xs
xsm
sm
md
lg

"พี่สัน เมืองสุพรรณ" : ภาพลักษณ์การ์ดพันธมิตรฯ เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“พี่สัน” ชายร่างใหญ่ ท่าทางใจดีผู้นี้ คือเจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ที่เดินทางจากสุพรรณบุรี มาทำหน้าที่การ์ดอาสาในการชุมนุมพันธมิตรฯ ทุกวัน มากว่า 6 เดือนแล้ว

พี่สัน เล่าให้เราฟังว่า เขาเดินทางมาทำหน้าที่การ์ดอาสาให้กับการชุมนุมพันธมิตรฯ ตั้งแต่เมื่อครั้งการต่อสู้ขับไล่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แล้ว ด้วยเพราะเขาเองมีอุดมการณ์ที่เหมือนกับพันธมิตรฯ คนอื่น ๆ นั่นคือ ต้องการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติในทุกรูปแบบ เมื่อเห็นว่ารัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ มีการทุจริตคดโกงประเทศ รวมไปถึงต้องการแปรรูปองค์กรรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ที่เป็นสมบัติของชาติ เพื่อหวังนำไปหาผลประโยชน์ให้แก่นักลงทุนเพียงบางกลุ่ม เขาจึงออกมาร่วมต่อสู้กับพันธมิตรฯ

สำหรับสาเหตุที่สมัครเป็นการ์ดอาสานั้น พี่สันให้เหตุผลว่า ตัวเขาเองเป็นคนที่ค่อนข้างมีอุดมการณ์และมุ่งมั่นในสิ่งที่ทำ เมื่อเขาออกมาร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ แล้วก็อยากทำทุกอย่างให้เต็มที่ เมื่อทางแกนนำประกาศรับสมัครการ์ดอาสามาทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุม เขาคิดว่าตัวเองมีความสามารถพอที่จะทำได้ จึงไม่รีรอที่จะสมัครทำหน้าที่ดังกล่าว มาถึงการชุมนุมในครั้งนี้ก็เช่นกัน

เดินทางไปกลับกรุงเทพฯ – สุพรรณฯ ทุกวัน ? พี่สันยิ้มรับคำถามนี้ ก่อนจะกล่าวถึงภารกิจประจำวันให้เราฟังว่า ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา เขายังคงทำงานอยู่ กฟภ.จังหวัดสุพรรณบุรี ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เมื่อเลิกงานแล้วก็จะกลับไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า พบปะกับภรรยา และ ลูกชายวัน 8 และ 10 ปีสักครู่ ก่อนที่จะออกเดินทางโดยรถตู้ประจำทาง มาทำหน้าที่การ์ดอาสาในกรุงเทพฯ โดยเขาจะทำหน้าที่หลัก ในการรักษาความปลอดภัย-ดูแลความเรียบร้อยบริเวณโดยรอบเวทีการชุมนุม

เมื่อถึงเวลาประมาณเที่ยงคืน เมื่อการปราศรัยบนเวทีเริ่มเสร็จสิ้นลง บรรยากาศการชุมนุมค่อนข้างสงบ เนื่องจากผู้ชุมนุมเริ่มนอนหลับพักผ่อนกันแล้ว เขาก็จะตรวจตราดูแลความเรียบร้อยอีกเล็กน้อย ก่อนที่จะเดินทางไปนอนหลับพักผ่อนเอาแรง ที่บริเวณเต็นท์ของ สน.พันธมิตรฯ ซึ่งที่นั่นจะมีการ์ดอาสาจำนวนมาก ที่ต้องตื่นขึ้นไปทำงานตั้งแต่เข้าเช่นเดียวกับเขา เข้าไปนอนหลับพักผ่อน ก่อนที่เขาจะตื่นนอนเพื่อเตรียมตัว นั่งรถตู้กลับไปทำงานที่จังหวัดสุพรรณบุรีในเวลา ตี 5

ไม่เหนื่อยบ้างหรือ ครอบครัวว่าอย่างไรบ้าง พี่สัน กล่าวว่า ในช่วงแรกก็มีเหนื่อยบ้าง แต่เมื่อพ้น 1 เดือนแรกมาแล้ว เขาก็เริ่มปรับตัวได้ อาศัยหลับบนรถตู้เป็นหลัก จึงทำให้การมาทำหน้าที่ทุกวันนี้เริ่มเป็นความเคยชิน ส่วนเรื่องของครอบครัวนั้น พี่สัน กล่าวอย่างภูมิใจว่า นับเป็นโชคดี ที่ภรรยาของเขา เข้าใจ และให้อิสระกับเขาอย่างเต็มที่ เพราะภรรยาทราบมาตั้งแต่ก่อนที่จะแต่งงานกันแล้ว ว่าเขาเป็นคนที่มีอุดมการณ์ในเรื่องการรักษาผลประโยชน์ของชาติ

