ผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ตบเท้าเยี่ยมพัก มท.1 ยึดหลักอหิงสา ไม่บุกรุกยื่นหนังสือเรียกร้องให้ลาออก และยกเลิกประกาศภาวะฉุกเฉิน ก่อนเคลื่อนทัพกดดันบ้านพัก “ชาย” และแกนนำ นปช.ต่อไป
วันนี้ (30 พ.ย.) นายอมร อมรรัตนานนท์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้พาผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ หลายร้อยคน มาชุมนุมที่หน้าบ้านของ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยเบื้องต้นผู้ชุมนุมไม่ทราบชัดเจนว่าบ้านหลังใดเป็นของ พล.ต.อ.โกวิท จึงได้เดินทางไปและวนกลับมาใหม่ พร้อมกับสอบถามข้อมูลจากชาวบ้านบริเวณใกล้เคียง อย่างไรก็ตาม การเดินทางมาในครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อยื่นหนังสือให้ พล.ต.อ.โกวิท ยุติการประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และให้ลาออกจากตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม การชุมนุมยังเป็นไปโดยสงบ แกนนำได้พยายามบอกกับกลุ่มผู้ชุมนุมห้ามปีนรั้ว หรือทำลายสิ่งของอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ ได้มีผู้ชุมนุมผู้หญิงคนหนึ่งได้ปาผ้าอนามัยข้ามรั้วบ้านเข้าไปในบ้านของ พล.ต.อ.โกวิท เมื่อผู้ชุมนุมผู้ชายเห็นจึงได้รีบเข้าห้ามปราม เนื่องจากเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม
ล่าสุด ผู้ชุมนุมได้สลายการชุมนุมแล้ว หลังใช้เวลาชุมนุมประมาณ 1 ชั่วโมง โดยแกนนำได้กล่าวกับผู้ชุมนุม ว่า จะเดินทางไปที่บ้านของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ต่อจากนั้นอาจมีไม้เด็ดบุกไปบ้านของแกนนำ นปช.ด้วย
อย่างไรก็ตาม การชุมนุมครั้งนี้ไม่มีเหตุปะทะกันแต่อย่างใด เนื่องจากผู้ชุมนุมต้องการแสดงเจตนารมณ์และยื่นหนังสือให้ พล.ต.อ.โกวิท หยุดการปฏิบัติการตามพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอย่าไปร่วมสลายการชุมนุม เพราะหากดำเนินการจะโต้กลับทุกวิธี ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.โกวิท ไม่ได้อยู่ภายในบ้านพัก แต่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบดูแลสถานการณ์อยู่นับ 10 นาย
รายละเอียดจดหมายเปิดผนึก ถึง พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ
วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2551
เรื่อง ขอให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ หยุดการปฏิบัติตาม ประกาศ พ.ร.ก.การบริหาร
ราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงมหาดไทย
เรียน พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
สิ่งที่ส่งมาด้วย: 1.แถลงการณ์พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยฉบับที่
26/2551 ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ.2551
ตามที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้มาชุมนุมที่หน้าสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ.2551 ดังที่ทราบแล้วนั้น
ในฐานะที่ท่านได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับคำสั่งจากนายกรัฐมนตรีตามประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ.2551 ในพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมืองนั้น
