ปธ.สมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด จี้นายทะเบียนพรรคการเมืองชี้ให้ชัด ส.ส.สัดส่วนของพรรคที่ถูกยุบจะยังคงสภาพ ส.ส.อยู่หรือไม่ เพื่อความชัดเจนก่อนเปิดสภาเลือกนายกฯ อย่าประวิงเวลาโยนศาล รธน.ชี้ขาดเกรงบ้านเมืองเสียหาย
วันนี้ (9 ธ.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง อาคารศรีจุลทรัพย์ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ประธานสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด พร้อมด้วยเครือข่ายฟื้นฟูชาติและประชาธิปไตย เครือข่ายนิด้าพัฒนาการเมือง และสมัชชาประชาชนแก่งประเทศไทย ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อนาย อภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อให้เร่งวินิจฉัยข้อกฎหมายกรณีผลกระทบจากการที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย เพื่อจะได้เป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ และเพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายที่ยุ่งยากซับซ้อนแก่การบริหารราชการแผ่นดินและก่อปัญหาแก่ประเทศชาติมากยิ่งขึ้น
นายไชยวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ทางเครือข่ายฯ ขอเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งวินิจฉัยใน 6 ประเด็น ประกอบด้วย 1.กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคแล้วจะมีผลให้ส.ส.แบบสัดส่วนของพรรคดังกล่าวมีสถานภาพ ส.ส.ต่อไปหรือไม่ และสามารถย้ายไปพรรคอื่นได้หรือไม่ 2.ส.ส.แบบแบ่งเขตที่ยังไม่มีพรรคการเมืองสังกัด และขณะนี้ กกต.ยังไม่รับรอง จะสามารถปฏิบัติหน้าที่และสามารถเข้าชื่อเพื่อขอเปิดประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญได้หรือไม่ 3.การยุบพรรคส่งผลต่อตำแหน่งประธานสภาผู้แทนฯ และตำแหน่งรองประธานสภาฯ จะสามารถดำเนินการเรียกประชุมสภาฯ เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ 4.เมื่อนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ พ้นตำแหน่งไปแล้วจะส่งผลให้รักษาการนายกฯ สามารถรักษาการทำหน้าที่ต่อไปได้หรือไม่ 5.กรณีพรรคการเมืองที่จะรับสมาชิกสภาผู้แทนฯ เข้าสังกัดต้องเป็นพรรคการเมืองที่มีอยู่ก่อนการเลือกตั้งวันที่ 23 ธ.ค.2550 หรือไม่ และ 6.ในฐานะเป็นนายทะเบียนพรรคการเมือง ขอให้เร่งประกาศโดยเร็วเพื่อให้เกิดความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว และแก้ข้อข้องใจต่อประชาชน อันอาจเป็นผลร้ายต่อการปกครองไทย
“ชั่วโมงนี้ในเมื่อมีสถานะเป็นถึงนายทะเบียนพรรคการเมือง ก็ควรชี้ให้ชัดว่า ส.ส.ระบบสัดส่วนจะต้องจบไปพร้อมพรรคหรือไม่ ไม่ใช่ต้องไปรอศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน เพราะหากรอศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องก็จะยืดยื้อออกไปอีก เพราะนายทะเบียนมีอำนาจอยู่แล้ว ไม่ใช่ปัดหรืออ้างให้องค์กรอื่นพิจารณา กกต.4 คน ไม่ควรออกความเห็นควรงดพูดเพราะยิ่งพูดยิ่งทำให้ประชาชนสับสน ซึ่งเรื่องนี้หากนายทะเบียนไม่ทำแล้วจะมีนายทะเบียนไว้ทำไม ไม่ใช่เอาไว้กินเงินเดือนอย่างเดียว หมดเวลาโยนแล้ว” นายไชยวัฒน์ กล่าว
นายไชยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ขอให้นายอภิชาตทำหนังสือแจ้งเตือนไปยังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่าการที่เดินสายไปขอความเห็นอดีต กก.บห.ของพรรคที่ศาลถูกยุบ พร้อมกับมีการเพิกถอนสิทธิทางการเมืองไปแล้วนั้นเป็นเรื่องไม่เหมาะสม และขัดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เพราะหากมีคนร้องว่าคุณไปหารือในการจัดตั้งรัฐบาลกับคนเหล่านี้ ในอนาคตอาจจะมีคนร้องให้ยุบพรรคได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในช่วงเช้าของวันเดียวกัน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ได้ให้คนมายื่นเอกสารถึงประธาน กกต.ให้พิจารณาในเรื่องเดียวกันนี้ด้วย