“หมอเฉลิม” อยากดังโดดเป็นองครักษ์พิทักษ์ “แม้ว” แค่โดนคดี ป.ป.ช.ไม่ใช่ทุจริต เลี่ยงบาลีไม่ได้ทำผิดกม.แต่ทำในสิ่งที่ กม.ห้าม ส่งเสียงเชียร์ให้ตอบโต้ อ้างไม่ใช่พระอรหันต์ ยุส่งให้รีบแฉชื่อศัตรูทางการเมือง ลั่นรู้ประพฤติคนนุ่งขาว ห่มขาวในทำเนียบ
วันนี้ (11 พ.ย.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศที่จะทำลายฝ่ายตรงข้ามจะเป็นการทำลายบรรยากาศความสมานฉันท์หรือไม่ว่า เรื่องนี้ถ้าสื่อมวลชนและสังคมไทยมีใจเป็นธรรมจะสามารถตัดสินใจได้ เพราะระหว่างที่ท่านอยู่ต่างประเทศก็มีบุคคลกลุ่มหนึ่งได้กล่าวโจมตี ให้สัมภาษณ์ไม่ว่าจะเป็นการปราศรัย คนเราเมื่อถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวโดยธรรมชาติของปุถุชนธรรมดา ถ้าไม่ใช่พระอรหันต์ก็ต้องตอบโต้เป็นธรรมดา เป็นตนก็ไม่ยอม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในสถานการณ์ที่บ้านเมืองต้องการความปรองดองสมานฉันท์ ซึ่งหลายฝ่ายต่างบอกว่าหากทำได้ก็จะสามารถพ้นวิกฤตไปได้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ที่เป็นอยู่ขณะนี้ สมานฉันท์แล้วหรือ การยึดทำเนียบรัฐบาล ด่าทอทุกคน พูดจาในสิ่งที่ไม่เหมาะสมโดยเฉพาะกรณีที่ลานพระบรมรูปทรงม้าก็พูดจาในลักษณะที่สังคมไทยรับไม่ได้ ซึ่งอีกฝ่ายก็ได้แสดงแนวทางสมานฉันท์ การเรียกร้องประชาธิปไตยก็เป็นสิทธิ แต่พฤติกรรมที่ทำเป็นการคุกคามข่มขู่เช่นนี้ รัฐมนตรีไม่ต้องไปทำงานแล้ว รวมทั้งกรณีของตนที่ทำงานอยู่กระทรวงสาธารณสุขจะเดินทางไปประชุมสัมมนาที่ภาคใต้แต่ก็ไปไม่ได้ ต้องส่งปลัดไปแทน ตรวจงานน้ำท่วมและไข้หวัดนกก็ไปไม่ได้ หากไปก็จะมีม็อบมือตบมาไล่ โชคดีที่ตนนัดประชุมกระทรวงคณะกรรมการประมาณ 500 คน แหล่งข่าวแจ้งว่าระหว่างนั่งประชุมจะมีคนเอามือตบมาตบไล่ที่สโมสรกองทัพบก ขณะนั้นตนพูดกินใจ พวกบรรดาพันธมิตรฯ ทั้งหลายที่เป็นแพทย์แทนที่จะใช้มือตบ เปลี่ยนเป็นปรบมือให้
“โดยส่วนตัวคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ทำถูกแล้วจะสมานฉันท์ฝ่ายเดียวเป็นไปไม่ได้ ต้องหยุด แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นคดีที่ถูกพิพากษา ต้องพูดให้ชัด ท่านไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แต่ทำในสิ่งที่กฎหมายห้ามไม่ใช่เรื่องทุจริต แต่นำไปด่าบนเวทีว่าทุจริต การทุจริตต้องเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ศาลตัดสินชัดที่ดินก็ตกเป็นของผู้ซื้อเรื่องนี้ทุจริตตรงไหน เพราะเป็นกฎหมายพิเศษเป็นกฎหมายของ ป.ป.ช.เป็นการซ้ำเติมกันเกินเหตุ เมื่อท่านตอบโต้ก็ถูกต้อง” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