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอชี้แจงให้ท่านได้รับทราบว่าเราได้ชุมนุมอยู่ในที่ตั้งมากว่า 6 เดือนอย่างสงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธ แต่ในระยะเวลา 2 เดือนกว่าที่ผ่านมา ได้ปรากฏว่า มีคนร้ายที่สนับสนุนรัฐบาลใช้อาวุธสงครามประเภทระเบิดยิงเข้าใส่ผู้บริสุทธิ์ที่มาร่วมชุมนุมใจกลางพระนคร และยิงเข้าใส่สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก โดยปราศจากความรับผิดชอบดูแลเอาใจใส่จากกระทรวงมหาดไทยหรือรัฐบาล อีกทั้งเจ้าหน้าที่รัฐยังมีพฤติกรรมสมรู้ร่วมคิดรู้เห็นเป็นใจในการทำร้ายชีวิตและทรัพย์สินอย่างรุนแรงกับผู้ชุมนุมร่วมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จึงเท่ากับว่า การใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญด้วยความสงบและปราศจากอาวุธไม่สามารถได้รับความคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินได้อีกต่อไป และเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต้องยกระดับการกดดันต่อรัฐบาลให้แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก เพื่อหยุดยั้งการกระทำอันรุนแรงป่าเถื่อนจากฝ่ายรัฐบาลโดยเร็วที่สุด และเป็นผลทำให้ต้องมาชุมนุมที่หน้าสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมืองอยู่ในขณะนี้
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอย้ำว่า การที่เราได้มาชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมินั้น ก็เพื่อพิทักษ์รักษา ชาติ ราชบัลลังก์ และประชาชน ตลอดจนทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญเพื่อทำให้ประเทศชาติได้รอดพ้นจากนักการเมืองที่ฉ้อฉล กระทำผิดกฎหมาย เข่นฆ่าประชาชน และเหิมเกริมถึงขั้นคิดที่จะลดพระราชอำนาจด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างสถาบันองคมนตรี ตามที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 26/2551 ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ.2551 ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1.
ดังนั้น ประชาชนที่เข้ามาร่วมชุมนุมซึ่งส่วนใหญ่เป็น สตรี และผู้สูงวัย มีเพียงแค่สองมือเปล่า มิได้เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติแต่ประการใด หากแต่เป็นกลุ่มคนที่มีจิตใจบริสุทธิ์ที่ออกมาหยุดรัฐบาลทรราชฆาตกรหุ่นเชิดให้กับนักโทษหนีอาญาแผ่นดิน และหยุดการทำงานสภาทาสระบอบทักษิณที่กระทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้องให้จงได้
สำหรับการนำความเรียบร้อยและความสงบกลับคืนมายังสนามบินสุวรรณภูมินั้น ขอให้ท่านเลือกว่าจะยืนอยู่ข้างรัฐบาลทรราชฆาตกรหุ่นเชิดด้วยการสลายการชุมนุมของกลุ่มคนที่ออกมาต่อสู้เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หรือจะยืนอยู่ข้างประชาชนที่เป็นพสกนิกรชาวไทยด้วยการปฏิเสธการฟังคำสั่งของรัฐบาลทรราชฆาตกรหุ่นเชิด และลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นโดยทันที
การใช้ความรุนแรงในการปราบปรามผู้ชุมนุม ได้ทำความสูญเสียชีวิตมาแล้ว ดังกรณีตัวอย่างการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ.2551 จนทำให้ น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ ต้องเสียชีวิตลง ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถได้เสด็จพระราชดำเนินมาเพื่อพระราชทานเพลิงศพให้กับ น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ ได้มีพระราชปฏิสันถารว่า น.ส.อังคณา ได้เสียสละชีวิตเพื่อชาติและราชบัลลังก์ ซึ่งบุคคลที่เข้าร่วมชุมนุมเพื่อชาติและราชบัลลังก์นั้นสมควรได้รับการดูแลจากรัฐบาล มิใช่ถูกทำร้ายจากตำรวจ ทหาร หรือจากฝ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขอเตือนให้ท่านทราบว่า เครือข่ายมวลชนของประชาชนผู้ชุมนุมมีครอบครัวเช่นเดียวกับท่าน ดังนั้น หากท่านยังคงสั่งการหรือร่วมกระทำการสลายด้วยความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมแล้ว นอกจากจะถูกดำเนินคดี และเป็นตราบาปไปชั่วลูกชั่วหลานแล้ว เราจะตอบโต้ท่านและครอบครัวด้วยทุกวิถีทางจนถึงที่สุด
ขอแสดงความนับถือ
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย