“หนึ่ง” ชายวัย 33 ปี อาชีพขายเปิดร้านขายอะไหล่รถยนต์ เป็นการ์ดอาสาที่ร่วมรักษาความปลอดภัยในการชุมนุมตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา มีเพียง 4 วันที่เขาลาไปทำภารกิจส่วนตัว นอกนั้นร้อยกว่าวันที่เหลือ เขามาทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ทุกคืนไม่เคยขาด
เขากล่าวถึงสาเหตุของการมาร่วมชุมนุมว่า เพราะต้องการทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ เมื่อเขาพบว่าพันธมิตรฯ มีจุดยืนที่ไม่แตกต่างจากเขา จึงได้ตัดสินใจมาร่วมชุมนุม และสมัครเป็นการ์ดอาสา เพื่อให้ตัวเขาได้สามารถทำประโยชน์ให้กับการชุมนุมต่อสู้ครั้งนี้ได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งตัวเขาเองมีความพร้อมในหลายด้าน คือเขาเองยังไม่มีครอบครัว อาศัยอยู่กับพี่ชายอีก 1 คน ซึ่งสองคนพี่น้องก็มีหัวใจเป็นพันธมิตรฯ เหมือนกัน พี่ชายจึงไม่เคยกล่าวห้ามที่เขาจะมาทำหน้าที่นี้ ดังนั้นทุกวันที่เสร็จจากงานประจำในการเปิดร้านขายอะไหล่รถยนต์ เขาก็จะอาบน้ำแต่งตัว แล้วเดินทางมาทำหน้าที่การ์ดพันธมิตรฯ
ต่อคำถามว่า ได้รับผลตอบแทนอะไรบ้างจากการมาชุมนุม คำตอบที่ออกมาจากชายหนุ่มคนนี้ก็คล้ายคลึงกับการ์ดอาสาคนอื่น ๆ นั่นคือ “ได้ความภูมิใจ” แม้ทุกวันนี้จะมีข่าวในเชิงลบ ทำให้ภาพการ์ดอาสาของพันธมิตรฯ ดูไม่ดีไปมากมาย แต่โดยส่วนตัวแล้ว ลึก ๆ เขารู้ตัวอยู่ตลอดเวลาว่าการ์ดอาสาที่เป็นการ์ดตัวจริง จะไม่มีทางทำเรื่องที่รุนแรง หรือสร้างความเดือดร้อน ระรานให้กับใครเด็ดขาด เพราะเขาและการ์ดทุกคน จะถูกกำชับจากหัวหน้าการ์ด และแกนนำเสมอ ว่าเราต้องทำหน้าอยู่บนหลักของ สันติ – อหิงสา
หนุ่มวัยกลางคน พูดน้อยผู้นี้ จึงฝากคำพูดสั้น ๆ ขอให้เราช่วยสื่อสารแทนการ์ดอาสาพันธมิตรฯ ทุกคนว่า “ผมอยากให้ทุกคน ฟังข่าวอย่างใจเป็นธรรม เพราะข่าวหลายอย่างของการ์ดพันธมิตรฯ ที่บางสื่อเสนอออกไปนั้น ไม่ใช่ความจริงเสมอไป อยากให้สังคมเปิดใจรับฟังข้อเท็จจริงจากทุกฝ่าย อย่ามองแค่ภาพลักษณ์บางอย่างภายนอก อย่าเชื่อแค่การฟังข่าวด้านเดียว หรือเพียงค่ำที่คนเล่าลือกันเท่านั้น”