โผ ครม.ในสัดส่วนพรรคร่วม ได้เปลี่ยนแปลงบางตำแหน่ง หลังจากถูกกดดันจากภาคธุรกิจ ล่าสุด “ระนองรักษ์” ยอมทิ้งเก้าอี้ รมว.อุตฯ ไปนั่ง ไอซีที แทน แล้วให้ “ชาญชัย ชัยรุ่งเรือง” มาแทน ขณะที่ “พรทิวา นาคาศัย” ไม่สนยังกอด รมว.พาณิชย์ แน่น
วันนี้ (19 ธ.ค.) มีรายงานล่าสุดว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดอภิสิทธิ์ 1 มีการเปลี่ยนแปลงบางตำแหน่งในโควตาของพรรคเพื่อแผ่นดิน โดยคาดว่า บุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ดังนี้ ร.ต.ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี จากเดิมที่คาดหมายว่า จะดำรงตำแหน่งรองนายกฯ ควบ รมว.อุตสาหกรรม แต่ในที่สุดได้มีการเปลี่ยนแปลง โดย ร.ต.ระนองรักษ์ จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง จะเป็น รมว.อุตสาหกรรม นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ เป็น รมช.คลัง และ นายพิเชษฐ์ ตันเจริญ จะเป็น รมช.มหาดไทย ส่วน นายไชยยศ จิระเมธากร จากเดิมที่เคยถูกระบุว่า จะเป็น รมว.ไอซีที และโผล่าสุดได้หลุดจากตำแหน่ง
อย่างไรก็ดี ในส่วนของ ว่าที่ รมว.พาณิชย์ ที่มีการวางตัว นางพรทิวา นาคาศัย จากพรรคมัชฌิมาฯเดิม ล่าสุดยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ก่อนหน้านี้ ในตอนเช้า ระหว่างที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเดินทางไปรับความเห็นทางด้านเศรษฐกิจจากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้มีเสียงติติงอย่างตรงไปตรงมาถึงโผ ครม.เศรษฐกิจบางตำแหน่งในโควตาพรรคร่วมรัฐบาล ว่า ไม่เหมาะสม โดยยกตัวอย่างว่าที่ รมว.พาณิชย์ และ รมว.อุตสาหกรรม เป็นต้น
“จุลินทร์”เรียกพรรคร่วมถกนโยบายรัฐบาล-ลดขัดแย้ง
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 19 ธ.ค.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประธานคณะกรรมการยกร่างนโยบายของรัฐบาล ร่วมกับ นางพรทิวา นาคาศัย ตัวแทนพรรคภูมิใจไทย น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ตัวแทนพรรคร่วมใจไทยชาติพัฒนา นายอรรคพล สรสุชาติ ตัวแทนพรรคชาติไทยพัฒนาได้เข้าร่วมประชุม โดยนายจุรินทร์กล่าวภายหลังการการประชุมว่า เป็นการประชุมครั้งที่ 2 จากนั้นจะมอบให้เลขาคณะกรรมการไปปรับตามความเห็นของทุกพรรค ซึ่งน่าจะได้ร่างที่เกือบสมบูรณ์ในวันที่ 21 ธ.ค. หากในวันที่ 23 ธ.ค.มีการประชุม ครม.ได้จะนำร่างนโยบายเข้าสู่ที่ประชุม และหากเป็นไปได้จะแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 29 ธ.ค.
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ส่วนนโยบายส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้มองเป็นประชานิยม แต่ส่วนใหญ่นั้นสอดคล้องกับนโยบายหลักของประชาธิปัตย์อยู่แล้วถือว่านโยบายของพรรคร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์เป็นทิศทางเดี่ยวกัน ทั้งนี้ จะมีการแบ่งนโยบายออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ 1. นโยบายเร่งด่วนดำเนินการในปีแรกโดยหลายเรื่องต้องทำให้เสร็จภายใน 2-3 เดือน อีกนโยบายต้องดำรงการในระยะเวลาที่เหลืออยู่ของรัฐบาลคือ 3 ปี ซึ่งในส่วนของนโยบายเร่งด่วนคือจะมุ่งให้ประเทศมุ่งออกจากวิกฤต คือวิกฤตเศรษฐกิจ และแก้วิกฤตความขัดแย้งโดยถือหลักกฎหมาย หลักนิติรัฐ นิติธรรมความเสมอภาคเป็นธรรม จะช่วยลดความขัดแย้ง และไม่สร้างเงื่อนไขใหม่ และการแก้ปัญหาความสงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยจัดตั้งองค์กรแก้ปัญหาจะเน้นให้มีกฎหมายรองรับเน้นการมีส่วนร่วมของภาครัฐเอกชน ผู้นำศาสนา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
“การแก้ปัญหาเศรษฐกิจเรามีทั้งนโยบายที่แก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจนอกประเทศและผลกระทบภายในประเทศโดยเน้นการสร้างความเชื่อมั่น เช่นการเลื่อนการประชุมอาเซียน ซัมมิท ให้เร็วขึ้น การแก้สภาพคล่องในระบอบเศรษฐกิจ การส่งออก ผลกระทบจาการท่องเที่ยว แก้ปัญหาราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ และโครงการเมกะโปรเจกต์ และการลงทุนด้านการศึกษา” นายจุรินทร์ กล่าวและว่า ส่วนนโยบาย 99 วันของพรรคที่เคยหาเสียงจบรรจุในนโยบายรัฐบาลแน่นอน เช่น เรื่องเรียนฟรี รักษาฟรี เบี้ยยังชีพคนชร่า เบี้ยตอบแทน อสม. กองทุกเศรษฐกิจพอเพียง ประกันพืชผล โฉนดชุมชุน ธนาคารที่ดิน
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการบรรจุนโยบายการแก้รัฐธรรมนูญในนโยบายหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่ได้มรการบุรรจุในเรื่องรัฐธรรมนูญ แต่นโยบายการเมืองจะบรรจุในเรื่องของการส่งสริมในระบอบประชาธิปไตยเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปการเมือง
เมื่อถามว่าจะสร้างความไม่พอใจแก่กลุ่มเพื่อเนวินหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่าไม่มีปัญหาเพราะเราพูดตั้งแต่การประชุมครั้งแรกว่าอะไรบรรจุอะไรได้หรือไม่ได้
