“ถาวร” ยัน “แม้ว” หย่า “หญิงอ้อ” ไม่มีผลต่อคดี เชื่อ เหตุผลทนให้ “แม้ว” เล่นการเมืองต่อไม่ไหว แค่ข้ออ้างให้ดูสวยหรู ด้าน “เทพไท” ระบุ แค่สร้างภาพ เชื่อ “แม้ว” เตรียมชักธงรบฝ่ายตรงข้าม หวั่นการเมืองระอุยิ่งขึ้น
วันนี้ (16 พ.ย.) นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา และคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา จดทะเบียนหย่ากันที่สถานกงสุลใหญ่ไทย ณ เมืองฮ่องกง ว่า น่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว หรือเหตุผลของครอบครัว ไม่เกี่ยวกับคดีความ หรือเรื่องข้อกฎหมาย เพราะการหย่าดังกล่าวไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคดีความได้ เนื่องจากถูกตัดสินไปแล้ว และคดีอาญาถือเป็นความผิดเฉพาะตัว ขณะที่คดีแพ่งก็เหลือเพียงการยึดทรัพย์จากความร่ำรวยผิดปกติ ดังนั้น การหย่าขาดไม่ได้ทำให้ทรัพย์สินดังกล่าวถูกแบ่งแยกเป็นของคนใดคนหนึ่ง ทั้งสองจึงมีหน้าที่พิสูจน์ว่าได้ทรัพย์สินเหล่านี้มาโดยชอบหรือไม่ มีการเสียภาษีหรือไม่ ส่วนข้ออ้างที่ว่าเป็นเพราะคุณหญิงพจมาน ทนไม่ไหวที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเล่นการเมืองต่อไปนั้น ตนคิดว่าเป็นเพียงข้ออ้างที่ทำให้ดูสวยหรูเท่านั้น ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวไม่น่าจะมีผลดีต่อตัวอดีตนายกฯ เพราะทำให้กลายเป็นประเด็นที่ทำให้ถูกซุบซิบนินทา
ด้าน นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่มีใครออกมายืนยันว่าสาเหตุที่แท้จริงหรืออะไร แต่ไม่น่าเชื่อว่า การหย่าของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเป็นเรื่องความแตกแยกในครอบครัว แต่น่าจะเป็นเรื่องของการสร้างภาพมากกว่า เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ฉายาว่าเป็นจอมสร้างภาพอยู่แล้ว การหย่าเป็นเทคนิคตามกฎหมาย เหมือนกับนักธุรกิจทั่วไปที่หย่าเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนักธุรกิจการเมืองย่อมเล็งผลการหย่าเพื่อการธุรกิจ และการเมืองแน่นอน ตนเชื่อว่า เป็นพฤติกรรมอำพราง ดังนั้น การที่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี จะบอกว่า เป็นเรื่องส่วนตัวเหมือนกับกรณีที่บอกว่าเรื่องคลิปวิดีโอ พาผู้หญิงเข้าโรงแรมม่านรูดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ได้ คนระดับอดีตนากยกฯ หรือนายกรัฐมนตรีเป็นบุคคลสาธารณะ ดังนั้น เรื่องส่วนตัว กับเรื่องส่วนรวม จึงแทบจะแยกกันไม่ออก ถ้าจะให้ส่วนรวมดี ส่วนตัวก็จะต้องดีด้วย
“การหย่าของ พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะเป็นเรื่องการส่งสัญญาณทางการเมือง ว่า พร้อมที่จะชักธงรบกับคนที่เห็นต่าง หรืออยู่ตรงข้ามตัวเองเต็มที่ ตั้งแต่ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ และบุคคลในชนชั้นสูงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยกล่าวอ้างไว้ ซึ่งการเมืองวันข้างหน้าน่าจะรุนแรงมากขึ้น เพราะดูจากบุคคลต่างๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองได้เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ฮ่องกง เป็นการส่งสัญญาณว่าบุคคลเหล่านี้ที่นิยมความรุนแรงในการเคลื่อนไหวทางการเมือง น่าจะรับนโยบายมาเคลื่อนไหว เพื่อนสนับสนุนและช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างแน่นอน ดังนั้น การหย่าครั้งนี้จะทำให้การเคลื่อนไหวต่างๆ มีความอิสระและคล่องตัวขึ้น” ผู้ช่วยเลขาธิการ ปชป.กล่าว
