กทม.เตรียมเปลี่ยนมาสคอตเลือกตั้ง เป็นแบบใหม่ไม่ใช้ “ช้างน้อย” ของเดิม กระตุ้นประชาชนมาใช้สิทธิมากขึ้น โดยเฉพาะผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกในชีวิต ขณะที่รองปลัด กทม.เผยเห็นควรจัดรับสมัครศุกร์ 28 พ.ย.แทนอาทิตย์ที่ 30 พ.ย.เหตุวันครอบครัว
นายรัฐพล มีธนาถาวร รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ภายหลังนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.ลาออก ในวันพรุ่งนี้ (19 พ.ย.) และมีผลในวันที่ 20 พ.ย.ซึ่งจะได้มีการคัดเลือกคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร (กกต.ทถ.กทม.) โดยเบื้องต้นกำหนดวันรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในวันที่ 30 พ.ย.-4 ธ.ค.2551 แต่ตนเห็นว่า ในวันที่ 30 พ.ย.ตรงกับวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นหยุดของครอบครัว อาจทำให้การสมัครเงียบเหงา จึงอาจมีเสนอพิจารณาเปลี่ยนแปลง เพราะเป็นวันหยุด โดยอาจเป็นวันศุกร์ที่ 28 พ.ย.แทน ส่วนความคึกคักของการเลือกตั้งครั้งนี้ เชื่อว่า อาจน้อยลงกว่าเดิม เนื่องจากเพิ่งมีการเลือกตั้งผ่านไปไม่นาน แต่อย่างไรก็ตาม ต้องอาศัยความน่าสนใจของตัวผู้สมัครด้วย ขณะเดียวกัน ในส่วนของการประชาสัมพันธ์จะต้องมีความเข้มข้นมากขึ้น
นายรัฐพล กล่าวต่อว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีการเปลี่ยนตัวสัญลักษณ์การเลือกตั้งใหม่ ไม่ใช่แบบเดิมที่เป็นรูปช้าง เนื่องจากต้องการความแปลกใหม่ และในทีมประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งจะเน้นการกระตุ้นความสนใจในการเลือกตั้งของกลุ่มวัยรุ่นอายุ 18 ปีให้มากขึ้น เพราะถือเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกในชีวิต ส่วนงบประมาณในการเลือกตั้ง จะมีการลดบางส่วน เช่น อุปกรณ์การเลือกตั้ง หีบบัตร เนื่องจากของเดิมยังใช้ได้อยู่ และเพิ่มในส่วนงบประชาสัมพันธ์รณรงค์เลือกตั้ง เพราะเกรงประชาชนไม่ใช่ความความสำคัญ
สำหรับการใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งที่ผ่านมา มีจำนวนผู้มาใช้สิทธิทั้งสิ้น 2,214,320 คน คิดเป็นร้อยละ 54.18 จากจำนวนผู้มีสิทธิทั้งหมด 4,087,329 คน บัตรเสีย 19,376 ใบ คิดเป็นร้อยละ 0.88 ส่วนผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนมีจำนวน 37,345 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 1.69
นายรัฐพล มีธนาถาวร รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ภายหลังนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.ลาออก ในวันพรุ่งนี้ (19 พ.ย.) และมีผลในวันที่ 20 พ.ย.ซึ่งจะได้มีการคัดเลือกคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร (กกต.ทถ.กทม.) โดยเบื้องต้นกำหนดวันรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในวันที่ 30 พ.ย.-4 ธ.ค.2551 แต่ตนเห็นว่า ในวันที่ 30 พ.ย.ตรงกับวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นหยุดของครอบครัว อาจทำให้การสมัครเงียบเหงา จึงอาจมีเสนอพิจารณาเปลี่ยนแปลง เพราะเป็นวันหยุด โดยอาจเป็นวันศุกร์ที่ 28 พ.ย.แทน ส่วนความคึกคักของการเลือกตั้งครั้งนี้ เชื่อว่า อาจน้อยลงกว่าเดิม เนื่องจากเพิ่งมีการเลือกตั้งผ่านไปไม่นาน แต่อย่างไรก็ตาม ต้องอาศัยความน่าสนใจของตัวผู้สมัครด้วย ขณะเดียวกัน ในส่วนของการประชาสัมพันธ์จะต้องมีความเข้มข้นมากขึ้น
นายรัฐพล กล่าวต่อว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีการเปลี่ยนตัวสัญลักษณ์การเลือกตั้งใหม่ ไม่ใช่แบบเดิมที่เป็นรูปช้าง เนื่องจากต้องการความแปลกใหม่ และในทีมประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งจะเน้นการกระตุ้นความสนใจในการเลือกตั้งของกลุ่มวัยรุ่นอายุ 18 ปีให้มากขึ้น เพราะถือเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกในชีวิต ส่วนงบประมาณในการเลือกตั้ง จะมีการลดบางส่วน เช่น อุปกรณ์การเลือกตั้ง หีบบัตร เนื่องจากของเดิมยังใช้ได้อยู่ และเพิ่มในส่วนงบประชาสัมพันธ์รณรงค์เลือกตั้ง เพราะเกรงประชาชนไม่ใช่ความความสำคัญ
สำหรับการใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งที่ผ่านมา มีจำนวนผู้มาใช้สิทธิทั้งสิ้น 2,214,320 คน คิดเป็นร้อยละ 54.18 จากจำนวนผู้มีสิทธิทั้งหมด 4,087,329 คน บัตรเสีย 19,376 ใบ คิดเป็นร้อยละ 0.88 ส่วนผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนมีจำนวน 37,345 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 1.69
