“มาร์ค” ยกนิ้ว “อภิรักษ์” สปิริตเยี่ยม ลั่นหนุนสู้เต็มที่ พิสูจน์ความบริสุทธิ์

“อภิสิทธิ์” ชื่นชม “อภิรักษ์” แสดงสปิริตไขก๊อก รักษามาตรฐานการเมือง ระบุ เสียใจที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ประกาศหนุนสู้เต็มที่พิสูจน์ความบริสุทธิ์ พร้อมเตรียมส่งคนลงเลือกตั้งอีกรอบ ปัด ทาบ “กรณ์” แค่พูดกันไปเอง

วันนี้ (12 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ว่า เราเห็นใจ นายอภิรักษ์ มาก ปัญหาเรื่องของการเปิดแอลซีตั้งแต่แรก เห็นได้ชัดว่า การตัดสินใจทางหนึ่งทางใดก็เป็นปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากปมต่างๆ ผูกไว้แล้ว แต่ขอยืนยันว่า พวกเราทุกคนเชื่อมั่นในตัวนายอภิรักษ์ และพร้อมที่จะช่วยต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ต่อไป โดยมีการเริ่มต้นดูคำแถลงของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งเราต้องเคารพการตัดสินใจขององค์กรอิสระ แต่เมื่อดูคร่าวๆ แล้ว มีความเชื่อว่ายังมีอีกหลายประเด็น ซึ่งทางพรรคจะได้นำเสนอ เพื่อให้ นายอภิรักษ์ ได้ใช้ในการต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในเรื่องนี้ทั้งหมด

“การตัดสินใจของ คุณอภิรักษ์ เป็นเรื่องที่ท่านต้องการจะเห็นบรรทัดฐาน หรือมาตรฐานของบ้านเมืองที่หลายฝ่ายต้องการเห็นในการเมืองไทย ผมถือว่าเป็นการตัดสินใจที่น่าชื่นชม และเป็นเรื่องที่อยากเห็นสังคมให้กำลังใจนักการเมืองที่พร้อมจะตัดสินใจเช่นนี้ เพราะจริงๆ แล้วไม่ใช่เรื่องง่าย ความคาดหวังต่างๆ ที่ประชาชนมีรวมทั้งผู้สนับสนุนคุณอภิรักษ์ เมื่อหลายคนมีความมั่นใจว่า อาจจะชนะคดีในวันข้างหน้าต่อไป และอาจคิดว่าไม่จำเป็นต้องตัดสินใจในทางนี้ แต่ที่ คุณอภิรักษ์ ตัดสินใจผมคิดว่าถูกต้อง และเป็นเรื่องที่จะเปิดโอกาสให้ประชาชนชาวกทม.ได้มีโอกาสเลือกผู้บริหารมาใหม่แทนที่จะอยู่กับความไม่แน่นอนเป็นเวลานาน” นายอภิสิทธิ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่า ทำให้ประชาชนเบื่อหน่ายหรือไม่ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ทำให้ประชาชนต้องเลือกตั้งใหม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราคงต้องเรียนอย่างตรงไปตรงมา ตนคิดว่าในวันที่เราตัดสินใจส่ง นายอภิรักษ์ ก็เป็นวันที่เราได้รับข่าวสารอย่างชัดเจนว่าทางอนุฯของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เห็นว่า นายอภิรักษ์ ไม่ผิด และคงจะไม่เป็นธรรมนัก ถ้าหากในสถานะล่าสุดเช่นนั้นจะปิดโอกาสนายอภิรักษ์ และคิดว่า การเลือกตั้งก็เป็นที่ทราบทั่วกันว่าประชาชนให้ความไว้วางใจ นายอภิรักษ์ ซึ่งเราก็เสียใจที่เหตุการณ์นี้ต้องมาเกิดขึ้น แต่อนาคตเป็นเรื่องที่ชาว กทม.ต้องตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง

เมื่อถามว่า เลือกตั้งใหม่พรรคยังมั่นใจหรือไม่ว่ายังรักษาที่นั่งผู้ว่าฯ กทม.ไว้ได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรามีหน้าที่เลือกบุคคลที่คิดว่าดีที่สุด ที่จะมารับใช้ชาว กทม.และ นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค ก็เป็นชื่อหนึ่งที่มีการพูดถึงกัน แต่ตนยังไม่ได้มีการพูดคุยกับนายกรณ์ มีแต่คนพูดถึงขึ้นมา ทั้งนี้ พรรคจะพิจารณาและตัดสินใจ ว่า ใครที่เราคิดว่าสามารถเข้ามาทำงานต่อจาก นายอภิรักษ์ ได้ ต่อข้อถามว่า หากพรรคส่ง นายกรณ์ ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ก็ต้องมีการเลือกตั้งซ่อมในเขตของนายกรณ์อีก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราพูดกันมากในเรื่องค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้ง แต่สำหรับประเทศประชาธิปไตย เรื่องนี้ถือว่าเป็นต้นทุนอย่างหนึ่งที่เราต้องแลกกับการที่เรามีการเมืองที่ยืดหยุ่น และเคลื่อนไหวได้ และเป็นการเมืองที่ทำให้คนกล้ารับผิดชอบ หรือกล้าที่จะตัดสินใจเพื่อมาตรฐานทางการเมืองมากขึ้น ดังนั้น ตรงนี้อาจเป็นปัจจัยประกอบ แต่เราคิดว่าเรื่องที่ใหญ่กว่านั้นคือการหาบุคคลที่ดีที่สุดให้กับชาว กทม.ซึ่งพรรคจะหาบุคคลที่จะมาลงสมัครให้เร็วที่สุด

ต่อข้อถามว่า จะพิจารณาจากบุคคลภายในพรรคหรือนอกพรรค นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังเป็นเรื่องที่เราพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับ นายอภิรักษ์ จึงค่อนข้างเร็วไปหน่อยที่จะพูดถึงบุคคลที่จะมาลงสมัครแทน แต่พรรคจะทำให้เร็วที่สุด ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคเปิด ถ้าใครสนใจหรือเรามีความคิดเห็นว่าคนนั้นคนนี้เหมาะสมก็จะไปทาบทาม แต่ในชั้นนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอก อย่างไรก็ตาม ตนตอบไม่ได้ว่าคนของพรรคที่จะส่งลงสมัครจะได้รับความไว้วางใจจากชาว กทม.อีกครั้งหรือไม่ แต่ตนให้ความมั่นใจได้ว่าพรรคยังมีความตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะรับใช้ชาว กทม.และจะเลือกคนที่จะเข้ามาทำงาน และสามารถสานงานต่อจากนายอภิรักษ์ได้ด้วย

เมื่อถามว่า การลาออกของนายอภิรักษ์ มีเงื่อนไข หลังจากงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนน่าจะเข้าใจว่า กทม.มีภารกิจสำคัญอยู่ในเรื่องนี้ ดังนั้น ในช่วงที่มีพระราชพิธีสำคัญเช่นนี้ กทม.ต้องมาพะวงกับเรื่องอื่นก็คงไม่เหมาะสม ทั้งนี้ ก็คงไม่มีเรื่องเข้ามาแอบแฝง แต่เป็นความตั้งใจของนายอภิรักษ์ ว่า อยากให้ กทม.ทุ่มเทเต็มที่ และเรื่องปัญหาอื่นๆ ที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ก็ต้องว่ากันหลังวันที่ 19 พ.ย.นี้ ต่อข้อถามว่าช่วงเวลาดังกล่าวอาจเป็นการเปิดช่องให้มีการฉวยโอกาสทุจริตการเลือกตั้งได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนหวังว่าคงจะไม่มีใครไปฉวยโอกาสอย่างนั้น ซึ่งทุกคนต้องช่วยกันตรวจสอบ แต่เชื่อว่าคงไม่มี

