xs
xsm
sm
md
lg

แฉเป็นชุด “สมเกียรติ” ชี้ “สมชาย-เจ๊แดง” สันหลังหวะ มีคดีทุจริต-ประพฤติมิชอบค้างที่ ป.ป.ช.อื้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯ เปิดโปงการทุจริต-ประพฤติมิชอบของ นายสมชาย-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ที่มีจำนวนมาก
ผู้จัดการออนไลน์ - สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ยกโคลงโลกนิติเปรียบสมชายกับนกยาง ภายนอกดูดีแต่ภายในชั่วร้าย ชำแหละคดีทุจริต-ประพฤติมิชอบ-ร่ำรวยผิดปกติของ “สมชาย-เยาวภา” หลายคดีที่ยังอยู่ในชั้นการพิจารณาของ ป.ป.ช. เช่น คดี ทอท.จ้างบริษัทแทคส์หมื่นล้าน, คดีทุจริตจ้าง รปภ.สุวรรณภูมิ, คดีคิงเพาเวอร์, แถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา และหมู่บ้านจัดสรรที่ระบุว่าครอบครัววงศ์สวัสดิ์เป็นเจ้าของโดยมีความเกี่ยวโยงกับข้อหาร่ำรวยผิดปกติและแจ้งข้อมูลทรัพย์สิน-หนี้สินเป็นเท็จ

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย 

เวลาประมาณ 23.15น. ของวันศุกร์ที่ 19 ก.ย. ณ เวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ณ ทำเนียบรัฐบาล นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ ได้ขึ้นปราศรัย โดยกล่าวถึงสาเหตุที่ตนกล่าวถึง การโทรศัพท์มาถึงนายสนธิ ลิ้มทองกุลของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีเมื่อคืนวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา ก็เพื่อต้องการเปรียบเทียบนายสมชายกับนกกระยางสีขาวที่ภายนอกดูอ่อนน้อม ดูสุภาพ แต่กลับกินปลาสดๆ กินสัตว์เป็นๆ ที่มีชีวิต โดยนายสมเกียรติกล่าวว่า แท้จริงแล้วการเปรียบเทียบดังกล่าวมีที่มาจาก โคลงโลกนิติที่สมณะเพาะพุทธ จันทเสฏโฐ หรือ ท่านจันทร์แห่งสันติอโศกเคยนำมากล่าวถึง โดยโคลงบทดังกล่าวระบุว่า

ยางขาวขนเรียบร้อย ... ดูดี
ภายนอกหมดใสสี ... เปรียบฝ้าย
กินสัตว์เสพปลามี ... ชีวิต
เฉกเช่นชนชาติร้าย ... นอกนั้นนวลงาม


ทั้งนี้ ความหมายของโคลงดังกล่าว คือ นกยางดูขาวสะอาดทั้งตัว แต่ก็กินปลาสด เปรียบเหมือนคนมีนิสัยชั่วร้ายที่ภายนอกดูสวยงาม

นายสมเกียรติกล่าวถึงความเน่าเฟะของสภาผู้แทนราษฎรไทยว่า ก่อนหน้านี้ที่นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีจะต้องหลุดจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เนื่องจากคำตัดสินของศาล ส.ส.ของพรรคร่วมรัฐบาลได้เชิญตนเข้าพูดคุยถึงวิถีทางในการขับไล่นายสมัครออกจากตำแหน่ง ไม่ว่าจะด้วยการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทว่า หลังจากทำหลายๆ ทางก็ไม่สามารถกำจัดนายสมัครออกไปได้จนท้ายที่สุดนายสมัครต้องออกจากตำแหน่งด้วยคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในกรณีทำรายการชิมไปบ่นไป

นอกจากนี้ แกนนำพันธมิตรฯ ยังเปิดเผยด้วยว่าเมื่อวันพฤหัสบดี (18) มี ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ผู้ใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันมาพูดคุยกับตนที่สภาว่า ตนเองก็สนับสนุน “การเมืองใหม่” ที่กลุ่มพันธมิตรฯ นำเสนอเช่นกัน เนื่องจากเห็นว่า ปัจจุบันกระแสการเมืองใหม่นั้นเป็นเรื่องที่ได้รับการพูดถึงในหมู่ประชาชนทุกภาคส่วน ขณะเดียวกันจากการลงพื้นที่พบพี่น้องประชาชนตนก็พบว่า ประชาชนจำนวนมากเห็นด้วยกับการเมืองใหม่ที่ให้ความสำคัญกับ สภาของประชาชนที่มีผู้แทนของแต่ละสาขาอาชีพเข้ามาเป็นสมาชิก

ต่อมา นายสมเกียรติ ได้กล่าวว่า หลายวันที่ผ่านมาเพราะตนได้เปิดเผยถึงคดีการทุจริตและประพฤติมิชอบ ของ นายสมชายและภริยานางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ จำนวนมากที่อยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่ามีการพิจารณาคดีอย่างล่าช้า ทำให้มีความพยายามรบกวนสัญญาณถ่ายทอดสดของเอเอสทีวี ดังนั้นในวันนี้ตนจึงนำคดีเหล่านั้นมากล่าวถึงอีกครั้ง

ทั้งนี้ คดีเหล่านั้น ประกอบด้วย คดีที่หนึ่ง กรณี ป.ป.ช.มีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2550 เพื่อพิจารณาไต่สวนนางเยาวภา กรณีร่ำรวยผิดปกติ จากโครงการบริหารเขตปลอดอากรและศูนย์โลจิสติกส์ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท ที่บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ได้จ้างบริษัทไทยแอร์พอตส์ กราวด์เซอร์วิสเซส จำกัด (แทคส์) โดยร่วมลงทุนกับ ทอท.ลงนามในสัญญาวันที่ 28 เม.ย. 2549 เป็นระยะเวลา 10 ปี พบว่าการว่าจ้างดังกล่าวไม่มีการประมูล เพื่อให้เกิดการแข่งขัน โดยขณะนั้นนายสมชายดำรงตำแหน่งกรรมการของ ทอท.อยู่ด้วย

คดีที่สอง คดีทุจริตในการประมูลงานจ้างเหมาบริการรักษาความปลอดภัย ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยวิธีพิเศษ

“ป.ป.ช.มีมติ และออกคำสั่งที่ 176/2551 ตั้งอนุกรรมการไต่สวน ทักษิณ (ชินวัตร) สุริยะ (จึงรุ่งเรืองกิจ) พงษ์ศักดิ์ (รักตพงศ์ไพศาล) ศรีสุข (จันทรางศุ) รวมถึง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ กรณีจ้างเหมาบริการรักษาความปลอดภัย สนามบินสุวรรณภูมิ โดยวิธีพิเศษ และเพิ่มงบประมาณจากเดิม 3,086 ล้านบาท เป็น 5,400 ล้านบาท โดยวิธีพิเศษโดยไม่มีการแข่งขัน” นายสมเกียรติกล่าวพร้อมตั้งคำถามว่าตนไม่ทราบว่าคดีดังกล่าวมีการไต่สวนไปถึงไหนแล้ว

ส่วน คดีที่สาม คือคดีทุจริตต่อหน้าที่ และการกระทำผิดต่อหน้าที่ในการต่อสัญญาร้านขายสินค้าปลอดภาษีในสนามบินให้กับบริษัทคิงพาวเวอร์ โดยมีการโอนย้ายจากสนามบินดอนเมือง ไปยังสนามบินสุวรรณภูมิโดยไม่มีการเปิดประมูล ที่นายสมชายมีส่วนรับผิดชอบร่วมกับนายสุริยะและพวก

คดีที่สี่ นั้นคือคดี ครม.มีมติให้ลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ยินยอมให้กัมพูชายื่นจดทะเบียนปราสาทพระวิหารและพื้นที่โดยรอบเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยไม่ผ่านการพิจารณาของสภา ซึ่งเป็นการผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 190

นอกจากนี้ นายสมเกียรติยังกล่าวถึง คดีร่ำรวยผิดปกติ และการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน-หนี้สินอันเป็นเท็จของนางเยาวภา กรณีบ้านจัดสรรโครงการหมู่บ้านเบเวอรี่ ฮิลล์ ถนนแจ้งวัฒนะ ย่านหลักสี่ โดยโครงการดังกล่าวมีการเปลี่ยนชื่อจากหมู่บ้านชินณิชา วิลล์ มาเป็นเบเวอรี่ ฮิลล์ ทั้งนี้จากการตรวจสอบของนายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มีข้อมูลอันควรเชื่อได้ว่าอาจมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินอย่างผิดปกติ โดยหมู่บ้านดังกล่าวเดิมชื่อโครงการการ์เด้นท์ ซิตี้ ลากูน ซึ่งบริษัท สร้างสิน พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซื้อจากบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) ที่เป็นหนี้เอ็นพีแอล ในวงเงิน 800 ล้านบาท และเมื่อปี 2546 มีการเพิ่มทุน 150 ล้านบาทแล้วเข้ามาครอบครองหมู่บ้านต่างๆ พร้อมกับตั้งชื่อว่า ชินณิชา วิลล์ ซึ่งเป็นชื่อของลูกสาวคนโตของนางเยาวภาจึงน่าสงสัยว่าเงิน 150 ล้านบาทนี้มาจากที่ไหน แล้วเอาเงินที่ไหนไปซื้อโครงการ 800 ล้านบาทจาก บสท. อีกทั้งยังมีการระบุว่าครอบครัววงศ์สวัสดิ์ เป็นเจ้าของโครงการ

“บริษัท สร้างสิน พร็อพเพอร์ตี้ มีผู้ถือหุ้นรายหนึ่งชื่อ บริษัท สินมหัต ที่มีความเกี่ยวพันกับครอบครัววงศ์สวัสดิ์ และน้องสาวของนายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ... จากการตรวจสอบพบว่า ในปี 2545 บริษัท สินมหัต มีผลประกอบการขาดทุน 50,000 บาท ในปี 2546 มีกำไร 120,000 บาท ในปี 2547 ขาดทุน 1.4 ล้านบาท ในขณะเดียวกันปี 2547 ไม่รู้เงินหล่นมาจากไหน 180 ล้านบาทเพื่อไปซื้อหุ้น นอกจากนี้ บริษัท สินมหัตซึ่งมีทุนจดทะเบียนแค่ 1 ล้านบาท พอปี 2547 ขาดทุน ก็มีเงินมาเพิ่มทุน 100 ล้านบาท และมีเงินไปซื้อหุ้นอีก 180 ล้านบาท ก็ไม่รู้มาจากไหนเหมือนกัน” นายสมเกียรติกล่าว พร้อมกับกล่าวว่ายังมีคดีอีกมากเกี่ยวกับสามี-ภรรยา คู่นี้ที่ตนจะทยอยนำมาเปิดเผยในโอกาสต่อไป
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ กล่าวถึง กระแสการเมืองใหม่ที่ได้รับการพูดถึงกันในหมู่ประชาชนทุกภาคส่วนบนเวทีพันธมิตรฯ ณ ทำเนียบรัฐบาล คืนวันที่ 19 ก.ย.

กำลังโหลดความคิดเห็น