เมื่อถามว่า วิธีการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะตอบโต้จะทำอย่างไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า จะไปมีวิธีการอะไร ในเมื่อขณะนี้ท่านอยู่ในต่างประเทศ ท่านก็ต้องตอบโต้ด้วยวิธีการแสดงความคิดเห็น ตนไม่รู้จะมีวิธีการอย่างไร แต่จะตอบโต้อย่างไรก็ไม่มีใครได้รับภัยอันตราย เพราะเป็นแค่การพูดชี้แจงแสดงสิทธิ เมื่อถามว่า การที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะไม่เติมเชื้อความรุนแรงจะเป็นการดีกว่าหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เรื่องนี้ช่วงที่พรรคพลังประชาชนปราศรัยหาเสียงบอกว่า ถ้าพรรคพลังประชาชนได้เสียงมากกว่ามีสิทธิจัดตั้งรัฐบาลแล้วจะแก้ไขบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ประกาศตลอดประชาชนก็เลือกมาด้วยคะแนนเสียงมากกว่า และตรงไหนที่ซ่อนเร้นตรงไหนที่ปกปิดโกหก หากเค้าบอกว่าจะใช้เวลา 180 วันบอกว่ายืดเยื้อ ซื้อเวลา ถ้า 120 วันก็บอกว่าไม่รอบครอบแล้วสุดท้ายจะเอายังไง
เมื่อถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับมาในเดือนธันวาคม ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ทราบเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยแจ้งกับตน เพียงแค่มีข่าวออกมา ซึ่งก็เป็นสิทธ์ของท่าน คนที่ได้สัญชาติไทยโดยการเกิดจะเข้าประเทศเมื่อไหร่ก็ได้ ส่วนเรื่องคดีความก็ว่ากันไป สื่ออย่าไปมองให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งกระทำอยู่ฝ่ายเดียว มันไปกันไกลแล้ว ทุกคนมีสิทธิ์ปกป้องเกียรติยศ ศักดิ์ของตนเอง แต่ขอยืนยันว่าคดีที่ตัดสินไม่ใช่เรื่องทุจริต ไม่ใช่เรื่องลักวิ่งชิงปล้น
เมื่อถามว่าจะให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติอย่างไร เพื่อให้รัฐบาลทำงานราบรื่น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า การปิดถนนซึ่งเป็นเส้นทางหลัก ที่ใช้เสด็จพระราชดำเนินต้องไปขออนุญาตกับคนกลุ่มหนึ่ง บ้านเมืองก็ลำบาก ตั้งบังเกอร์เหมือนกับสงครามเวียดนามคล้ายกับจะไปรบกับใคร ตนบอกตลอดว่าการชุมนุมมีอาวุธ ก็ด่าตน แล้วก็มีจริง จับได้ก็อ้างว่าออกไปแล้ว แล้วคนประสานก็ใหญ่โต ใครจะพกอาวุธต้องขออนุญาต แล้วเช่นนี้บ้านเมืองจะอยู่อย่างไร ไม่มีเหตุผล
ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาเตือนให้ระวังเนื่องจากมีการขนระเบิดเข้ามาก่อกวนนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ต้องถึงตำรวจ เพราะตนเคยรู้มาก่อนแล้ว โดนหนักแน่ แต่ใครทำไม่รู้ เพราะมีคนบอกเหตุ ต้องการให้เกิดเหตุ แบบนี้บ้านเมืองคงอยู่ไม่ได้ ตลาดหลักทรัพย์ก็แย่ คนที่จะมาลงทุนก็กลัวเพราะตั้งบังเกอร์กลางกรุง ขอเรียนตามตรงไม่ได้เกรงคนกลุ่มนี้ เพราะรู้ความประพฤติของคนที่นุ่งขาวห่มขาวอยู่ในทำเนียบ รู้จักดีกว่าคนอื่น เมื่อส่งมือไปก็ส่งเท้ากลับมา อยู่ใกล้จะหยิกพุง ไปไกลเหลือเกิน
