“สุริยะใส” เผย นปช.เตรียมป่วนวันพันธมิตรฯ บุก สตช. ก่อเหตุป่วน สร้างเงื่อนไข “แม้ว”ขอลี้ภัย แต่เตือนการสร้างความรุนทำให้ทหารมีสิทธิปฏิวัติได้ แต่พันธมิตรฯ ไม่ต้องการให้เกิด จี้ “สมชาย- ผบช.น.” ต้องลาออก ก่อนตั้งกรรมการอิสระสอบเหตุปราบประชาชน
เมื่อเวลา 20.00 น.วันนี้ (11 ต.ค.) ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กรณีที่กลุ่มผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในนามแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะไปยึดพื้นที่บริเวณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ก่อนที่พันธมิตรฯ จะเดินทางไปถึงในตอนเช้าวันจันทร์ที่ 13 ต.ค.ว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า นปก.จะยุติการเคลื่อนไหว ตนคาดน่าจะเป็นแผน ลับลวงพราง มากกว่า เพราะการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช.จะถือโอกาสใช้ความรุนแรงเพื่อประโยชน์ต่อการลี้ภัยของ พล.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งกำลังหนีหมายจับคดีทุจริตหลายคดีอยู่ที่ประเทศอังกฤษ แต่พันธมิตรฯ ก็ยังยืนยันที่จะไปที่ สตช.ต่อไปโดยไม่หวั่นไหว
ส่วนการประเมินกำลังกลุ่ม นปช.นั้น เชื่อว่าต่อจากนี้ไปจะเป็นช่วง 3 วันอันตราย หากเกิดเหตุปะทะขึ้นทางพันธมิตรฯ เตรียมป้องกัน โดยใช้สันติวิธีและหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ความรุนแรง ถ้าหากเกิดความรุนแรงขึ้นจริงทหารมีสิทธิ์ทำการรัฐประหารได้ ซึ่งเป็นความคิดของกองทัพที่สามารถทำได้ แต่ยืนยันว่าทางพันธมิตรฯ ไม่ต้องการให้เกิดการทำรัฐประหาร
“ทหารจะยอมทุกครั้งเมื่อฝ่ายการเมืองเข้ามายุ่งเกี่ยว ซึ่งวิกฤตนี้ทหารสามารถเข้ามาคลี่คลายสถานการณ์ โดยไม่ต้องนำรถถังออกมา ซึ่ง พล.อ.อนุพงษ์ ต้องพร้อมถูกให้วิพากษ์วิจารจากสังคมด้วย” นายสุริยะใส กล่าว
ส่วนคณะกรรมการกลางที่รัฐบาลตั้งขึ้นมาเพื่อสอบสวนเหตุการณ์ปราบปรามผู้ชุมนุมวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า รัฐบาลต้องเปิดทางให้องค์กรอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งนายสมชาย วงสวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ต้องลาออกเพราะเมื่อมีการตรวจสอบอาจจะเกิดการแทรกแซงได้ นอกจากนี้ ต้องขอดูคณะกรรมการองค์ประกอบชุดนี้ว่าทั้ง 7 คนที่ตั้งขึ้นมานั้นเป็นใคร อย่างไรก็ตามทางพันธมิตรฯไม่ได้คาดหวังกับคณะกรรมการชุดนี้ นอกจากนี้ พันธมิตรได้เตรียมสำนวนฟ้องเพื่อสอบสวนโดยให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บให้ข้อมูล เพื่อรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อเดินหน้าส่งฟ้องในสัปดาห์หน้า โดยจะฟ้องทั้งศาลแพ่งและอาญา รวมทั้ง ป.ป.ช. และองค์กรสหประชาชาติรวมทั้งยื่นต่อสภาคองเกรสสหรัฐอเมริกา เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริง
