xs
xsm
sm
md
lg

“ชวน” กรีด ส.ส.ทาสรับจ๊อบนิรโทษ ปั่นหัวมวลชนหวังเอาใจนาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 ชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์
ปธ.สภาที่ปรึกษา ปชป. เชื่อ “แม้ว” กัดไม่ปล่อยหลังหย่าเมีย กรีดไม่จนมุมแต่จนความจริงเหน็บ ประชาธิปไตยดีแต่ปาก ยัดเยียดข้อมูลด้านเดียวแขวะส.ส.ทาสรับจ๊อบจากฮ่องกง คิดนิรโทษกรรม แค่เอาใจ “นาย”

วันนี้ (18 พ.ย.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จดทะเบียนหย่ากับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ว่าเป็นเรื่องในครอบครัว ซึ่งไม่มีใครรู้ข้อเท็จจริงมีแต่การสันนิษฐานเท่านั้น แต่ตนไม่ขอสันนิษฐาน เพราะถ้าพิจารณาตามกฎหมายต้องดูจากความเห็นของอัยการ และฝ่าย คตส.ว่ามีผลกระทบต่อคดีที่มีการอายัดทรัพย์หรือไม่ อย่างไร แต่เจตนาที่แท้จริงคงไม่มีใครทราบ ซึ่งที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณก็สู้อยู่แล้ว ซึ่งเป็นสิทธิที่จะเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่ความต้องการของประเทศขณะนี้คือเรื่องของความชอบธรรม ดังนั้น การต่อสู้หรือการแข่งขันใดๆ ก็ทำได้แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของความชอบธรรมด้วย ซึ่งในทางคดี พ.ต.ท.ทักษิณก็สามารถตั้งทนายขึ้นมาแก้ต่างได้ ภายใต้กรอบของกฎหมายไม่ใช่อยู่นอกกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่จะมีการนำมวลชนมาเป็นเกราะกำบังให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อพ้นผิดในคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ รวมทั้งการที่รัฐบาลจะผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญจะทำให้เกิดปัญหาอย่างไร นายชวน กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ต่างกันมาก ทั้งการเคลื่อนไหวของมวลชนและของรัฐบาล เพราะรัฐบาลชุดนี้ชัดเจนว่า เป็นรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีนายกฯคนไหนที่มีความใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ มากขนาดนี้ ซึ่งอาจบอกได้ว่ารัฐบาลผู้ซึ่งมีอำนาจในขณะนี้เป็นคนของ พ.ต.ท.ทักษิณนั่นเอง ดังนั้นคนที่จะไปกลั่นแกล้ง พ.ต.ท.ทักษิณก็คือคนของ พ.ต.ท.ทักษิณเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะผู้มีอำนาจเป็นคนของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพียงแต่ว่า กระบวนการขององค์กรอิสระ เช่น ศาล ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ถูกแทรกแซงได้เหมือนในอดีต ที่รัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณจะตั้งใครเข้ามาทำหน้าที่ในองค์กรอิสระอย่างไรก็ได้แล้วใช้คนเหล่านั้นเป็นเครื่องมือ

“พ.ต.ท.ทักษิณก็มีสิทธิที่จะกลับมาเมืองไทย ถ้าสู้ตามวิถีทางที่ตรงไปตรงมาก็ไม่มีปัญหา เพียงแต่ในช่วงหลังการทำอะไรตามอำเภอใจของผู้มีอำนาจในสมัยนั้นคงทำไม่ได้ง่ายเท่าไหร่แล้ว เพราะการแทรกแซงศาลและอัยการเป็นเรื่องยาก ดังนั้น หาก พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับประเทศ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ชาวบ้านมาเรียกร้องให้ ควรตัดสินใจด้วยตัวเองหากเชื่อมั่นว่าไม่ทำผิดก็กลับมาสู้คดีได้ตลอดเวลา และการจะเรียกร้องให้พ้นผิดไม่สามารถทำได้ เพราะบ้านเมืองปกครองด้วยระบบนิติธรรม ความผิดเป็นอย่างไรก็ต้องเป็นอย่างนั้น แต่ขณะนี้ก็มองเห็นอยู่ว่ามีสมาชิกของรัฐบาลที่ออกมาพยายามให้คนเข้าชื่อเพื่อออกกฎหมายนิรโทษกรรม ก็ชัดเจนว่าถ้าเสนอในนาม ส.ส.ก็จะมีปัญหา จึงใช้ประชาชนเสนอกฎหมายแทน เหมือนที่นายกฯชอบอ้างว่าตัวเองไม่เกี่ยวข้อง แต่รัฐบาลในระบบรัฐสภาต้องอาศัยเสียงข้างมาก ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นกฎหมายใดถ้ารัฐบาลไม่เห็นชอบก็ออกไม่ได้เพราะเสียงข้างมากคือรัฐบาล ดังนั้นสิ่งที่นายกฯ พูดจึงสวนทางกับความจริงตลอดเวลา” นายชวน กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในภาวะจนมุมหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ไม่คิดว่าจะมีอะไรที่ทำให้จนมุม เพราะทุกเรื่องที่มีสิทธิในฐานะประชาชนที่จะต่อสู้ในข้อกล่าวหาตามกระบวนการ ถ้าจะจนก็คือเรื่องของความจริง เพราะแม้จะปฏิเสธว่าความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น แต่ความจริงมันเป็นอย่างนั้นก็คิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีข้อหยิบยกมาอ้างเพื่อสู้คดีได้ ซึ่งกฎหมายก็เปิดช่องให้หาหลักฐานใหม่มาอุทธรณ์คดีที่จะครบกำหนดในวันที่ 20 นี้ได้

“ผมคิดว่าถ้าจะมีการนำมวลชนเข้ามาเป็นเกราะกำบังก็ถือว่าอยู่นอกกฎหมาย หรือกระบวนการยุติธรรม เพราะมีแนวทางอยู่แล้ว ไม่ใช่ใครจะเข้าชื่อแล้วมาเรียกร้องเพื่อปฏิเสธความจริง ก็ทำได้เพียงแค่เรียกร้องขอความเป็นธรรม แต่ความจริงกับเป็นการเรียกร้องของความเป็นธรรมต้องไปด้วยกัน เราจะปฏิเสธความจริงแต่กลับมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมก็สวนทางกัน ผมยังเชื่อว่า ส.ส.คงไม่ออกกฎหมายนิรโทษกรรมด้วยตัวเอง แต่คงใช้ชาวบ้านมาเสนอกฎหมายมากกว่า และการเสนอสิ่งเหล่านี้ก็เพียงเพื่อเอาใจ พ.ต.ท.ทักษิณเท่านั้น เนื่องจากบางทีไม่รู้ว่าไปฮ่องกงแต่ละครั้งได้อะไรกันมาบ้าง” นายชวนกล่าว

ส่วนการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะโฟนอินเข้ารายการความจริงวันนี้สัญจรในวันที่ 10 ธันวาคมนั้น เป็นสิทธิที่จะดำเนินการได้ แต่ความเหมาะสมหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องคำนึงถึง และพื้นฐานเรื่องที่จะพูดสวนทางกับระบอบประชาธิปไตยหรือไม่เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เช่น การอ้างว่าเป็นประชาธิปไตยซึ่งสวนทางกับความเป็นจริง เพราะยุคที่ พ.ต.ท.ทักษิณมีอำนาจ สิทธิเสรีภาพของฝ่ายต่างๆ ไม่ได้เป็นอย่างปัจจุบัน ต้องยอมรับว่าแม้จะเป็นรัฐบาลนายสมชายในยุคนี้การวิพากษ์วิจารณ์ของสื่อก็ทำได้มากกว่าในสมัยของ พ.ต.ท.ทักษิณซึ่งตอนนั้นทำไม่ได้ การครอบงำสื่อทำอยู่ฝ่ายเดียวเป็นผลที่ทำให้คนฟังข้างเดียวมาตลอด 5 ปีกว่า

ส่วนการเปิดตัวมูลนิธิของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น นายชวน กล่าวว่า อะไรก็ตามที่เป็นสิทธิทำได้ภายใต้กรอบกฏหมายสามารถทำได้ ไม่ว่าจะมีวัตถุประสงค์ลึกๆ อย่างไรก็ตาม แต่เป็นเป็นสิทธิตามกฎหมายก็ทำได้ ทั้งนี้เห็นว่าการให้ความรู้ตรงไปตรงมาเป็นเรื่องที่ดี เพราะปัญหาวันนี้สังคมไม่ได้รับรู้ความจริงทั้งหมดรู้เฉพาะบางส่วนข้างเดียว ทำให้การตัดสินใจของคนไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง
กำลังโหลดความคิดเห็น