วันนี้ (16 พ.ย.) นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา และคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา จดทะเบียนหย่ากันที่สถานกงสุลใหญ่ไทย ณ เมืองฮ่องกง ว่า น่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว หรือเหตุผลของครอบครัว ไม่เกี่ยวกับคดีความ หรือเรื่องข้อกฎหมาย เพราะการหย่าดังกล่าวไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคดีความได้ เนื่องจากถูกตัดสินไปแล้ว และคดีอาญาถือเป็นความผิดเฉพาะตัว ขณะที่คดีแพ่งก็เหลือเพียงการยึดทรัพย์จากความร่ำรวยผิดปกติ ดังนั้น การหย่าขาดไม่ได้ทำให้ทรัพย์สินดังกล่าวถูกแบ่งแยกเป็นของคนใดคนหนึ่ง ทั้งสองจึงมีหน้าที่พิสูจน์ว่าได้ทรัพย์สินเหล่านี้มาโดยชอบหรือไม่ มีการเสียภาษีหรือไม่ ส่วนข้ออ้างที่ว่าเป็นเพราะคุณหญิงพจมาน ทนไม่ไหวที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเล่นการเมืองต่อไปนั้น ตนคิดว่าเป็นเพียงข้ออ้างที่ทำให้ดูสวยหรูเท่านั้น ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวไม่น่าจะมีผลดีต่อตัวอดีตนายกฯ เพราะทำให้กลายเป็นประเด็นที่ทำให้ถูกซุบซิบนินทา
ด้าน นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่มีใครออกมายืนยันว่าสาเหตุที่แท้จริงหรืออะไร แต่ไม่น่าเชื่อว่า การหย่าของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเป็นเรื่องความแตกแยกในครอบครัว แต่น่าจะเป็นเรื่องของการสร้างภาพมากกว่า เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ฉายาว่าเป็นจอมสร้างภาพอยู่แล้ว การหย่าเป็นเทคนิคตามกฎหมาย เหมือนกับนักธุรกิจทั่วไปที่หย่าเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนักธุรกิจการเมืองย่อมเล็งผลการหย่าเพื่อการธุรกิจ และการเมืองแน่นอน ตนเชื่อว่า เป็นพฤติกรรมอำพราง ดังนั้น การที่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี จะบอกว่า เป็นเรื่องส่วนตัวเหมือนกับกรณีที่บอกว่าเรื่องคลิปวิดีโอ พาผู้หญิงเข้าโรงแรมม่านรูดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ได้ คนระดับอดีตนากยกฯ หรือนายกรัฐมนตรีเป็นบุคคลสาธารณะ ดังนั้น เรื่องส่วนตัว กับเรื่องส่วนรวม จึงแทบจะแยกกันไม่ออก ถ้าจะให้ส่วนรวมดี ส่วนตัวก็จะต้องดีด้วย
“การหย่าของ พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะเป็นเรื่องการส่งสัญญาณทางการเมือง ว่า พร้อมที่จะชักธงรบกับคนที่เห็นต่าง หรืออยู่ตรงข้ามตัวเองเต็มที่ ตั้งแต่ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ และบุคคลในชนชั้นสูงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยกล่าวอ้างไว้ ซึ่งการเมืองวันข้างหน้าน่าจะรุนแรงมากขึ้น เพราะดูจากบุคคลต่างๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองได้เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ฮ่องกง เป็นการส่งสัญญาณว่าบุคคลเหล่านี้ที่นิยมความรุนแรงในการเคลื่อนไหวทางการเมือง น่าจะรับนโยบายมาเคลื่อนไหว เพื่อนสนับสนุนและช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างแน่นอน ดังนั้น การหย่าครั้งนี้จะทำให้การเคลื่อนไหวต่างๆ มีความอิสระและคล่องตัวขึ้น” ผู้ช่วยเลขาธิการ ปชป.กล่าว
