“สนธิ” ย้ำสงครามเทพ-อสูรต้องมีศรัทธาและความเชื่อมั่นเท่านั้นที่จะเอาชนะได้ ชี้การเปลี่ยนแปลงสังคมใหม่นับจากนี้ไปเกิดจากพลังคนธรรมดาสามัญที่มีหัวใจรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อยู่เต็มเปี่ยมเท่านั้น ขัดขวางการสืบทอดอำนาจในตระกูล “ชินวัตร” จวก “อนุพงษ์” อย่ามัวเล่นลิ้นหากยืนข้างระบอบทักษิณก็ให้บอกมา
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย
วันที่ 24 พ.ย. เมื่อเวลา 20.00 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีที่ทำเนียบฯ ว่า ไม่เคยนึกมาก่อนว่าประเทศชาติจะเปลี่ยนแปลงได้ด้วยคนธรรมดาสามัญอย่างพวกเรา ไม่ต้องมีตำรวจ นักวิชาการ ผู้ทรงเกียรติ หรือตำรวจทหารชั้นนายพลทั้งหลาย แต่มีอยู่อย่างเดียวคือหัวใจที่รักชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ มันคือธรรมที่แท้จริงที่ไม่มีสามารถแยกออกไปจากพวกเราได้
นายสนธิ กล่าวว่า ได้มองเห็นพี่น้องที่ร่วมกันต่อสู้ตั้งแต่เมื่อตอนเช้าที่รัฐสภาไปจนถึงดอนเมือง ทำให้พวกเราทุกคนรู้สึกซาบซึ้งจากก้นบึ้งของหัวใจที่ไม่รู้จะทดแทนบุญคุณและน้ำใจที่เสียสละเพื่อชาติบ้านเมือง โดยไม่มีความกลัวแม้แต่นิดเดียว
นายสนธิ กล่าวว่า สังคมไทยที่มันแตกแยกอยู่ทุกวันนี้เพราะมีคนที่มีจิตใจที่เป็นสัตว์นรก คิดว่าแผ่นดินนี้เป็นของตนเอง คิดว่าเมื่อหมดจากนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แล้วก็เป็น พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร แล้วก็จะเป็น ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
“ถ้าจะเป็นอย่างนี้ทำไมไม่ระบุเอาไว้ในรัฐธรรมนูญเลยว่าต้องตระกูลชินวัตรเท่านั้นต้องเป็นนายกฯ ซึ่งการสืบทอดวงศ์วานแบบนี้เป็นเพราะชายโฉดหญิงชั่วเท่านั้น ด้วยเหตุนี้พลังของศีลธรรมต้องออกมาสู้กับความชั่วร้าย และนี่คือสงครามระหว่างเทพกับอสูร” นายสนธิ กล่าว
นายสนธิ ได้กล่าวถึงคนที่พูดว่าบ้านเมืองบอบช้ำมามากแล้วให้หยุดวุ่นวายว่า บ้านเมืองที่บอบช้ำเป็นเพราะระบอบทักษิณ ที่ผ่านมาบ้านเมืองไม่เคยเป็นแบบนี้ ไม่เคยแตกแยก ศาสนาไม่เคยแตกแยก ทุกอย่างล่มสลายเพราะระบอบทักษิณทั้งสิ้น
“สมัยก่อนเรามีข้าราชการที่ซื่อสัตย์ จงรักภักดี ไม่ว่าจะเป็น นายสุธี อากาศฤกษ์ อดีตเลขาธิการ ป.ป.ป. พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นต้น แต่ทุกวันนี้ข้าราชการประเภทนี้หายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร ส่วนใหญ่กลายเป็นทาสของระบอบทักษิณไปหมดแล้ว” นายสนธิ ระบุ และกล่าวถึงการรัฐประหารว่าบางครั้งไม่ใช่เลวร้ายเสมอไป หากรู้จักแยกแยะและรู้ว่าฝ่ายไหนชั่วร้ายหรือมีศีลธรรม อย่ามัวแต่เป็นกลาง เพราะถ้าต้องการเข้าข้างระบอบทักษิณก็ให้บอกมาเลย
นายสนธิ กล่าวว่า วิกฤตเศรษฐกิจในปีหน้าหนักหน่วงและต้องการคนที่ซื่อสัตย์มาแก้ไข ซึ่งการปฏิวัติรัฐประหารจะออกมาในเชิงลบถ้าไม่รู้จักเปลี่ยนแปลงอะไรเลยและถ้าปล่อยให้ประเทศตกอยู่ในเงื้อมมือของผู้ที่อ้างประชาธิปไตยจอมปลอมเช่นนี้ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์
“เวลานี้เรากำลังแหวกว่ายเหมือนกับพระมหาชนก อีก 10 เมตรก็จะถึงฝั่งแล้ว ถ้าเมื่อเรามีความเชื่อมั่น ศรัทธาก็จะเป็นพลังอันยิ่งใหญ่” นายสนธิกล่าวทิ้งท้าย