไม่สนใจกับการตายของประชาชน ปล่อยให้ลูกน้องตัวเองฆ่าประชาชน พี่น้องครับคุณพัชรวาท มีส่วนร่วมในการสั่งฆ่าประชาชน เพราะว่าถ้าตัวเองเป็นผู้บังคับบัญชาโดยสูงสุดในสายตำรวจ และไม่สั่งหยุด ต้องถือว่ารู้เห็นเป็นใจในการสั่งฆ่าประชาชน คนอย่างนี้กลับมาเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้อย่างไร

สรุปที่ปล่อยให้คนตาย บาดเจ็บ ให้เราสู้มา 193 วัน คุณอนุพงษ์ คุณประวิตร ร่วมมือกันเพียงเพื่อรอจังหวะการยุบพรรค และจะได้เอางูเห่า พวกเนวิน ซึ่งแอบจับมือคุณอนุพงษ์มานานแล้ว คุณอนุพงษ์แอบจับมือคุณเนวิน ชิดชอบ มาเป็นเวลานานแล้ว แล้วก็ดึงออกมาอยู่ กลายเป็นพระเอก เปลี่ยนขั้วพรรคประชาธิปัตย์ กลายเป็นพระเอกไปเลย
นี่แหละ ที่ท้าทนายความกล้าหาญทางจริยธรรมของคุณอภิสิทธ์ แต่ผมก็ยังดีใจที่ท่านอภิสิทธิ์บอกว่า การสั่งย้ายเป็นเรื่องของรองนายกฯ ท่านไม่เกี่ยว ผมจึงอยากให้ท่านพิจารณาเรื่องคุณพัชรวาท บนพื้นฐานที่เขาถูกย้ายเพราะโดนร้องเรียนเรื่องปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ผสมกับที่เขาถูกคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติกล่าวหาว่ามีส่วนในการฆ่าประชาชน ผมอยากให้ท่านใช้ 2 ข้อนี้ ย้าย พล.ต.อ.พัชรวาทกลับไปสำนักนายกฯ ตามเดิม ถ้าท่านทำได้ แสดงว่าสอบผ่าน เสื้อสีขาวของพรรคประชาธิปัตย์ก็จะยังเป็นสีขาวอยู่ ไม่เป็นสีดำ

พี่น้องเห็นหรือยังว่าการเมืองเก่าเริ่มเล่นการงานคุณอภิสิทธิ์ แต่ผมขอให้โอกาสท่าน เพราะท่านเป็นคนที่มีพ่อแม่ดี มีการศึกษาดี มีคุณธรรมจริยธรรม แต่ขอให้คุณอภิสิทธิได้ข้ออมูลที่ถูกต้อง ขอให้คุณสุเทพ เทือกสุบรรณรู้ว่า การเอาคุณพัชรวาทกลับมาครั้งนี้เป็นการทำร้ายประชาชน เพราะนอกจากมีส่วนฆ่าประชาชนแล้ว . ยังสั่งไม่ฟ้อง มีการส่วนร่วมในการสั่งไม่ฟ้องพวก นปก. ที่ไปบุกบ้านป๋าเปรม มีส่วนร่วมในการดึงกรณีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ของนายจักรภพ เพ็ญแข ให้ยืดยาวไปเรื่อยๆ มีส่วนร่วมในการไม่ให้คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ของนายวีระ มุสิกพงศ์ นั้นต้องสิ้นสุดโดยเร็ว ยืดเวลาไปหลายๆเรื่อง ยังไม่นับถึงกรณีที่มีคนร้องเรียน คุณพัชรวาท ว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการประมูลงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ส่อเค้าว่าจะมีการทุจริต และถูกร้องเรียนอย่างเป็นทางการ และถูกสอบสวนและสืบสวนในชั้นต้นแล้ว ว่าผิดจริง และถูกย้าย

ด้วยเหตุนี้ ผมคิดว่าถ้าคุณอภิสิทธิ์ยังไม่สามารถจะล้างตำรวจได้ การย้ายพัชรวาทกลับไปนั่งอยู่ที่เก่านั้น ก็คือการยอมรับสภาพของความเลวร้ายโดยที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง และกลับเป็นการยอมรับว่ารัฐบาลชุดนี้เกิดขึ้นมาได้ เพราะทหารเป็นคนจัดตั้งให้ ทหารคนนั้นก็ไม่ใช่ใคร ก็คือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เพื่อแลกกับการที่ให้คุณประวิตร มาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม เพื่อเอารัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมมาปกป้องคุณอนุพงษ์ ให้เป็นผู้บัญชาการทหารบกต่อไป และคุณประวิตรก็จะแลกด้วยการขอให้น้องชายกลับมาเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

