บอร์ด "อสมท" ปลด “วสันต์ ภัยหลีกลี้” กลางอากาศ อ้างเห็นพ้องต้องกันทั้ง 2 ฝ่าย ให้ยุติบทบาทหน้าที่ภายใน 30 วัน มอบหมายงาน "ชิตณรงค์ " ดูแลงานแทน ก่อนเริ่มกระบวนการสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่
วานนี้ (13 พ.ย.) อสมท (MCOT) ได้มีการประชุมบอร์ด อสมท ขึ้น ตั้งแต่เวลา 13.00-18.00น. โดยหลังจากที่มีการประชุมเสร็จสิ้นแล้ว โฆษก บอร์ด อสมท ได้เป็นตัวแทนออกมาแถลงผลการประชุมแก่สื่อมวลชนได้รับทราบ โดยเฉพาะเรื่องของสถานะนายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ว่าจะหลุดจากตำแหน่งนี้หรือไม่ หลังจากที่มีกระแสข่าวออกมาเรื่องถูกบีบออกจากตำแหน่งดังกล่าวมาเป็นระยะๆ
นายธงทอง จันทรางศุ รองประธาน และโฆษก คณะกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่ได้ประชุมกัน ส่วนใหญ่จะเป็นวาระการประชุมปกติ ส่วนเรื่องสำคัญเกี่ยวกับตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่นั้น ทั้งทางคณะกรรมการบอร์ด อสมท และทางนายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ได้พูดคุยกันจนได้ความเห็นพ้องต้องกันว่า นายวสันต์ พร้อมที่จะยุติบทบาทหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ในอีก 30 วันนับจากนี้ โดยจะทำงานในวันที่ 14 ธ.ค.เป็นวันสุดท้าย หรือพ้นตำแหน่งมีผลในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ เป็นต้นไป
“จากการทำงานของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ในหลายๆ เดือนที่ผ่านมา บอร์ด อสมท พบว่า วิธีการทำงานของนายวสันต์ ในฐานะกรรมการผู้อำนวยการใหญ่นี้ มีความแตกต่างกับวิธีการทำงานของคณะกรรมการ บอร์ด อสมท ซึ่งในรายละเอียดของความแตกต่างนั้น ไม่ขอพูดถึง ซึ่งวิธีการทำงานที่แตกต่างกันนี้ไม่ได้มองว่าใครถูกหรือใครผิด แต่เมื่อต่างฝ่ายต่างมีวิธีการทำงานแตกต่างกันแบบนี้ แต่เพื่อทำให้องค์กร คล่องตัว และก้าวต่อไปให้ได้ จึงได้มีการหารือร่วมกันทั้งคณะกรรมการบอร์ด อสมท และนายวสันต์ จึงได้เห็นพ้องต้องกันว่า นายวสันต์จะขอยุติบทบาทหน้าที่ในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท ในอีก 30 วันหลังจากนี้”
โดยระยะเวลาการทำงานในช่วง 30 วันหลังจากนี้ นายวสันต์จะทำงานและเคลียร์เอกสารและการทำงานต่างๆให้เรียบร้อย เพื่อส่งต่อให้กับผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่งนี้ต่อไป
สำหรับเงื่อนไขสัญญาของนายวสันต์ ในหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท ที่พ้นวาระหน้าที่ก่อนกำหนดนั้น ตามเงื่อนไขจะมีการชดเชยค่าตอบแทนให้ตามระเบียบ ซึ่งต้องการให้มองว่า การยุติบทบาทหน้าที่ครั้งนี้ ไม่ใช่การปลด หรือการลาออก แต่เป็นการเห็นพ้องต้องกันทั้ง 2 ฝ่าย เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น จะไม่สามารถรับค่าชดเชยครั้งนี้ได้
นายวิทยาธร ท่อแก้ว กรรมการ MCOT กล่าวว่า การยุติบทบาทการทำหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ MCOT เนื่องจากแนวทางการทำงานไม่ตรงกัน แต่ตามข้อสัญญาว่าจ้าง
"เป็นการตกลงพูดกันด้วยดีและนายวสันต์ก็ร่วมรับรู้ตลอดการหารือ แต่หลังจากนี้อีก 1 เดือนก็ยังให้เครดิตคุณวสันต์ในฐานะผอ. แล้วค่อยมาพูดกันเรื่องสรรหาคนใหม่ ยืนยันไม่ได้เป็นมติจากบอร์ดฝ่ายเดียว แต่เป็นการหารือร่วมกันและก็ได้ข้อตกลง" นายวิทยาธรกล่าว
ทั้งนี้ หลังจากที่นายวสันต์ พ้นจากตำแหน่งแล้ว จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการหาผู้ดำรงตำแหน่งแทนไปก่อน คือ นายชิตณรงค์ คุณะกฤดาธิการ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รักษาการในตำแหน่งนี้ไปก่อน หลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการสรรหา ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท ต่อไป โดยระยะเวลาในการสรรหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ครั้งนี้ ตามแผนไม่มีกรอบเวลาที่แน่ชัด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังนายธงทองได้ให้สัมภาษณ์ ได้พยายามขอสัมภาษณ์นายวสันต์ด้วย แต่ทางนายวสันต์ไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ โดยมีท่าทีนิ่งแต่สีหน้าค่อนข้างเครียด
อย่างไรก็ตาม สำหรับการเข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของนายวสันต์ ภัยหลีกนี้ เริ่มเข้ามาทำหน้าที่อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. 2550 เป็นต้นมา ซึ่งผลการทำงานที่ผ่านมา จากการประเมิณของบอร์ด อสมท จัดได้ว่าอยู่ในขึ้นดีมา หรือมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 80% ตลอดมา โดนในส่วนของผลประกอบการของอสมท ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งนั้น ถือว่ามีการเติบโตและมีกำไรมาโดยตลอด