ได้อะไรจากการมาทำหน้าที่เป็นการ์ดอาสา “การมาทำหน้าที่นี้ ถึงแม้จะไม่เคยได้รับเงิน หรือค่าจ้างตอบแทน แต่สิ่งที่ได้รับคือความภาคภูมิใจ ประสบการณ์ดี ๆ ได้มาพบปะ ผู้คนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ได้มาสู้ร่วมกัน ซึ่งนั่นถือเป็นสิ่งที่มีค่าและคุ้มค่าแล้วที่มาทำหน้าที่นี้”

รู้สึกอย่างไร ที่ภาพลักษณ์ของการ์ดอาสาในวันนี้ ดูไม่ค่อยดีนักในสายตาของคนในสังคม เกิดความท้อแท้บ้างหรือไม่ พี่สันตอบเราว่า “การที่เรามาทำหน้าที่นี้ มันคือการมาด้วยจิตอาสา เราต้องรู้ว่าเราทำเพื่ออะไร เราทำเพื่อใคร เมื่อเรารู้แล้วเราก็จะไม่ท้อเลย ผมคิดอยู่อย่างเดียว ว่าอย่างไรเสียความดีก็ย่อมเป็นฝ่ายชนะอย่างแน่นอน ดังนั้นผมไม่ท้อ ถ้าท้อผมคงไม่มา”

ส่วนเรื่องของข่าวคราวต่างๆ ที่ออกไปในเชิงด้านลบของการ์ดอาสานั้น ตนอยากจะบอกอธิบายให้สังคมได้รับรู้ว่า การ์ดที่ไปก่อเรื่องหรือสร้างความวุ่นวายตามที่เป็นข่าวนั้น ไม่ใช่การ์ดของพันธมิตรฯ เพราะคนที่เป็นการ์ดอาสาทุกคนจะได้รับนโยบายที่เหมือนกัน นั่นคือ ต้องไม่มีการพกพาอาวุธ หรือใช้ความรุนแรง เพราะการชุมนุมของเราเป็นการชุมนุมแบบสันติ–อหิงสา ดังนั้นคนที่พกอาวุธ หรือใช้ความรุนแรง ทางหัวหน้าการ์ดจะปลดออกทันที ซึ่งคนที่ถูกปลดไปเหล่านี้ นี่เองที่ออกไปก่อคดีจนสร้างความเสียหายให้กับการ์ดอาสาของพันธมิตรฯ

ทั้งที่เรื่องแบบนี้ได้มีข้อตกลงกันไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่าการ์ดอาสา มีหน้าที่รักษาความปลอดภัยในที่ชุมนุมเท่านั้น แต่หากการ์ดออกไปกระทำความผิดที่อื่น การกระทำนั้นถือเป็นความรับผิดชอบส่วนตัว ซึ่งไม่สามารถมากล่าวอ้างได้ว่าทำในนามของการ์ดพันธมิตรฯ

ดังนั้นเรื่องกระแสข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับการ์ดพันธมิตรฯ ตนมองว่าการพูดไปในตอนนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็อาจมีอีกฝ่ายมองว่าเป็นการพูดเพื่อแก้ตัว ดังนั้นตนจึงอยากให้ใช้เวลาเป็นเครื่องตัดสิน เพราะเชื่อว่าอย่างไรเสียวันหนึ่งความจริงก็ต้องปรากฏออกมาอยู่ดี แต่ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้น อยากบอกสังคมว่า ในเรื่องกระแสข่าวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับการ์ดพันธมิตรฯ นั้น อยากให้ทุกคนอย่ามองประเด็นข่าวเพียงด้านเดียว ต้องมองให้รอบด้าน เมื่อได้รับข่าวจากสื่อใดๆ ก็ตาม จะต้องใช้สติปัญญาพิจารณาประกอบกับเหตุผลให้รอบด้านก่อนที่จะตัดสินใจเชื่อ เพราะก็ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันก็ยังมีสื่อบางสื่อที่อาจเต้าข่าวหรือเสนอข่าวที่บิดเบือนได้เช่นกัน

กำลังโหลดความคิดเห็น