แกนนำพันธมิตรฯ วิเคราะห์ “แม้ว” หลังพิงฝาประกาศดับเครื่องชนถือเป็นสไตล์เดิมๆ ชี้มีอิทธิพลกุมอำนาจเหนือ พปช.พร้อมกดรีโมตเปลี่ยนแปลงเกมได้ทุกเวลา ย้ำพันธมิตรฯ ยังเดินหน้าให้ข้อมูลประชาชนอย่างต่อเนื่อง พร้อมยกระดับการชุมนุมให้เข้มข้นหากมีการพิจารณาแก้ไขรธน.
วันนี้ (19 พ.ย.) ที่ห้องผู้สื่อข่าว ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พร้อมด้วยนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมแถลงข่าวประจำวัน โดยนายพิภพ กล่าวว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตัดสินใจต่อสู้ทางการเมือง โดยไม่ยอมรับคำตัดสินในกระบวนการยุติธรรมและอำนาจตุลาการ ซึ่งไม่คำนึงถึงความเสียหายของประเทศชาติและระบอบประชาธิปไตย จะทำให้สังคมแตกแยก
นายพิภพ กล่าวว่า พันธมิตรฯ จะเดินหน้าให้ข้อมูลต่อประชาชนต่อไป แม้ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เลือกที่จะตัดสินใจไม่ยื่นอุทธรณ์คดีที่ดินรัชดาฯ โดยพันธมิตรฯ จะไม่ยกระดับการชุมนุมในการเรื่องใดเรื่องหนึ่งแต่จะให้ข้อมูลในเรื่องต่างๆ มากขึ้น และประชาชนจะรับทราบข้อมูลที่หลั่งไหลเข้ามามากขึ้น เพราะขณะนี้พรรคพลังประชาชน และพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เอาความจริงมาต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม
พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ระยะเวลาที่มีพันธมิตรฯ เรียกร้อง 2 ประเด็นทั้งการคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และไล่รัฐบาลหุ่นเชิดลาออกนั้น แต่เรื่องต่างๆ ที่ปรากฏอยู่และเป็นเรื่องที่เราไขความจริงให้แก่ประชาชนรับทราบ ทั้งการจาบจ้วงสถาบัน เรื่องทำความเสียหายกับประชาชน ฯลฯ ตรงนี้จึงเป็นข้อมูลที่ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินความจริงเอง อย่างไรก็ตาม เราจะเคลื่อนไหวให้เข้มข้นหรือยกระดับมากขึ้นหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยยึดมั่นในการใช้สันติวิธี
ส่วนหากจะมีการโฟนอินเข้ามายังประเทศไทยในวันที่ 14 พ.ย.นั้น นายพิภพ กล่าวว่า เป็นเพียงเกมการเมืองปกติของ พ.ต.ท.ทักษิณ และเป็นสไตล์มานานแล้ว โดยจะเปลี่ยนหมากไปเรื่อยๆ แสดงให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังมีอำนาจในการกำหนดทิศทางการเมืองของพรรคพลังประชาชน โดยกำหนดว่าหมากตัวไหนหมดพลังหรืออ่อนล้าที่จะเปลี่ยนแปลงทางการเมืองตามที่ต้องการ เช่น ให้ตัวเองพ้นผิดจากเรื่องต่างๆ ดังนั้น เมื่อหมากเปลี่ยนไปทิศทางใดพันมิตรฯ จึงจะกำหนดท่าทีอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้หมากกลในความรุนแรงมากขึ้น นายพิภพ กล่าวว่า ยังไม่คิดแต่เป็นเพียงกระแสข่าว ถ้าเกิดจริงผู้ทำหน้าที่ทางกฎหมายจะต้องปฏิบัติหน้าที่ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้อยู่ในฐานะประชาชนธรรมดาแต่อยู่ในฐานะนักโทษที่หลบหนีคุก ดังนั้น ตำรวจ อัยการ และศาลก็จะต้องทำหน้าที่ตามกระบวนการยุติธรรม พันธมิตรฯ ก็ไม่ได้วิตกอะไร และยังเห็นว่ากระบวนการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เพื่อทดสอบสังคมและกระบวนการยุติธรรม ส่วนตัวตนไม่เชื่อจะเกิดความรุนแรงเป็นเพียงกระแสข่าวเท่านั้น
ทั้งนี้ หากคุณหญิงพจมาน ชินวัตร กลับมายังประเทศไทย พันธมิตรฯ จะเคลื่อนไหวอย่างไร นายพิภพ กล่าวว่า คงเป็นเรื่องส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน และเราก็ไม่ได้ให้ความสำคัญ
แกนนำพันธมิตรฯ ยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเรื่องที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ออกบวช โดยเห็นว่าท่านออกบวชโดยไม่ได้ลาใคร ส่วนหาก พ.ต.ท.ทักษิณ ลาบวชเหมือนกัน แกนนำพันธมิตรฯ ปฏิเสธจะกล่าวถึง
พล.ต.จำลอง ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการเจรจากับผู้มีอำนาจในรัฐบาลว่า รัฐบาลคงไม่ว่าง เพราะนายกฯ มัวแต่สาละวนกับเรื่องเปิด-ปิด แจก-รับ คงไม่มีเวลา และเราก็จะไม่ปิดการเจรจากับคนที่เกี่ยวข้องโดยตรง