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนตัวของ นายอภิรักษ์ หากพิสูจน์ตัวเองแล้วว่าไม่ผิด แล้วจะกลับมาทำงานการเมืองใหม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ยืนยันว่า นายอภิรักษ์ ต่อสู้คดีแล้วได้ชัยชนะกลับมา จะเป็นบุคลากรสำคัญทางการเมือง เราได้เห็นความทุ่มเทความมุ่งมั่นตั้งใจ ความสามารถของ นายอภิรักษ์ และตนเชื่อว่า ถ้าพิสูจน์ตัวเองเรียบร้อยแล้ว เส้นทางทางการเมืองของนายอภิรักษ์ยังเป็นเส้นทางที่จะรับใช้พี่น้องประชาชนได้อีกมาก และพรรคประชาธิปัตย์จะให้โอกาสอย่างเต็มที่ เมื่อถามว่า จะให้นายอภิรักษ์กลับมาเล่นการเมืองในระดับชาติเลยหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จริงๆ แล้วไม่มีอะไรตายตัว เพราะเราไม่ทราบว่าเหตุการณ์และสถานการณ์ต่างๆ จะเป็นอย่างไร แต่ตนเชื่อว่า นายอภิรักษ์ ทำได้ไม่ว่าท้องถิ่นหรือระดับชาติ

ต่อข้อถามว่า การตัดสินใจของนายอภิรักษ์จะถือเป็นบรรทัดฐานที่อยากจะบอกอะไรกับนักการเมืองคนอื่นๆ บ้าง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อย่างน้อยเราหวังว่าจะเห็น แต่จริงๆ แล้วสำหรับใครไม่สำคัญ แต่สำคัญที่สุด คือ ประชาชนและสังคมน่าจะได้มีความหวังกับการเมือง เพราะที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าหลายเรื่องที่ทำให้ประชาชนหงุดหงิดผิดหวังคือ มาจากเรื่องพฤติกรรมของนักการเมือง และการตัดสินใจในวันนี้ของนายอภิรักษ์ตนหวังว่าจะช่วยให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นในนักการเมืองอยู่บ้าง ซึ่งการตัดสินใจของนายอภิรักษ์ครั้งนี้จะเป็นประโยชน์สำคัญ

เมื่อถามว่า คิดว่า จะเป็นผลดีต่อการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งใหม่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า วันนี้ต้องเรียนตรงๆ ว่า ไม่ได้มองไปถึงการเลือกตั้งแทน นายอภิรักษ์ เพราะวันนี้คือช่วยกันให้แง่มุมแง่คิดในเรื่องการตัดสินใจ และด้วยความเห็นใจกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ต่อข้อถามว่าถือเป็นการกดดันฝ่ายรัฐบาลหรือไม่ เพราะมีรัฐมนตรีที่เข้าข่ายอย่างนี้เหมือนกัน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่คิดว่ารัฐบาลจะกดดันอะไร เมื่อถามว่า มองไปถึงการเลือกตั้งสนามใหญ่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องการหาเสียงในการเลือกตั้งสนามใหญ่ยังอีกไกล วันนี้เป็นการตัดสินใจที่ นายอภิรักษ์ พิจารณาว่าอะไรเหมาะอะไรควร แต่คงไม่ได้คิดถึงผลทางการเมือง

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องการทุจริตของนายอภิรักษ์อาจถูกนำไปโจมตีในการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นธรรมดา และทุกสิ่งที่เกิดขึ้นพรรคก็ต้องรับผิดชอบ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องชี้แจงทำความเข้าใจกัน ต่อข้อถามว่า ในชั้นการพิจารณาของอัยการจะใช้สิทธิ์ในการชี้แจงข้อเท็จจริงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าปกติอัยการจะรับมติหรือสำนวนไปพิจารณาเองก่อน หลักของการต่อสู้จะอยู่ในชั้นศาลมากกว่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อบุคคลที่พรรคกำลังตัดสินใจส่งลงสมัครผู้ว่าฯกทม.แทนนาย อภิรักษ์ ในตอนนี้มี 4 คน ประกอบด้วย นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ส.ส.สัดส่วน นายประกอบ จิรกิติ รองผู้ว่าฯ กทม.และ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ อดีตรองผู้ว่าฯ กทม.ในสมัยที่แล้ว ซึ่งคณะกรรมการบริหารพรรคจะมีการพิจารณาคัดเลือกอีกครั้ง