สหภาพแรงงานฯ มาแล้ว! ออกแถลงการณ์ลั่นยืนเคียงข้างประชาชน ร่วมปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ นัดสมาชิกรวมตัว 10 โมงเช้า 24 พ.ย.นี้ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า มติชัดให้ขับไล่คนของรัฐบาลออกจากพื้นที่รัฐวิสาหกิจทุกแห่ง ขู่หากรัฐมารยังดื้อแพ่ง เตรียมไม้ตายนัดหยุดงานทั่วประเทศต่อไป
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รองเลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ อ่านแถลงการณ์
วันนี้ (21 พ.ย.) ที่เวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 18.43 น. รองเลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ฝ่ายปฏิบัติการ พร้อมด้วยตัวแทน 43 สหภาพแรงงานต่างๆ ขึ้นเวทีเพื่อประกาศจุดยืนร่วมต่อสู้กับพี่น้องประชาชน โดยรองเลขาธิการฯ กล่าวยืนยันว่า สรส.จะไม่ทอดทิ้งประชาชน วันนี้ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะต้องสู้เพื่อชัยชนะ
จากนั้น รองเลขาธิการ สรส.ได้อ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 13 เรื่องกำหนดมาตรการตอบโต้รัฐบาลหุ่นเชิด ขายชาติ มือเปื้อนเลือด ระบุว่า
ตามที่สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ได้มีมติเป็นเอกฉันท์เข้าร่วมการชุมนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อต่อต้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจขับไล่รัฐบาลนอมินีหุ่นเชิดของระบอบทักษิณและคัดค้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 การชุมนุมยืดเยื้อนานถึง 6 เดือน และความจริงที่ได้ประจักษ์แก่สังคมว่าระบอบทักษิณและรัฐบาลนอมินีหุ่นเชิดเต็มไปด้วยการทุจริต คอร์รัปชัน โกงการเลือกตั้ง ฯลฯ โดยเฉพาะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และภรรยา ได้ถูกศาลพิพากษาความผิดจนต้องติดคุก แต่รัฐบาลกลับมิได้ดำเนินการใดๆ ที่ตจะแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน
ในทางกลับกัน เมื่อประชาชนลุกขึ้นต่อต้านและขับไล่รัฐบาลที่หมดซึ่งความชอบธรรมทั้งปวง รัฐบาลได้ใช้ความรุนแรงในการปราบปรามประชาชนอย่างโหดเหี้ยม และเข่นฆ่าอย่างอำมหิต โดยเฉพาะในวันที่ 7 ตุลาคม 2551 และล่าสุดได้มีการยิงระเบิดใส่กลุ่มประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ ใช้สิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย คือ นายเจนกิจ กลัดสาคร และมีผู้บาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก
สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) เห็นว่าพฤติกรรมที่ต่ำทรามทางศีลธรรมและประชาธิปไตย ของรัฐบาลสมชายซึ่งเป็นนอมินีของทักษิณ ชินวัตร อาชญากรคอร์รัปชันที่ปฏิเสธความยุติธรรมปฏิเสธความรับผิดชอบในการสลายการชุมนุมของประชาชนเป็นเหตุให้ประชาชนเสียชีวิตบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ในวันที่ 7 ตุลาคม และ 20 พฤศจิกายน 2551 และการไม่เคารพประชาชนในการดึงดันแก้ไขรัฐธรรมนูญในพวกพ้องตนเองพ้นผิดอันเป็นสาเหตุที่จะนำไปสู่ความรุนแรง
ดังนั้น สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) และองค์กรสมาชิก 43 สหภาพแรงงานจึงได้มีมติร่วมกันในการตอบโต้รัฐบาล ดังนี้
1.ขับไล่คนของรัฐบาลหากเข้าไปในพื้นที่ของรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง
2.ให้ทุกองค์กรนำสมาชิกเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ อย่างเต็มที่ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2551 ตั้งแต่เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป โดยพร้อมกันที่ลานพระรูปทรงม้า
3.หากรัฐบาลไม่ปฏิบัติตามข้อเสนอของสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือใช้ความรุนแรงในการปราบปรามประชาชนทุกองค์กรจะนัดหยุดงานกันทั่วประเทศ ด้วยจิตคารวะ สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2551
นายสมชาย ศรีนิเวศ ประธานสหภาพการประปานครหลวง (สร.กปน.) กล่าวว่า เชื่อว่าพันธมิตรฯจะไม่มีวันถอดใจอย่างที่ถูกครหา มั่นใจว่าเราเคยสัญญาว่าจะพบกันเมื่อชาติต้องการ และบัดนี้ คือเวลาที่ชาติต้องการแล้ว วันนี้จะขอบอกไอ้สัตว์นรกที่ทำร้ายพี่น้องเราเมื่อวานนี้ว่า สิ่งที่มันทำทุกครั้งมันโง่ มันยิ่งทำกับเรา เรายิ่งออกมา
นายสุดเจริญ สมทรง ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (สร.กฟภ.) กล่าวว่า เราต้องออกมากันเยอะๆ ลึกๆแล้วเราออกมาเพราะไม่อยากเห็นผู้บริสุทธิ์ถูกฆ่า
ด้านนายคมสันต์ ทองศิริ รักษาการรองประธานสหภาพการไฟฟ้านครหลวง (สร.กฟน.) กล่าวว่า ถึงเวลาจะชำระฆาตกรแล้ว อย่างไรก็ตาม ฝากบอกถึงพี่น้องสหภาพ กฟน.ทั้งหลายว่าโอกาสสุดท้ายแล้วที่พี่น้องจะต่อสู้เพื่อชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์ และประชาชน ถึงเวลาแล้วที่เราจะกู้ศักดิ์ศรีของสหภาพ กฟน.กลับคืนมา
“พี่น้องสมาชิกสหภาพฯ ถ้ารักษาการประธานสหภาพ กฟน.เขาไม่สู้ไม่เป็นไร ปล่อยเขาไป แต่ผมคมสันต์ ทองศรี รักษาการรองประธานฯ จะเป็นแม่ทัพในการต่อสู้ ขอให้พี่น้องมั่นใจในผู้นำคนนี้ ออกมาสู้เพื่อประชาชน”นายคมสันต์ กล่าว
รองประธาน สรส.ฝ่ายสตรี กล่าวว่า ขอชื่นชมและคารวะที่พี่น้องยืนหยัดต่อสู้อย่างเหนียวแน่น ในวันนี้มาเพื่อประกาศให้ทราบว่าฝ่ายสตรีของ สรส.จะยืนหยัดร่วมต่อสู้กับพี่น้อง ขอเชิญพี่น้องออกมา
