องค์กรวิชาชีพสื่อ 3 สมาคม ออกแถลงการณ์ร่วม เรียกร้อง คกก.บมจ.อสมท แจงเหตุผลที่ยังไม่ชัดเจนต่อสาธารณะ บีบ “วสันต์” พ้น อสมท เพื่อเป็นหลักประกันปกป้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพสื่อ ไม่ให้ถูกแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง หรืออำนาจจากกลุ่มอิทธิพลใดๆ ย้ำข้ออ้างแนวทางการทำงานไม่ตรงกัน ไม่น่าจะผิดร้ายแรงต่อการสั่งยุติบทบาท เชื่อ ถูกการเมืองบีบ
วันนี้ (18 พ.ย.) สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยและสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ร่วมองค์กรสื่อ กรณี บอร์ด อสมท ยุติบทบาทการทำงาน ของ นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท
สืบเนื่องจากกรณี คณะกรรมการบริหาร บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กดดัน นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท ออกจากตำแหน่ง โดยให้เหตุผลว่า สไตล์การทำงานไม่สอดคล้องกับแนวทางของคณะกรรมการบริหาร จึงเสนอให้ลาออกโดยตกลงยินยอมจ่ายเงินชดเชยตอบแทนนั้น
สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย ในฐานะองค์กรวิชาชีพสื่อ มีความห่วงใยต่อกรณีที่เกิดขึ้นอย่างยิ่ง เพราะเหตุผลที่คณะกรรมการบริหารอ้างในการให้ นายวสันต์ พ้นจากตำแหน่ง ยังไม่สามารถสร้างความชัดเจนให้กับสาธารณะได้ว่าเป็นสาเหตุที่แท้จริง ทั้งนี้ การอ้างว่า แนวทางการทำงานไม่ตรงกันกับบอร์ด อสมท ไม่น่าเป็นความผิดร้ายแรงที่มีเหตุผลเพียงพอต่อการยุติบทบาทหรือการปลด นายวสันต์ ออกจากตำแหน่งเนื่องจากบอร์ดได้แถลงอย่างชัดเจนว่านายวสันต์ไม่ได้มีความผิดหรือไม่ได้มีปัญหาด้านการบริหารงานแต่อย่างได
สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย จึงมีความห่วงใยว่าหากไม่สามารถชี้แจงถึงเหตุผลที่แท้จริงในการให้ยุติบทบาทกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท ในครั้งนี้ได้ น่าจะทำให้เชื่อได้ว่ามีการปลดหรือการบีบให้ออก และมีการเมืองเข้าไปแทรกแซง เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมามีข่าวความพยายามจะให้นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ ออกจากตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท มาโดยตลอด
ดังนั้น การบริหารหรือการกำกับดูแลทิศทางขององค์กรสื่อแห่งนี้ จึงควรต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใสและมีธรรมาภิบาล เพราะการบีบบังคับกดดันให้ผู้บริหารระดับสูงออกจากตำแหน่งดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างมากต่อความต่อเนื่องในการบริหารงานและส่งผลต่อความน่าเชื่อถือขององค์กรต่อสาธารณะ
องค์กรวิชาชีพสื่อทั้ง 3 สมาคมข้างต้น จึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการ บมจ.อสมท ได้อธิบายต่อสาธารณะถึงเหตุผลที่ชัดเจนต่อการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งดังกล่าวเพื่อเป็นหลักประกันพื้นฐานในเรื่องการปกป้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพสื่อ รวมทั้งพนักงานผู้ทำงานองค์กรสื่อไม่ให้ถูกแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองซึ่งได้รับการรับรองตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 และสร้างบรรทัดฐานที่เป็นแบบอย่างในการบริหารองค์กรสื่อ ซึ่งควรมีอิสระและปราศจากการแทรกแซงทางการเมืองหรืออำนาจจากกลุ่มอิทธิพลใดๆ
