อสมท.รุกหนักธุรกิจทีวี ยันไม่ปรับลดรายได้ ชูซีซันนอลโปรแกรมโกยรายได้ไตรมาสสี่ สวนพิษเศรษฐกิจเพิ่มสัดส่วนรายการบันเทิง หวังดูดยอดโฆษณาและฐานคนดูเพิ่ม หลังปรับลดรายได้ธุรกิจวิทยุไปแล้ว ทั้งปีมั่นใจรายได้เติบโต 15% ด้านมีเดีย ออฟ มีเดียส์ เตรียมนำเสนอ ช่อง 7 อีก 2 รายการ ช่วงปรับผังปีหน้า
นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาสสี่ปีนี้ ภาพรวมรายได้โทรทัศน์ของทางอสมท จะยังคงการเติบโตไว้ตามเดิม เพราะช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา มีรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะที่ในส่วนของธุรกิจวิทยุนั้นยอมรับว่ามีการปรับรายได้ลดลงบ้าง เนื่องจากช่วงไตรมาสสามได้รับผลกระทบหลายด้าน
ทั้งนี้ในส่วนของธุรกิจโทรทัศน์ช่วงไตรมาสสี่นี้ อสมท จะยังคงเน้นรายการประเภทซีซันนอลโปรแกรม เข้ามาช่วยเพิ่มรายได้ ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรมการประกวดนางสาวไทย ในช่วงปลายเดือนพ.ย.นี้ คอนเสิร์ตคาราบาว ที่จะมีขึ้นช่วงต้นปี 2552 และกิจกรรมข่าวข้นคลายหนาว ที่ร่วมกับทางเนชั่นช่วยเหลือประชาชน ซึ่งเฉพาะกิจกรรมการประกวดนางสาวไทย คาดว่าจะมีรายได้เข้ามาไม่ต่ำกว่า 20-30 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม จากสภาพเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ทางอสมท วางแผนที่จะปรับผังรายการให้มีรายการที่ดีมีคุณภาพ โดยจะมุ่งเพิ่มสัดส่วนรายการบันเทิงมากยิ่งขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ 32% ปีหน้าจะเพิ่มเป็น 40% ซึ่งการเพิ่มสัดส่วนรายการบันเทิงครั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นช่องทางที่ทำให้เอเจนซี่โฆษณาเข้ามามากยิ่งขึ้น รวมถึงฐานผู้ชมที่จะเพิ่มมากขึ้นด้วย
ล่าสุดทางอสมท ร่วมกับ บริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ จำกัด (มหาชน) ผลิตละครวัยรุ่น เรื่อง คลื่นฝันวันรัก ในช่วงไพร์มไทม์ เวลา 21.00-22.00น. วันเสาร์และวันอาทิตย์ เริ่มวันที่ 22พ.ย. นี้ เพื่อเป็นการขยายฐานสู่กลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่นมากขึ้นโดยเป็นรายการที่ออกอากาศ ต่อจาก ละครเรื่อง อุบัติรักข้ามขอบฟ้า ที่จะจบลง ซึ่งเรตราคาโฆษณาช่วงนี้ อยู่ที่นาทีละ 3 แสนบาท
ขณะที่ละครเรื่อง บางรักซอย9 มีราคาโฆษณาในกลุ่มละครสูงสุดที่ 3.3 แสนบาท อย่างไรก็ตามบริษัทฯจะพยายามมุ่งเน้นทำการตลาดและจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการต่อยอดรายได้อีกทางหนึ่ง
นายวสันต์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ภาพรวมรายได้ของอสมทในปีนี้ มองว่าจะยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้ กับอัตราการเติบโตที่ 15% ส่วนในปีหน้านั้นคงต้องรอดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้งว่าจะเป็นอย่างไร เบื้องต้นคาดว่าปีหน้าจะมีเป้าหมายอัตราการเติบโตที่ 10%
**มีเดียฯเร่งยื่นรายการช่องอื่น
นางชาลอต โทณวณิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากแผนการนำเสนอรายการของบริษัทฯไปยัง อสมท จำนวน 4 รายการนั้น ขณะนี้ทางอสมท ได้ตอบรับกลับมาแล้ว 1 รายการ คือ ละครเรื่อง คลื่นฝันวันรัก ส่วนแผนการดำเนินงานในช่วงนี้ ทางบริษัทฯกำลังเตรียมนำเสนอรายการกับทางช่อง 7 เพิ่มอีก 2 รายการ สำหรับป้อนเข้าสู่ผังรายการใหม่ต้นปีหน้า โดยรายการที่จะนำเสนอครั้งนี้เป็นรายการประเภทสาระให้ความรู้ เข้าใจง่าย ส่วนช่อง 5 ล่าสุดได้ยื่นเสนอรายการสาระเชิงข่าวไปให้พิจารณาแล้ว แต่ทาง มีแนวโน้มว่าทางช่องอาจจะทำการผลิตเอง
อย่างไรก็ตามปัจจุบันบริษัทฯ มีรายการผลิตป้อนสู่ฟรีทีวีทั้งหมด 8 รายการ ไม่รวมละครเรื่องคลื่นฝันวันรัก และละครอีกหนึ่งเรื่อง ชื่อ “รักนี้เคียงตะวัน” ที่ขายให้ทางช่อง 7 ไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนปีหน้าบริษัทฯจะพยายามนำเสนอรายการต่างๆสู่สถานีโทรทัศน์มากขึ้นเพื่อเป็นการเพิ่มฐานรายได้ให้กับองค์กรมากยิ่งขึ้น
นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาสสี่ปีนี้ ภาพรวมรายได้โทรทัศน์ของทางอสมท จะยังคงการเติบโตไว้ตามเดิม เพราะช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา มีรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะที่ในส่วนของธุรกิจวิทยุนั้นยอมรับว่ามีการปรับรายได้ลดลงบ้าง เนื่องจากช่วงไตรมาสสามได้รับผลกระทบหลายด้าน
ทั้งนี้ในส่วนของธุรกิจโทรทัศน์ช่วงไตรมาสสี่นี้ อสมท จะยังคงเน้นรายการประเภทซีซันนอลโปรแกรม เข้ามาช่วยเพิ่มรายได้ ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรมการประกวดนางสาวไทย ในช่วงปลายเดือนพ.ย.นี้ คอนเสิร์ตคาราบาว ที่จะมีขึ้นช่วงต้นปี 2552 และกิจกรรมข่าวข้นคลายหนาว ที่ร่วมกับทางเนชั่นช่วยเหลือประชาชน ซึ่งเฉพาะกิจกรรมการประกวดนางสาวไทย คาดว่าจะมีรายได้เข้ามาไม่ต่ำกว่า 20-30 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม จากสภาพเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ทางอสมท วางแผนที่จะปรับผังรายการให้มีรายการที่ดีมีคุณภาพ โดยจะมุ่งเพิ่มสัดส่วนรายการบันเทิงมากยิ่งขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ 32% ปีหน้าจะเพิ่มเป็น 40% ซึ่งการเพิ่มสัดส่วนรายการบันเทิงครั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นช่องทางที่ทำให้เอเจนซี่โฆษณาเข้ามามากยิ่งขึ้น รวมถึงฐานผู้ชมที่จะเพิ่มมากขึ้นด้วย
ล่าสุดทางอสมท ร่วมกับ บริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ จำกัด (มหาชน) ผลิตละครวัยรุ่น เรื่อง คลื่นฝันวันรัก ในช่วงไพร์มไทม์ เวลา 21.00-22.00น. วันเสาร์และวันอาทิตย์ เริ่มวันที่ 22พ.ย. นี้ เพื่อเป็นการขยายฐานสู่กลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่นมากขึ้นโดยเป็นรายการที่ออกอากาศ ต่อจาก ละครเรื่อง อุบัติรักข้ามขอบฟ้า ที่จะจบลง ซึ่งเรตราคาโฆษณาช่วงนี้ อยู่ที่นาทีละ 3 แสนบาท
ขณะที่ละครเรื่อง บางรักซอย9 มีราคาโฆษณาในกลุ่มละครสูงสุดที่ 3.3 แสนบาท อย่างไรก็ตามบริษัทฯจะพยายามมุ่งเน้นทำการตลาดและจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการต่อยอดรายได้อีกทางหนึ่ง
นายวสันต์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ภาพรวมรายได้ของอสมทในปีนี้ มองว่าจะยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้ กับอัตราการเติบโตที่ 15% ส่วนในปีหน้านั้นคงต้องรอดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้งว่าจะเป็นอย่างไร เบื้องต้นคาดว่าปีหน้าจะมีเป้าหมายอัตราการเติบโตที่ 10%
**มีเดียฯเร่งยื่นรายการช่องอื่น
นางชาลอต โทณวณิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากแผนการนำเสนอรายการของบริษัทฯไปยัง อสมท จำนวน 4 รายการนั้น ขณะนี้ทางอสมท ได้ตอบรับกลับมาแล้ว 1 รายการ คือ ละครเรื่อง คลื่นฝันวันรัก ส่วนแผนการดำเนินงานในช่วงนี้ ทางบริษัทฯกำลังเตรียมนำเสนอรายการกับทางช่อง 7 เพิ่มอีก 2 รายการ สำหรับป้อนเข้าสู่ผังรายการใหม่ต้นปีหน้า โดยรายการที่จะนำเสนอครั้งนี้เป็นรายการประเภทสาระให้ความรู้ เข้าใจง่าย ส่วนช่อง 5 ล่าสุดได้ยื่นเสนอรายการสาระเชิงข่าวไปให้พิจารณาแล้ว แต่ทาง มีแนวโน้มว่าทางช่องอาจจะทำการผลิตเอง
อย่างไรก็ตามปัจจุบันบริษัทฯ มีรายการผลิตป้อนสู่ฟรีทีวีทั้งหมด 8 รายการ ไม่รวมละครเรื่องคลื่นฝันวันรัก และละครอีกหนึ่งเรื่อง ชื่อ “รักนี้เคียงตะวัน” ที่ขายให้ทางช่อง 7 ไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนปีหน้าบริษัทฯจะพยายามนำเสนอรายการต่างๆสู่สถานีโทรทัศน์มากขึ้นเพื่อเป็นการเพิ่มฐานรายได้ให้กับองค์กรมากยิ่งขึ้น