พันธมิตรฯ จัดระบบรักษาความปลอดภัยเข้ม ติดกล้องวงจรปิดขยายแนวรับ พร้อมจัดลาดตระเวนทั้งระยะใกล้ไกล ประเมิน ม็อบ นปช.พรุ่งนี้ ไม่เกิน 5 หมื่น เหตุ ส.ส.พปช.บางส่วนไม่เห็นด้วย และมีปัญหาแบ่งเงินไม่ทั่วถึง เตือน “ทักษิณ” โฟนอิน ควรสารภาพบาปต่อหน้าสาวก ปลดล็อกการเมือง หากยังโจมตีชนชั้นสูง-ศาล เกิดสงครามกลางเมืองแน่
เมื่อเวลา 20.10 น.วันที่ 31 ต.ค.นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงว่า ทางพันธมิตรฯ ได้มีการประชุมแกนนำรุ่น 1 และ 2 เพื่อหามาตรการรับมือภัยที่มองไม่เห็น โดยจะมีการระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มขวด โดยติดตั้งกล้องวงจรปิด ขยายแนวรับให้ไกลออก และมีการจัดเวรยามลาดตระเวนในระยะใกล้และไกลจากที่ชุมนุม ซึ่งทางพันธมิตรฯ มั่นใจในการรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ และพร้อมรับมือทุกรูปแบบ แต่พันธมิตรฯ ก็ไม่อยากให้เกิดการเผชิญหน้า หากฝ่ายตรงข้ามชุมนุมอย่างสงบตามที่เขาประกาศไว้ก็คงไม่เป็นไร แต่กลัวว่าจะมีแผนลับลวงพรางมากกว่า ทั้งนี้ การชุมนุมของพันธมิตรฯ จะมีผู้ชุมนุมทยอยมาเรื่อยๆ โดยไม่ได้มีการเป่านกหวีดระดมพลแต่อย่างใด แต่ก็มั่นใจว่าจะรักษาพื้นที่การชุมนุมได้
นายสุริยะใส กล่าวว่า เชื่อว่า การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในวันพรุ่งนี้ จะมีชุมนุมมาไม่เกิน 5 หมื่นคน เพราะทราบว่ามีหลายกลุ่มไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ โดยเฉพาะกลุ่มนายเนวิน ชิดชอบ กลุ่มอีสานตอนเหนือ ของนายไพจิต ศรีวรขาน และกลุ่มเหนือตอนล่าง ของนายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน เพราะกลุ่มเหล่านี้เห็นว่าการชุมนุมในลักษณะนี้ไม่เป็นประโยชน์เพราะอาจจะทำให้เกิดการเผชิญหน้า ควรอยู่เฉยๆ เพื่อแย่งมวลชนดีกว่า อีกทั้งยังมีปัญหาการจ่ายเงินไม่ทั่วถึง เพราะเงินไปกระจุกตัวอยู่กับแกนนำบางคน ไม่สามารถลงไปถึงคนที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ทางสายเหยี่ยวของพรรคพลังประชาชนได้ประเมินว่าสถานการณ์ขณะนี้เป็นสภาวะสงคราม ซึ่งอาจจะทำให้วันพรุ่งนี้ มีปัญหาได้ และอยากให้ระมัดระวังมือที่ 3 ซึ่งเราไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ยืนยันว่า พันธมิตรฯ จะอยู่ในที่ตั้ง ไม่ไปป่วนแน่นอน ดังนั้น หากเกิดเหตุรุนแรงขึ้นไม่ใช่ฝีมือของพันธมิตรฯ และเราไม่มีส่วนรู้เห็น
ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะโทรศัพท์เข้าไปยังที่ชุมนุมของ นปช.ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันพรุ่งนี้ จะเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมืองไทยอีกครั้ง ซึ่งต้องดูว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเลือกแบบไหน ถ้าอยากให้บ้านเมืองสงบ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ควรสารภาพผิด ตรงกันข้าม ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ อยากให้ประเทศไทยเกิดสงครามความขัดแย้ง เขาจะเปิดฉากโจมตีชนชั้นสูง ศาล พันธมิตรฯ และผู้พิพากษา ดังนั้น ตนเองยังคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียวเท่านั้นที่จะปลดล็อกวิกฤตการเมืองได้ โดยเขาจะต้องหยุดเคลื่อนไหวทางการเมือง ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ บินมาถึงฮ่องกงนั้น เชื่อว่า คงจะมีแผนบางอย่าง เพราะล่าสุดทราบว่า นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยาของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และน้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ได้บินไปฮ่องกงแล้ว
นายสุริยะใส กล่าวว่า กรณีที่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ขู่ว่าจะใช้ระเบิด M79 และ อาร์พีจี ยิงใส่พันธมิตรฯ นั้น ทางพันธมิตรฯไม่เคยให้ราคา พล.ต.ขัตติยะ แต่อยากถามกลับไปว่า ทางกองทัพปล่อยให้ทหารนอกรีตออกมาเคลื่อนไหวข่มขู่จะฆ่าประชาชนเป็นรายวัน และชี้นำให้เกิดความรุนแรงได้อย่างไร ดังนั้น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ควรออกมาจัดการเรื่องนี้ และตั้งกรรมการสอบสวน ซึ่งกองทัพควรจะกวาดบ้านตัวเองได้แล้ว