วานนี้ (13 พ.ย.) อสมท (MCOT) ได้มีการประชุมบอร์ด อสมท ขึ้น ตั้งแต่เวลา 13.00-18.00น. โดยหลังจากที่มีการประชุมเสร็จสิ้นแล้ว โฆษก บอร์ด อสมท ได้เป็นตัวแทนออกมาแถลงผลการประชุมแก่สื่อมวลชนได้รับทราบ โดยเฉพาะเรื่องของสถานะนายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ว่าจะหลุดจากตำแหน่งนี้หรือไม่ หลังจากที่มีกระแสข่าวออกมาเรื่องถูกบีบออกจากตำแหน่งดังกล่าวมาเป็นระยะๆ
นายธงทอง จันทรางศุ รองประธาน และโฆษก คณะกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่ได้ประชุมกัน ส่วนใหญ่จะเป็นวาระการประชุมปกติ ส่วนเรื่องสำคัญเกี่ยวกับตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่นั้น ทั้งทางคณะกรรมการบอร์ด อสมท และทางนายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ได้พูดคุยกันจนได้ความเห็นพ้องต้องกันว่า นายวสันต์ พร้อมที่จะยุติบทบาทหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ในอีก 30 วันนับจากนี้ โดยจะทำงานในวันที่ 14 ธ.ค.เป็นวันสุดท้าย หรือพ้นตำแหน่งมีผลในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ เป็นต้นไป
“จากการทำงานของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ในหลายๆ เดือนที่ผ่านมา บอร์ด อสมท พบว่า วิธีการทำงานของนายวสันต์ ในฐานะกรรมการผู้อำนวยการใหญ่นี้ มีความแตกต่างกับวิธีการทำงานของคณะกรรมการ บอร์ด อสมท ซึ่งในรายละเอียดของความแตกต่างนั้น ไม่ขอพูดถึง ซึ่งวิธีการทำงานที่แตกต่างกันนี้ไม่ได้มองว่าใครถูกหรือใครผิด แต่เมื่อต่างฝ่ายต่างมีวิธีการทำงานแตกต่างกันแบบนี้ แต่เพื่อทำให้องค์กร คล่องตัว และก้าวต่อไปให้ได้ จึงได้มีการหารือร่วมกันทั้งคณะกรรมการบอร์ด อสมท และนายวสันต์ จึงได้เห็นพ้องต้องกันว่า นายวสันต์จะขอยุติบทบาทหน้าที่ในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท ในอีก 30 วันหลังจากนี้”
โดยระยะเวลาการทำงานในช่วง 30 วันหลังจากนี้ นายวสันต์จะทำงานและเคลียร์เอกสารและการทำงานต่างๆให้เรียบร้อย เพื่อส่งต่อให้กับผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่งนี้ต่อไป
สำหรับเงื่อนไขสัญญาของนายวสันต์ ในหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท ที่พ้นวาระหน้าที่ก่อนกำหนดนั้น ตามเงื่อนไขจะมีการชดเชยค่าตอบแทนให้ตามระเบียบ ซึ่งต้องการให้มองว่า การยุติบทบาทหน้าที่ครั้งนี้ ไม่ใช่การปลด หรือการลาออก แต่เป็นการเห็นพ้องต้องกันทั้ง 2 ฝ่าย เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น จะไม่สามารถรับค่าชดเชยครั้งนี้ได้
นายวิทยาธร ท่อแก้ว กรรมการ MCOT กล่าวว่า การยุติบทบาทการทำหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ MCOT เนื่องจากแนวทางการทำงานไม่ตรงกัน แต่ตามข้อสัญญาว่าจ้าง
"เป็นการตกลงพูดกันด้วยดีและนายวสันต์ก็ร่วมรับรู้ตลอดการหารือ แต่หลังจากนี้อีก 1 เดือนก็ยังให้เครดิตคุณวสันต์ในฐานะผอ. แล้วค่อยมาพูดกันเรื่องสรรหาคนใหม่ ยืนยันไม่ได้เป็นมติจากบอร์ดฝ่ายเดียว แต่เป็นการหารือร่วมกันและก็ได้ข้อตกลง" นายวิทยาธรกล่าว
ทั้งนี้ หลังจากที่นายวสันต์ พ้นจากตำแหน่งแล้ว จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการหาผู้ดำรงตำแหน่งแทนไปก่อน คือ นายชิตณรงค์ คุณะกฤดาธิการ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รักษาการในตำแหน่งนี้ไปก่อน หลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการสรรหา ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท ต่อไป โดยระยะเวลาในการสรรหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ครั้งนี้ ตามแผนไม่มีกรอบเวลาที่แน่ชัด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังนายธงทองได้ให้สัมภาษณ์ ได้พยายามขอสัมภาษณ์นายวสันต์ด้วย แต่ทางนายวสันต์ไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ โดยมีท่าทีนิ่งแต่สีหน้าค่อนข้างเครียด
อย่างไรก็ตาม สำหรับการเข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของนายวสันต์ ภัยหลีกนี้ เริ่มเข้ามาทำหน้าที่อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. 2550 เป็นต้นมา ซึ่งผลการทำงานที่ผ่านมา จากการประเมิณของบอร์ด อสมท จัดได้ว่าอยู่ในขึ้นดีมา หรือมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 80% ตลอดมา โดนในส่วนของผลประกอบการของอสมท ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งนั้น ถือว่ามีการเติบโตและมีกำไรมาโดยตลอด