“สุทธิพล” โต้กลับแก๊ง 3 เกลอหัวกลมใช้สื่อรัฐ ดิสเครดิต กกต.ในรายการความจริ้งวันนี้ ยันจ้างพิมพ์บัตรประชามติโปร่งใส แถมประหยัดงบอีกร่วม 3 ล้าน ชี้การป้ายสีส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์องค์กร แจงตัวเลขละเอียดยิบ
วันนี้ (8 ส.ค.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงกรณีผู้ดำเนินรายการ “ความจริงวันนี้” กล่าวหาว่ามีการดำเนินการไม่ถูกต้องในการจ้างพิมพ์บัตรออกเสียงประชามติว่า เป็นการกล่าวหาที่คลาดเคลื่อนไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของ กกต. และสำนักงานฯ โดยขอยืนยันว่าการจ้างพิมพ์บัตรออกเสียงประชามติของ กกต.มีการดำเนินการโดยถูกต้อง โปร่งใส และตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน เริ่มจากการประกาศประกวดราคาที่แบ่งเป็น 4 รายการ คือ 1.ภาคกลาง และภาคตะวันออก จำนวน 17,330,000 ฉบับ วงเงิน 20,796,000 บาท 2.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 16,430,000 ฉบับ วงเงิน 19,716,000 บาท 3.ภาคเหนือ จำนวน 9,035,000 ฉบับ วงเงิน 10,842,000 บาท 4.ภาคใต้ จำนวน 6,705,000 ฉบับ วงเงิน 8,046,000 บาท
โดย กกต.ได้เปิดโอกาสให้บริษัทต่างๆ ยื่นข้อเสนอและเปิดรับเอกสารประกวด ราคาระหว่างวันที่ 19-27 มิ.ย.50 ปรากฏว่ามี 18 บริษัทมารับเอกสารประกวดราคา และในวันยื่นซองประกวดราคาวันที่ 10 ก.ค.50 มี 3 บริษัทมายื่นซอง รวมทั้งข้อเสนอทางเทคนิคและราคา ผลการพิจารณาข้อเสนอทางเทคนิคปรากฏว่ามี 2 บริษัทที่ผ่านการคัดเลือก ทางคณะกรรมการจัดจ้างจึงได้ทำการเปิดซองเสนอราคาเฉพาะ 2 บริษัทที่ได้ผ่านการพิจารณาคัดเลือกทางเทคนิคและ
ข้อเสนออื่น ปรากฏว่าในแต่ละรายการมีราคาแตกต่างกัน ทางคณะกรรมการฯจึงพิจารณาจากราคาต่ำสุดในแต่ละรายการปรากฏว่า บริษัท ที.เค.เอส.เทคโนโลยี มีราคาต่ำสุดในภาคที่ 1 คือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคที่ 4 คือ ภาคใต้ โดยเสนอราคาแผ่นละ 1.03 บาทและ 1.10 บาทตามลำดับ บริษัท จันวาณิชย์ ซีเคียวริตี้ พริ้นติ้ง ราคาต่ำสุดในภาคที่ 2 คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคที่ 3 คือ ภาคเหนือ มีราคาแผ่นละ 1.05 บาททั้ง 2 ภาค
ดังนั้น เพื่อประโยชน์ของราชการ คณะกรรมการฯ จึงได้ทำการต่อรองกับ 2 บริษัทดังกล่าว ซึ่งสามารถต่อรอง
ราคาได้ดังนี้ บริษัท ที.เค.เอส.ฯ รายการที่ 1 ไม่สามารถต่อรองราคาให้ต่ำกว่าแผ่นละ 1.03 บาทได้ แต่ยินดีปรับลดราคาในรายการที่ 4 จากแผ่นละ 1.10 บาทเป็น 1.03 บาทเท่ากับในรายการที่ 1 ส่วนบริษัท จันวาณิชย์ฯ ยินดีปรับลดราคาทั้ง 2 รายการ คือ รายการที่ 2 และ 3 จากแผ่นละ 1.05 บาท เหลือแผ่นละ 1.03 บาท เท่ากันทั้ง 2 รายการ จากการต่อรองราคาของคณะกรรมการฯ ดังกล่าวทำให้ราคาในการจัดพิมพ์บัตรของทั้งสองบริษัท 4 รายการ มีราคาเท่ากันหมดทุกรายการ คือราคาแผ่นละ 1.03 บาท
นอกจากนี้ ก่อนจะลงนามในสัญญาจ้าง ตนร่วมกับคณะกรรมการฯ ได้ทำการต่อรองราคาอีกครั้งหนึ่งเพื่อเป็นการช่วยประหยัดงบประมาณของชาติ ทำให้ทั้ง 2 บริษัท ลดราคาบัตรจากแผ่นละ 1.03 บาทเหลือเพียง 0.99 บาททุกรายการ ส่งผลให้สำนักงานกกต. ประหยัดงบประมาณได้ 2,958,650 บาท คิดเป็น 5.69% ของราคาที่บริษัทเสนอมาในครั้งแรก ดังนั้น ขอยืนยันว่า การจัดพิมพ์บัตรทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นบัตรออก เสียงประชามติหรือบัตรเลือกตั้งประเภทใดก็ตาม ได้เปิดโอกาสให้โรงพิมพ์จากทั้งภาครัฐและเอกชน ทุกแห่งได้เข้าร่วมในการแข่งขันอย่างเป็นธรรม โดยบัตรดังกล่าวจะมีระบบป้องกันการปลอมแปลง บัตรที่มีมาตรฐาน รวมทั้งโรงพิมพ์ต้องมีระบบหรือเทคโนโลยีเกี่ยวกับการควบคุมและตรวจสอบการ ทำงานที่มีประสิทธิภาพ ผ่านเกณฑ์มาตรฐานด้านเทคนิคตามที่สำนักงาน กกต.กำหนด