xs
xsm
sm
md
lg

"สุทิน" ย้ำ ขอสู้ข้างพันธมิตรฯ - ไม่หวั่นถูก NBT นำเสนอภาพหวังให้ นปก.จำหน้าได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุทิน วรรณบวร
อดีตผู้สื่อข่าวอาวุโส สำนักข่าวเอพี "สุทิน วรรณบวร" ย้ำ ขอสู้เคียงบ่าเคียงไหล่พันธมิตรฯ ให้ถึงที่สุด เผยตั้งแต่มาขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ถูก NBT นำภาพไปออกอากาศซ้ำแล้วซ้ำเล่า หวังให้ นปก. จำหน้าได้ ยันไม่เคยหวั่นเพราะร่วมสู้ อยู่หลังเวทีมาโดยตลอด แต่วันนี้ต้องเปิดหน้าชก เพราะทนความดื้อด้านของรัฐบาลไม่ไหว เชื่อยังมีทหารที่ดี พร้อมปกป้องประชาชน

วันนี้ (28 พ.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. นายสุทิน วรรณบวร อดีตผู้สื่อข่าวอาวุโส สำนักข่าวเอพี ได้กล่าวปราศรัยบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ภายในทำเนียบรัฐบาล ถึงเหตุผลของการลาออกจากตำแหน่งผู้สื่อข่าวอาวุโส แล้วมาร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ ว่า แท้จริงแล้วตนได้มาร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ มาโดยตลอด เพียงแต่เป็นการมาร่วมชุมนุมโดยไม่ได้ขึ้นมาปราศรัยบนเวทีเท่านั้น แต่ในวันนี้เมื่อตนเห็นว่าสถานการณ์บ้านเมืองมาถึงสภาวะที่สุกงอม นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ดื้อดึงไม่ยอมลาออกจำตำแหน่งเสียทีทั้งที่นายสมชาย ในวันนี้เป็นเพียงนายกรัฐมนตรีซากศพ ที่ตายไปแล้ว แต่มีผู้อยู่เบื่องหลังอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คอยจับศพให้เคลื่อนไหวไปมาตามความต้องการของตัวเองเท่านั้น วันนี้ตนจึงต้องออกมาเปิดหน้าชก เพื่อให้การต่อสู้ครั้งนี้จบลงเสียที

นายสุทิน กล่าวต่อไปว่า การออกมาร่วมต่อสู้กับพันธมิตรฯ ในครั้งนี้ ตนได้บอกกับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ เอาไว้แล้ว ว่าตนจะสู้อย่างเต็มที่ แต่ตำแหน่งแกนนำรุ่นที่ 3 หรือ 4 นั้น ตนคงไม่อาจรับตำแหน่งดังกล่าวได้ เพราะตนคงเป็นด้เพียงรุ่น "พิมพ์นิยม" เท่านั้น เพราะที่ผ่านมาได้มีบททดสอบแล้ว ว่าตนคือแกนนำรุ่นพิมพ์นิยม เพราะเพียงแค่ตนขึ้นเวทีปราศรัยพันธมิตรฯ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพียง 2 ครั้ง สื่อมวลชน โดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ก็นำภาพของตนที่ปราศรัย ไปออกอากาศซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งสาเหตุที่ทำเช่นนั้น ไม่ใช่เพราะอยากจะประชาสัมพันธ์ให้ตน แต่เป็นเพราะสถานีแห่งนั้นคงต้องการให้บรรดา นปช.ได้จำหน้าตนได้มากกว่า

เนื่องจากก่อนหน้านี้ ขณะที่ตนได้ปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งผู้สื่อข่าว ตนแสดงตัวอย่างชัดเจนที่จะเรียกร้องความถูกต้องให้แก่ประชาชน เช่นการสัมภาษณ์ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ว่า "ระหว่างชีวิตเลือดเนื้อของประชาชน กับนายกเฮงซวย จะเลือกฝ่ายไหน" หรือแม้แต่ซักถามอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ว่าถ้าคุณมีกรมประชาสัมพันธ์ ถ้าคุณมีจานดาวเทียม แต่คุณยังไม่สามารถสร้างความสามัคคีปรองดองให้กับคนในชาติได้ คุณยังปล่อยให้พวกเสื้อแดงมาใช้เวทีของกรมประชาสัมพันธ์มาสร้างความแตกแยกให้กับคนในบ้านในเมืองตลอดเวลานั้น คุณไม่เอาจานดาวเทียมไปตากปลาเค็มเสียเลยล่ะ" ซึ่งตนคิดว่านี่เองคือสาเหตุที่ทำให้ตนได้รับการจับตามองเป็นพิเศษจากสื่ออย่างเอ็นบีที และคนในกลุ่ม นปช.

นายสุทิน กล่าวต่อว่า ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา ตนได้ถูกตำหนิและทวงถามจากพี่น้องชาวใต้ ซึ่งเป็นคนบ้านเกิดเดียวกันตลอดเวลา ว่าหายไปไหน เหตุใดจึงไม่มาสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพันธมิตรฯ เมื่อมาวันนี้เมื่อตนได้ขึ้นเวทีแห่งนี้แล้ว ก็อยากจะขอไปยังพี่น้องชาวใต้ และพันธมิตรฯ ทุกคนว่า ตนขอนับถือในน้ำใจของทุกคนที่ออกมาร่วมต่อสู้เพื่อชาติ และก็ขอบอกว่าตนไม่เคยหายไปไหน ยังอยู่ร่วมต่อสู้กับพันธมิตรฯ มาโดยตลอดเหมือนเมื่อครั้งการต่อสู้ขับไล่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อปี 2547

แม้ครั้งนั้น คนในฝากของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะเคยมาติดต่อให้ตนไปเป็นดำเนินรายการในส่วนของเขาให้ โดยให้ค่าจ้างสูงถึงเดือนละ 1.5 ล้านบาท แต่ตนก็ไม่ไป เพราะตนคิดว่าตนรวยแล้ว หากเงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีตราครุฑอยู่ เงินของตนก็มีเหมือนกัน ตนพอใจแล้วในสิ่งที่ตนมีอยู่ จึงไม่มีความคิดอยากได้เงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ อีก และจนถึงวันนี้ความคิดของตนก็ยังเป็นเหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยนไป

นายสุทิน กล่าวด้วยว่า ตนขอสนับสนุนให้พี่น้องพันธมิตรฯ ชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมิต่อไป จนกว่านายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะลาออก และการที่นายสมชาย มาถามว่าการชุมนุมปิดสนามบินอย่างนี้ สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติ เศรษฐกิจพังจะทำอย่างไร ตนก็ขอตอบไว้ตรงนี้เลยว่า วิธีแก้ไม่ให้ประเทศเสียหายนั้นง่ายนิดเดียว คือให้นายสมชาย ลาออก เพียงเท่านี้ปัญหาทุกอย่างก็จะจบ เพราะรัฐบาลนายสมชาย คือต้นเหตุของปัญหาทุกอย่าง

นอกจากนี้ตนยังเห็นว่าหารรัฐบาลนายสมชาย ลาออกไปแล้ว คนไทยทุกคนจะได้ร่วมกันทำการเปิดสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นไปอย่างถูกต้อง คือให้เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน เสด็จมาทำการเปิดสนามบินแห่งนี้อย่างเป็นทางการ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สนามบินแห่งนี้ซึ่งถือเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ แต่กลับยังไม่ได้รับการเปิดอย่างเป็นทางการโดยเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินของประเทศเราเลย ตนจึงอยากขอให้ประชาชนทุกคน ร่วมกันกวาดล้างสิ่งไม่ดีทั้งหลายออกจากประเทศนี้ แล้วมาสร้างประเทศ และสนามบินสุวรรณภูมิ ให้ดียิ่งขึ้น

ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้น ตนอยากบอกพันธมิตรฯ ทุกคนว่าไม่ต้องกังวล เพราะตอนนี้ถึงแม้คนในกองทัพ จะมีบางส่วนที่ถูกซื้อตัวไปเป็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไปแล้ว แต่ก็ยังมีทหารที่ดี อีกส่วนหนึ่งเช่นกัน ที่พร้อมจะปกป้องดูแลประชาชน ดังนั้นจึงฝากบอกไปยัง พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ที่ได้รับคำสั่งให้มาหาทางยุติการชุมนุมของพันธมิตรฯ ด้วยว่า อย่าคิดว่าจะสามารถทำร้ายประชาชนได้ง่าย ๆ เพราะทหารที่ดี ๆ จะไม่ยอมเด็ดขาด
กำลังโหลดความคิดเห็น