กกต.เตรียมจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ใหม่ภายใน 60 วัน หลัง “อภิรักษ์” ประกาศลาออก คาด 11 ม.ค.52 เนื่องจากเดือน ธ.ค.ติดงานเฉลิมพระชนมพรรษา และเทศกาลปีใหม่ เผยใช้งบเลือกตั้ง 154 ล้าน เท่ากับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งที่ผ่านมาล่าสุด
วันนี้ (12 พ.ย.) นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวภายหลังที่ นาย อภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.ประกาศยุติหน้าที่ และลาออกจากตำแหน่ง ว่า ตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารสภาท้องถิ่น พ.ศ.2545 ระบุว่า เมื่อผู้ว่าฯ กทม.ลาออกจากตำแหน่ง จะต้องมีการจัดการเลือกตั้งภายใน 60 วัน นับจากวันที่ตำแหน่งนั้นว่างลง ส่วนการกำหนดวันเลือกตั้งใหม่นั้น คาดว่า น่าจะอยู่ในช่วงวันที่ 11 ม.ค.2552 เพราะในช่วยเดือน ธ.ค.นั้น ไม่ค่อยสะดวกในการจัดการเลือกตั้ง เนื่องจากมีงานเฉลิมพระชนมพรรษา และช่วงปลายเดือนก็มีงานฉลองคริสต์มาส และงานปีใหม่ ทั้งนี้ กกต.กทม.จะเป็นผู้กำหนดวันรับสมัคร และวันเลือกตั้งที่ชัดเจนอีกครั้ง
นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่ นั้น นายอภิรักษ์ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง เนื่องจากเป็นการลาออกจากตำแหน่ง ไม่ใช่ถูก กกต.เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) เนื่องมาจากการทุจริตการเลือกตั้ง ซึ่งในการจัดการเลือกตั้งนั้น กกต.กทม.จะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเอง ประมาณ 154 ล้าน เท่ากับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ในวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา ส่วนเรื่องที่ นายอภิรักษ์ ถูกร้องเรียนกรณีการทุจริตการเลือกตั้งจำนวน 4 เรื่องนั้น กกต.ก็จะดำเนินการพิจารณาต่อไปตามปกติ ไม่ยุติเรื่อง เพราะหากผลการสอบสวนออกมาว่า นายอภิรักษ์ ได้มีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ก็ต้องถูกเพิกถอนสิทธิ์และดำเนินคดีอาญาได้ แม้จะลาออกจากตำแหน่งไปแล้ว
นายประพันธ์ กล่าวว่า สำหรับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ครั้งใหม่นั้น ซึ่งจะจัดช่วงเทศกาลปีใหม่ มีการแจกของรางวัล จัดเลี้ยง อาจจะกระทบต่อผู้สมัครได้ ดังนั้น จึงขอให้ผู้สมัครระมัดระวัง เพราะอาจจะถูกร้องเรียนได้ อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้ อาจมีผลกระทบอยู่บ้าง เนื่องจากใน กทม.เพิ่งผ่านการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.มาไม่นาน รวมทั้งยังได้มีการเลือกตั้ง ส.ส.กทม.ในเขต 11 และ เลือกตั้ง ส.ก.ในเขตดินแดงไป อาจทำให้ประชาชนเบื่อหน่ายบ้าง แต่ กกต.ก็จะต้องจัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์กัน
เมื่อถามว่า หลังจากกรณีของ นายอภิรักษ์ กกต.จะมีการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครให้ละเอียดกว่านี้หรือไม่ เพื่อไม่ให้เสียงบประมานในการจัดการเลือกตั้ง นายประพันธ์ กล่าวว่า ทาง กกต.คงไม่สามารถห้ามผู้สมัครได้ เพราะการต้องคดีอาญาไม่ได้เป็นเหตุให้เสียสิทธิ์เป็นผู้สมัคร นอกเสียจากศาลจะมีการพิพากษาจำคุกเท่านั้น ถึงไม่สามารถมาสมัครได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นดุลพินิจของผู้สมัครเอง