เมื่อถามว่า กรณีที่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี เปลี่ยนข้างไปแสดงความจริงใจกับ พ.ต.ท.ทักษิณ จะทำให้การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงแรงขึ้นหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้มีกระแสข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เบื้องหลัง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่จริงอย่าไปเข้าใจผิด เพราะทั้งสองคนเป็นนักเรียนนายร้อยรุ่นพี่รุ่นน้องกัน คงตัดกันไม่ได้ขายกันไม่ขาด อย่าไปเข้าใจว่าเปลี่ยนท่าทีพวกเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร พล.อ.พัลลภ และตนเป็นเพื่อนเฉียดคุกตารางมาด้วยกัน แต่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นั้นไม่สนิท
ส่วนมีหลายฝ่ายกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ หากยิ่งเคลื่อนไหวจะยิ่งลำบากนั้นจะไปห่วงแทนท่านทำไม คนจบปริญญาเอก เป็นอดีตนายกฯ เป็นนักธุรกิจประสบความสำเร็จ ท่านคิดอะไรก็มีแนวคิดแนวทาง จะไปกลัวท่านลำบากทำไม
เมื่อถามว่า กรณี พล.อ.พัลลภ ออกมาพูดเช่นนี้แล้วจะทำให้ภาพความจงรักภักดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ดีขึ้นหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า คนจบโรงเรียนนายร้อย หรือคนเป็นนายตำรวจนายทหารต้องมารับพระราชทานโปรดเกล้าฯ รับกระบี่จากพระหัตถ์ คิดว่าเรื่องความไม่จงรักภักดีเลิกคิดไปได้เลย จงรักภักดีเป็นที่สุด คนที่นุ่งขาวห่มขาวอยู่ขณะนี้เคยทำอะไร มีแต่ตะโกนด่าทอ และทำอะไรให้ประจักษ์ ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ ล้านเปอร์เซ็นต์จงรักภักดี
ส่วนกรณีที่คนรัก พ.ต.ท.ทักษิณ ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีหมิ่นสถาบันหลายคน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า บางคนเวลาพูดเผลอกันได้ เหมือนผู้สื่อข่าวที่ถามกันมากอย่างขณะนี้ ตนก็อาจจะเผลอเช่นกัน
เมื่อถามว่า ในฐานะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่กระทรวงสาธารณสุข จะส่งคนเข้าไปตรวจสุขภาพจิตของคนที่อยู่ในทำเนียบหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า หากตนส่งเข้าใป คนในนั้นคงกล่าวว่าตนบ้า ตนไม่อยากพูดเรื่องการเมืองเพราะเกินเหตุ ซึ่งแม้ขบวนเสด็จฯ ยังต้องไปขออนุญาตคนกลุ่มนี้ คิดได้อย่างไร เอาสมองส่วนไหนคิด ยิ่งคนที่นุ่งขาวห่มขาวเคยทำมาหลายประเทศ ไปรบทัพจับศึกที่ไหน น้ำหูน้ำตาไหลรักบ้านรักเมืองอยู่คนเดียว เป็นอะไรกันไปใหญ่ อีกคนตื่นขึ้นมาก็หน้านิ่วคิ้วขมวดด่าทอทุกคน
เมื่อถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะแฉรายชื่อศัตรู ทราบหรือไม่ว่ามีใครบ้าง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ทราบ จะไปทราบแทนท่านได้อย่างไร เมื่อถามว่ารายชื่อที่จะแฉจะมีคนสูงศักดิ์และคนมีบารมีนอกรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ทราบ หากพูดไปก็เหมือนจะรู้มากไป แต่เรื่องนี้ท่านมีสิทธิ์ทำได้ จะให้สมานฉันท์ฝ่ายเดียวได้อย่างไร ท่านคงตรึกตรองดีแล้วท่านต้องมีวิจารณญาณ