สรุปง่ายๆว่า ชาติไม่สำคัญอะไร นอกจากตัวเองเป็นผู้บัญชาการทหารบก และเอาน้องชายตัวเองกลับมาเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่ชาติมันจะฉิบหายช่างมัน เห็นไหมพี่น้อง แล้วพี่น้องว่าศึกสงครามเราจบสิ้นแล้วหรือ พี่น้องครับ พี่น้องหลายท่านมีความเห็นมาทางแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีความเห็นมาว่าอย่างไรรู้ไหม มีความเห็นมาว่าเราชนะแล้ว พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลแล้ว ผมอยากจะกราบเรียนพ่อแม่พี่น้องอย่างนี้ การทำความสะอาดบ้านนั้น ยังไม่สิ้นสุด ผมเห็นด้วยว่าเราควรจะให้โอกาส กับพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องให้โอกาสท่านทำงาน อย่าพึ่งไปว่าท่าน แต่ผมจะบอกพี่น้องให้ฟัง ว่าถ้าหากพรรคประชาธิปัตย์ ล้มเหลวครั้งนี้แล้ว จะด้วยเหตุใดก็ตาม พี่น้องที่มีความคิดสงสัย จะยอมรับกับผม 100 % แล้วหรือยัง ว่าการเมืองเก่านั้น ไม่สามารถจะนำมาใช้ได้กับเมืองไทยอีกต่อไปแล้ว ไม่มีทางแล้ว นี่คือบททดสอบ บทสุดท้ายของการเมืองเก่าแล้ว ผ่านมาหมดแล้ว ไม่ว่าพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย พรรคมัชฌิมาประชาธิปไตย พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา พรรคไอชื่อประหลาดๆทั้งหลายเนี้ย

ซึ่งมันคือไอพวกสัตว์นรกกลายพันธุ์ทั้งหลาย มาจนกระทั่งมาจนถึงพรรคประชาธิปัตย์ สำคัญพรรคประชาธิปัตย์จะโดนไวรัสมนุษย์ต่างดาว ให้กลายพันธุ์เป็นพรรคสัตว์นรกอีกพรรคหนึ่งหรือเปล่าเท่านั้นเอง ผมหวังว่าคงไม่ แต่ว่าบททดสอบของคุณพัชรวาท วงษ์สุวรรณ จะเป็นบททดสอบบทแรก และเป็นบททดสอบที่ยิ่งใหญ่มาก ซึ่งถ้าไม่ผ่านตรงนี้ ผมก็ไม่รู้จะช่วยอะไรคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้อีกต่อไปแล้วครับ

พี่น้องครับ ขอบพระคุณพี่น้องมากที่เอื้ออาทร ASTV ก็ไม่ใช่เพราะ ASTV หรือ พี่น้องถึงมีโอกาสรับฟังความคิดเห็นที่ตรงไป ตรงมาอย่างนี้ พี่น้องไปดูภูมิศาสตร์ ของโทรทัศน์ จนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ASTV ก็ยังเหมือนเดิม แต่พี่น้องต้องเข้าใจอย่างนะครับ ความเป็นภราดรภาพของพี่น้องทั้งหลายนั้น การที่พี่น้องไปชุมนุมกันที่โรงแรมพงษ์เพชร กำแพงเพชร คนสี่หมื่นกว่าคน ที่ภาคตะวันออกวันที่ 17 มกราคม น่าจะมีคนประมาณแสนคน และอีกหลายๆที่ แสดงว่าพี่น้องได้ตื่นตัวกันแล้ว การชุมนุมทางภาคประชาชนครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งปี 2549 ครั้งนี้พี่น้องได้พัฒนาสู่คุณภาพไปแล้ว จากปริมาณมากกว่าเก่า และที่น่าชื่นชม และปลาบปลื้มก็คือ ปริมาณทุกจุดล้วนแต่มีคุณภาพทั้งสิ้น

ผมอยากจะเตือนนักการเมืองนิดนึง ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนก็ตาม เดี๋ยวนี้ภาคประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคประชาชนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น เป็นภาคประชาชนที่ความคิดล้อหน้าเกินพวกคุณไปเยอะแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคุณป้า คุณยาย หรือคนหนุ่มคนสาว ที่เข้ามาร่วมกับเรา ความคิดทางการเมืองล้ำหน้าไปหมดแล้ว

