นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ก.ตร.โดยไม่มีวาระอะไรเป็นพิเศษ แค่อนุมัติเพิ่มโรงพักเป็น 1,458 แห่ง
วันนี้ (5 พ.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) โดยใช้เวลาประชุมนาน 1 ชั่วโมง
นายสมชาย แถลงว่า ก.ตร.เห็นชอบจัดตั้งสถานีตำรวจแห่งใหม่ และย้ายที่ตั้งสถานีตำรวจ พร้อมทั้งปรับระดับหัวหน้าสถานีให้สอดคล้องกับปริมาณงาน และประชากร โดยเปลี่ยนชื่อ สภ.ปากน้ำโพ อ.เมืองนครสวรรค์ เป็น สภ.บางม่วง กำหนดตำแหน่งให้กับซึ่งให้ปรับระดับหัวหน้าสถานีจาก สารวัตรใหญ่ เป็นผู้กำกับการ (ผกก.) และกำหนดตำแหน่งเพิ่มให้ 103 ตำแหน่ง จัดตั้ง สภ.ห้วยปลิง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ขึ้นใหม่ มี ผกก.เป็นหัวหน้าสถานี กำหนดตำแหน่งข้าราชการตำรวจให้ 181 ตำแหน่ง จัดตั้ง สภ.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มี ผกก.เป็นหัวหน้าสถานี กำหนดตำแหน่งให้ 127 ทั้งนี้ ต่อไป ตร.จะมีสถานีตำรวจทั้งสิ้น 1,458 แห่ง
นายสมชาย กล่าวว่า นอกจากนี้ มีการปรับปรุงตำแหน่งแพทย์ พยาบาลในโรงพยาบาลตำรวจ ตามระเบียบ อีกทั้ง ก.ตร.บางคนยังเสนอให้ ตร.ไปดำเนินการจัดทำเวิร์กชอปเพื่อประปรับปรุงองค์กร ซึ่ง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะรับไปดำเนินการต่อ
นายสมชาย ยังกล่าวถึงกรณีต้องเดินทางไปให้ข้อมูล นายปรีชา พานิชวงศ์ อดีตรองประธานศาลฎีกา ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบ ข้อเท็จจริงการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ว่า เรื่องนี้ นายปรีชา ยังไม่ได้บอกว่าจะสรุปเรื่องเมื่อไร ส่วนเรื่องข้อมูลไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเป็นเรื่องที่คณะกรรมการต้องดำเนินงาน ส่วนที่ตนได้กำนหดระยะเวลาการตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน เป็นเพียงการประมาณการระยะเวลาทำงาน ส่วนสิทธิขาดเป็นของคณะทำงานคงไม่เข้าไปก้าวก่าย เพราะจะกลายเป็นเรื่องไม่เป็นธรรมและเข้าไปแทรกแซง
ด้าน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีการขอเปิดเส้นทางขบวนเสด็จฯจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า ขณะนี้ ตร.เตรียมแผนสำรองไว้หมดแล้ว ถ้าไม่ยอมเปิดเส้นทางเราก็จัดเส้นทางอื่น ซึ่งจริงแล้วการเปิดเส้นทางนั้นก็ง่าย แต่เราก็ต้องจัดเส้นทางสำรองไว้ ตำรวจเตรียมความพร้อมไว้ทั้งหมด ระหว่างนี้พยายามคุยกัน ซึ่งตนคิดเชิงบวกตลอดว่าพันธมิตรฯจะเปิดเส้นทางให้
พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวถึงเหตุระเบิดที่ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส และเหตุลอบวางเพลิงที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า จากสถิติพบว่าในช่วงเดือนนี้มีเหตุความไม่สงบเกิดเยอะอยู่แล้ว เป็นประจำทุกปี แต่ปีนี้ไประเบิดในตลาด ตนมองว่ารุนแรง มุ่งหวังต่อชีวิตประชาชนซึ่งไม่เกี่ยวข้อง จึงยังห่วงอยู่มากว่าทำไมปีนี้แรงกว่าทุกปี ซึ่งเสียหายมาก
ผบ.ตร.กล่าวว่า สาเหตุของเหตุรุนแรงครั้งนี้กำลังวิเคราะห์กันอยู่ อีก 2-3 วันจะลงไปดูในพื้นที่อีกครั้ง ขณะนี้ยอมรับว่า ค่อนข้างรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แม้เหตุน้อยลง การเกิดน้อยลง แต่ความรุนแรงมากขึ้น ตรงนี้แสดงว่ามีการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์เพื่อก่อเหตุ ซึ่งอาจเป็นเพราะการตรวจของเจ้าหน้าที่ยังไม่ครอบคลุม
“ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สันติบาลก็มีรายงานด้านการข่าวมาเป็นประจำ แต่ว่าเหตุนี้มันใหญ่ ซึ่งสงสัยว่าทำไมถึงไปทำในตลาดถึงขนาดนี้ ก็สงสัยเหมือนกันว่ามันมีเหตุอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ต้องขอเวลานิดหน่อย ในสมัยก่อนมีการตรวจสอบวัตถุประกอบระเบิดตลอด ตอนนี้ก็ยังมีการตรวจสอบต่อเนื่อง ซึ่งครั้งนี้ต้องรอดูผลการตรวจสอบว่าใช้อะไรทำระเบิด ทั้งนี้ขอเวลาสักนิดเดิมทีคิดว่าดีขึ้น คิดว่าเหตุน้อยลงมันดีขึ้น แต่มันรุนแรงขึ้น ที่ผ่านมาเราดูแลพื้นที่ทั้งหมดแต่ครั้งนี้ไม่คิดว่าในตลาดจะเกิดเหตุใหญ่ขนาดนี้” พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าว