ปชป.ประณามสัตว์นรกปาระเบิดทำเนียบ เตือน “ชายลมโชย” อย่ายึดหลัก “ด้านได้อายอด” ขณะที่ รมว.กลาโหมเงา จี้ นายก-ผบ.ทบ.หาต้นตอเหตุระเบิดพันธมิตรฯ
วันนี้ (20 พ.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีคนร้ายยิงระเบิดใส่หน้าเวทีปราศรัยของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า เป็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างไร้มนุษยธรรม สมควรที่จะต้องประณามผู้ที่ก่อเหตุความรุนแรง ดังนั้น อยากเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาควบคุมสถานการณ์ เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะไม่ให้ความรุนแรงเกิดขึ้นในประเทศ และรัฐบาลจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ รัฐบาลจะเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไม่ได้เช่นกัน ในฐานะเป็นรัฐบาลของคนทั้งชาติ ทั้งนี้ ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ตนคิดว่าไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่จะเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้ เพราะความรุนแรงที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.จนถึงวันนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง แต่รัฐบาลไม่มีท่าทีที่จะจับตัวคนทำผิดมาลงโทษ หรือมีมาตรการป้องกันความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น นายกฯ กลับปฏิเสธเพิกเฉยต่อความรับผิดชอบมาโดยตลอด
“ถ้าหากนายกฯ จะยึดถือสุภาษิตที่ว่า ด้านได้อายอด คิดว่าบ้านเมืองก็จะเสียโอกาส ไม่อยากให้นายกฯซื้อเวลาไปวันๆ เพราะเวลาของประเทศเหลือน้อยเต็มทีแล้ว นายกฯ ต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างใดอย่างหนึ่งต่อสถานการณ์บ้านเมือง อย่างไรก็ตาม ได้มีคำเตือนจากหลายฝ่ายแล้วว่า ความรุนแรงจะเกิดขึ้นหลังพระราชพิธีฯอย่างแน่นอน และคนในรัฐบาลก็ประโคมข่าวว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้น พรรคฝ่ายค้านก็เคยเตือนว่าความรุนแรงจะเกิดขึ้นแน่นอนนับตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชักธงรบสู้แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน รวมไปถึงคนที่นิยมความรุนแรงหลายคนได้เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างเช่น กลุ่มสามเกลอหัวกลม พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ผมอยากรู้ว่าคนเหล่านี้ไปรับแผนเพื่อมาเคลื่อนไหวให้เกิดความรุนแรงหลังจากงานพระราชพิธีฯใช่หรือไม่”
ด้าน พล.อ.พิชาญเมธ ม่วงมณี ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการกลาโหม (เงา) กล่าวว่า ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น ประชาชนจะนึกถึงตำรวจ ทหาร ขอเรียกร้องให้ นายสมชาย ในฐานะที่เป็น รมว.กลาโหม และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ตรวจสอบหาต้นตอเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีเรื่องที่เหมือนกับก้อนน้ำแข็งที่อยู่ใต้น้ำ และโผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำแค่บางส่วน ดังนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพียง 1 ใน 10 ของเรื่องที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น นอกจากนี้ หากพิจารณาคำให้สัมภาษณ์ของเสธ.ต่างๆ ก็จะเหมือนสิ่งที่อยู่บนผิวน้ำ รวมถึงการแสดงออกของ ส.ส.พรรคพลังประชาชน ที่พูดถึงเรื่องการแบ่งแยกดินแดน หรือแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ที่อาจจะทำให้เหตุการณ์ลุกลามใหญ่โต
“เพื่อป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองควรทำสิ่งที่เป็นรูปธรรมชัดเจน เพราะการข่าวทางลึก ก็จะทราบว่าคนทำอยู่ที่ไหน และมีต้นตออย่างไร และจะทราบที่ตั้งโดยประมาณด้วยซ้ำว่า มีการซ่องสุมคนและอาวุธอยู่ที่ไหน แต่ก็ไม่ทำกัน ซึ่งตนไม่แน่ใจว่า เป็นเพราะอะไร แต่การนิ่งเฉยก็เท่ากับเป็นการส่งเสริมไปโดยปริยาย ดังนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องจึงไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ ขอเรียกร้องผู้ปฏิบัติควรจะมาขันน็อตและเร่งเครื่องปฏิบัติงานให้ชัดเจน” พล.อ.พิชาญเมธ กล่าว