พี่น้องครับ เริ่มศุกร์นี้ เราจะจัดเวทีการถ่ายทอดสด เปลี่ยนจากห้องส่งไปเป็นข้างนอกตรงที่จอดรถ เราจะมีการตั้งเวที มีที่จุให้พี่น้องมาร่วมนั่งดูได้ประมาณ 300 - 400 คน จะเป็นบรรยากาศการชุมนุมเล็กๆ ในพื้นที่ของ ASTV จะเริ่มวันศุกร์เป็นวันแรก ผมมาออกรายการวันนี้เพื่อแสดงจุดยืนของผมที่มีต่อพรรคประชาธิปัตย์ และคุณอภิสิทธิ์ พี่น้องครับให้โอกาสเขาสักหน่อย แต่ก็ใช้กรณีคุณพัชรวาท เป็นตัวตรวจสอบ ก็จะเป็นเรื่องที่ดีมาก หลังจากนั้นแล้วผมคงจะเจอพี่น้องอีกครั้งหนึ่ง หลังปีใหม่

ส่วนพี่ตั้วของพวกเรา กำลังเร่งขวนขวายขยันที่จะทำรายการจอเหลือง ออกทุกวันศุกร์ และวันเสาร์ - อาทิตย์ และไม่เกินกุมภาพันธ์ เราจะเห็นละคร 5 ตอนจบของพี่ตั้ว ที่เป็นละครที่สนุกมาก ด้วยฝีมือแท้ๆ เป็นเรื่องชีวิตการต่อสู้ที่มัฆวาน และทำเนียบ แล้วเราจะมีหลายคนที่เป็นศิลปินที่อยู่ในเครือพันธมิตรฯ มา

อีกข่าวที่จะต้องแจ้งให้ทราบ คือเดือนมีนาคม แกนนำพันธมิตรฯทั้ง 5 คน ตลอดจนทีมงานซูซู และหลายคนเกือบ 40 ชีวิต จะไปเปิดเวทีใหญ่ครั้งเดียวที่มหานครลอสแองเจลิส ในเดือนมีนาคม เพื่อให้พี่น้องทั่วอเมริกา ได้บินมา แล้วมาร่วม เราคาดว่าจะมีคนมาร่วมทั่วอเมริกาที่ลอสแองเจลิสประมาณ 10,000 - 20,000 คน บินจากทุกรัฐเข้ามา สำหรับปีใหม่นี้ วันนี้เขาไปอัดเทปมาแล้วให้ผมอวยพรให้พี่น้องในปีใหม่นี้ ผมไม่ต้องอวยพรดีกว่า เพราะว่าความรักที่ผมมีต่อพ่อแม่พี่น้องคงเส้นคงวาไม่เคยเปลี่ยนแปลง ถึงจะไม่เห็นหน้าผม เพราะว่าผมคิดว่าถึงเวลาที่ผมจะต้องกบดานอยู่เงียบ เพราะอย่างน้อยที่สุดงานทำความสะอาดบ้านก็เสร็จไปชั้นหนึ่งแล้ว ถ้าต้องการจะทำความสะอาดบ้านต่อไปในชั้นที่ 2 นั้น ผมค่อยโผล่มาให้พี่น้องฟังแล้วกัน แต่ก็จะพยายามมาออกรายการ แต่จะไม่ออกรายการอย่างนี้ อาจจะให้คนอื่นเขามาออก แต่ตัวเองอาจจะมาจัดรายการพิเศษให้พ่อแม่พี่น้องดูเป็นพิเศษ

สำหรับวันนี้เดี๋ยวพักกันสักครู่ แล้วกลับไปหาคุณแอน จินดารัตน์ ซึ่งค่อนข้างที่จะ ผมภูมิใจมากกับพิธีกร ASTV ทุกๆคนครับ 193 วัน ได้หล่อหลอมให้พวกเรารักซึ่งกันและกันมากขึ้น ที่สำคัญคือคน ASTV นั้น มีอุดมการณ์ร่วมกัน ถือธงเดียวกัน คือธงชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ขอบคุณครับ สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้อง









หนังสือจากนายสุพล ฟองงาม รมต.สำนักนายกฯ เสนอนายกรัฐมนตรีคนใหม่(อภสิทธิ์ เวชชาชีวะ) ตั้งคณะกรรมการสอบสวน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ

หนังสือจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ถึงนายสมัคร สุนทรเวช เสนอให้ย้าย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เข้าประจำสำนักนายกฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น