ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ แนะจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เชื่อ อาจพลิกผันได้ทุกนาที ฟันธงเปลี่ยนขั้วไม่ใช่คำตอบสุดท้าย แต่ยังพอมีความหวังกว่าระบอบทักษิณ เตือนปชป.ระวังแผนลับลวงพราง “แม้ว” ส่งนอมินีแฝงตัว เตรียมเดินสายสัญจรผลักดันการเมืองใหม่
วันนี้ (7 ธ.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตย กล่าวถึงสถานการณ์การจัดตั้งรัฐบาล ว่า ยังไม่เบ็ดเสร็จสะเด็ดน้ำ อาจจะมีการพลิกผันได้ในนาทีสุดท้ายจนกว่าผลการโหวตนายกฯ คนใหม่จะเสร็จสิ้นลงเท่านั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน คงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เพราะถ้าปล่อยอำนาจรัฐหลุดมือไปยังขั้วตรงกันข้ามอาจตกที่นั่งลำบาก แต่หากยังเข็นรัฐบาลนอมินีภาค 3 มายัดเยียดให้สังคมอีก ก็เป็นเรื่องยากอายุคงสั้นกว่ารัฐบาลนายสมชาย ซึ่งพรรคเพื่อไทยหรือพรรคพลังประชาชนเดิมควรล้มเลิกความตั้งใจจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว เพราะแรงต้านสูงมากขึ้นกว่าเดิม
ฉะนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ อาจเปลี่ยนวิธีในการถืออำนาจ แทนที่จะตั้งรัฐบาลนอมินีเหมือนที่ผ่านๆ มา ก็อาจใช้วิธีลับลวงพราง ส่งกลุ่มการเมือง หรือบรรดาลิ่วล้อไปจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ในการตั้งรัฐบาลดีกว่า เพราะจะได้ไม่ตกเป็นเป้าโจมตีจากสังคม
ซึ่งถ้าสุดท้ายแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้จริง สังคมก็ต้องติดตามดูนโยบายและวิธีทำงาน ว่า ตรงไปตรงมาแค่ไหน โดยเฉพาะการจัดการรื้อถอนกับระบอบทักษิณ และกลุ่มเพื่อนเนวิน รวมทั้งพรรคร่วมรัฐบาลเดิมก็ต้องเร่งพิสูจน์ตัวเองกับสังคม
จุดอ่อนของรัฐบาลจากการเปลี่ยนขั้วนั้นอาจเปิดโอกาสให้กลุ่มการเมืองปีก พ.ต.ท.ทักษิณ แฝงตัวเข้ามาร่วมรัฐบาลประชาธิปัตย์ และถูกต่อต้านจากเกมมวลชนนอกสภาของขั้วตรงกันข้ามได้เช่นกัน ฉะนั้น ถ้ามองสถานการณ์แล้วใครเป็นรัฐบาลช่วงนี้ก็ไม่ง่ายความแตกแยกขัดแย้งจะยังดำรงอยู่ ด้วยเหตุนี้สังคมจึงคาดหวังรัฐบาลพิเศษมากกว่าการเปลี่ยนขั้วการเมือง
สำหรับว่าที่นายกฯ คนใหม่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั้น ถือว่าเป็นจุดเด่นในจุดด้อยของรัฐบาลใหม่ เพราะเป็นคนที่เข้าใจสถานการณ์ความขัดแย้งแตกแยกเรื้อรังของสังคมไทยในช่วง 3-4 ปี เป็นอย่างดี คงจะมีนโยบายและมาตรการที่ดีเพื่อคลี่คลายปัญหาบ้านเมือง แต่ถ้าไม่มีอำนาจเต็ม หรือถูกตีรวนจากพรรคร่วมหรือกลุ่มการเมืองบางกลุ่มก็อาจทำอะไรไม่ได้เช่นกัน
สถานการณ์ช่วงนี้ พันธมิตรฯ ยังจับตาอย่างใกล้ชิดการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง แม้อาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของวิกฤตปัญหา แต่ก็ยังดีกว่าให้อำนาจรัฐตกไปเป็นเครื่องมือของระบอบทักษิณเหมือนช่วงที่ผ่านๆ มา ต้องยอมรับว่า ทางเลือกมีไม่มากนัก โอกาสตั้งรัฐบาลประชาภิวัฒน์ ตามข้อเสนอของพันธมิตรฯ แม้กระแสไม่สูงในช่วงนี้ แต่อาจได้รับการตอบรับหากรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ไปไม่รอดหรือจบเร็วกว่าที่คิด
ส่วนบทบาท 5 แกนนำพันธมิตรฯ ยังไม่มีความคิดสลายตัว หรือยุติบทบาทในระยะนี้ ทุกคนยังเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พอมีความชัดเจนเรื่องรัฐบาลใหม่จะมีการหารือเพื่อกำหนดท่าทีต่อไป และพันธมิตรฯ ยังมีความมุ่งมั่นผลักดันแนวคิดเรื่องการเมืองใหม่ ซึ่งในช่วงชุมนุมได้มีการสัมมนารับฟังความคิดเห็นจากหลายส่วนประมวลเป็นสมุดปกขาวเรียบร้อยแล้ว และเตรียมเดินสายสัญจรในต่างจังหวัด เพื่อผลักดันให้กับรัฐบาลใหม่และสังคมได้ต่อไป