“โกวิท” สุมไฟ! อ้างพันธมิตรฯ ละเมิด กม.จ้องยึดทำเนียบคืน

มท.1 เพิ่งตื่นจากภวังค์ จัดประชุมทางไกลผู้ว่าฯ อ้างอิงสถิติ 3 เดือนพบข้อมูลหมิ่นเบื้องสูงพุ่งสั่งดำเนินคดีเฉียบขาด ไอเดียบรรเจิดฟื้นฟูลูกเสือชาวบ้านสมานฉันท์ทุ่มงบเฉียดร้อยล้าน สุมไฟรอบใหม่อ้างพันธมิตรฯ ละเมิด กม.ปูดข่าวจ้องยึดทำเนียบคืน

ที่กระทรวงมหาดไทย เวลา 10.00 น. วันนี้(3พ.ย.) พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายและแนวทางปฏิบัติราชการของกระทรวงมหาดไทยแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ พร้อมด้วยนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) นายประสงค์ โฆษิตานนท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3) โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า ในห้วงระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา มีคนละเมิดและดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมทั้งมีการพาดพิงเพิ่มมากขึ้น ทางกระทรวงมหาดไทยได้เรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดและหน่วยงานที่ขึ้นตรงกับกระทรวงมหาดไทยแล้วเพื่อช่วยกันดูและและปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ได้มีการดำเนินคดีไปแล้วหลายรายจึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดช่วยกันดูแลต่อไป

พล.ต.อ.โกวิท กล่าว เรื่องการสร้างความสามัคคีของคนในชาติซึ่งกระทรวงมหาดไทยก็ได้นำนโยบายที่จะสร้างความสมานฉันท์ สร้างความเข้าใจให้กับประชาชน เพื่อให้บ้านเมืองกลับเข้าสู่สภาวะปกติให้ได้ โดยให้มีการฟื้นฟูกิจการลูกเสือชาวบ้าน รัฐบาลก็ได้สนับสนุนงบประมาณไป 98 ล้านบาท จะดำเนินการโอนให้กับทุกจังหวัดทุกอำเภอ โดยให้อำเภอละ 1 แสนบาท อย่างไรก็ตามองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัดจัดให้มีการอบรมลูกเสือชาวบ้านตลอดปี 52 และให้วางแผนไว้ทั้งปีด้วย

“ตอนนี้ผมมีความเป็นห่วงมากความคิดที่แตกต่างกันนั้นเป็นเรื่องที่อันตรายมาก จนกระทั่งมีคนไม่เข้าใจว่าความดีความชั่วแตกต่างกันอย่างไร ใครมายุยงให้ทำในสิ่งที่ชั่ว สิ่งที่เลวก็จะต้องไม่หลวมตัวไปทำต้องคิดดีทำดี ผมอยากให้กระบวนการลูกเสือชาวบ้านก็จะเป็นสิ่งที่ทำให้ประชาชนคนไทยเป็นสิ่งที่ยึดมั่นที่จะมีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างแท้จริง นี่เป็นเรื่องที่ทุกหน่วยต้องเร่งทำทั้งนี้ผมขอเน้นย้ำทุกฝ่ายต้องทำต่อไปไม่ใช่ทำแค่ 116 วันเท่านั้น ” พล.ต.อ.โกวิทกล่าว และว่า หากจังหวัดไหนมีความริเริ่มโครงการสมานฉันท์ใหม่ๆ ตนพร้อมที่จะลงไปดูและนำมาเป็นจังหวัดแม่แบบ เหมือนกับที่แก้ไขปัญหาในภาคใต้ ที่จัดให้มีอำเภอสีขาว หมู่บ้านสีขาวไม่ให้มีการก่อการร้ายไม่ให้มีความแตกแยกเกิดขึ้น เรื่องความสามัคคีอยากให้ทุกจังหวัดริเริ่มกัน

พล.ต.อ.โกวิท กล่าวต่อว่าเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้เป็นผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามยาเสพติด ซึ่งจะมีการประชุมร่วมกันระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในวันพฤหัสบดีที่ 6 พ.ย.นี้ โดยมีวัตถุประสงค์ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลัก ที่จะไปดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติด ส่วนเรื่องการจัดระเบียบสังคม การปราบปรามผู้มีอิทธิพล จะต้องมีการกวดขันกันอย่างเข้มงวดไม่ใช่เฉพาะในต่างจังหวัดเท่านั้นในกรุงเทพมหานครจะต้องรับผิดชอบ เป็นปัญหาสำคัญของรัฐบาลในการที่จะบังคับใช้กฎหมายให้เกิดความสงบเรียบร้อยทั้งหมด แต่ว่าปัจจุบันก็มีการละเมิดกฎหมายอย่างชัดเจนเป็นที่ทราบกันทั่วไป กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ไปยึดทำเนียบมาเกือบ 2 เดือนแล้ว ซึ่งกระทรวงมหาดไทยก็ต้องมีส่วนในการแก้ไขเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยให้ได้ ก็คงไม่มีรัฐบาลไหนในโลกที่ปล่อยให้ทำผิดกฎหมายต่อไป

รมว.มหาดไทยกล่าวว่า วันนี้ตนมาทำงานที่กระทรวงมหาดไทยก็มีหน่วยงานลดน้อยลงไปซึ่งแตกต่างจากสมัยก่อนที่กระทรวงมหาดไทยเป็นกระทรวงที่ครอบจักรวาล ตอนนี้กระทรวงมหาดไทยก็กลายเป็นกระทรวงสนับสนุน เมื่อก่อนนึกอะไรไม่ออกก็ต้องบอกพี่ใหญ่อย่างกระทรวงมหาดไทย อย่างไรก็ตามขณะนี้ก็พยายามที่จะประสานความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

“ผมมานั่งตรงนี้ก็ต้องคอยตอบคำถาม เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้มี ส.ส.พรรคพลังประชนมาเยี่ยมและได้บอกกับผมว่าไม่เห็นผมทำอะไรเลยมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยคนทำผิดกฎหมายท่านไม่ทำไม่เห็นหรือ ก็เป็นเรื่องที่ต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด ปัญหาผู้มีอิทธิพล เพราะว่ามันเกี่ยวเนื่องกัน

“เมื่อปี 2514 ผมเป็นตำรวจตระเวนชายแดน ยศ ร.ต.ท.ได้มีเสี่ยเจ้าของโรงเลื่อยได้รับสัมปทานไม้ก็ส่งลูกน้องไปตัดไม้ตัดทั้งในเขตสัมปทานและนอกเขตสัมปทาน ทำผิดกติกา เนื่องจากเป็นคนมีเส้นก็ตัดไม้สนุกไม่ว่าจะเป็นไม้สัก ซึ่งต่อมาเสี่ยคนนี้ก็มาเป็น ส.ส. และเป็นรัฐมนตรีอยู่ในรัฐบาลและเคยมานั่งที่นี้ด้วย แต่อย่าให้ผมเอ่ยชื่อเลย ซึ่งผมมองว่ามันเป็นเรื่องที่แย่มาก พร้อมทั้งมีการส่งส่วยให้กับกลุ่มก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ด้วย ซึ่งเสี่ยคนนี้ก็ได้ส่งข้าวสาร เงิน ปืนอาก้า กระสุน เมื่อก่อนทะลักมาจากชายแดนก็เข้ามา ซึ่งในป่ามีเงิน อาวุธ ส่งผลให้ตำรวจตระเวนชายแดนต้องเจ็บตายกันเป็นระยะไป

“หลังจากที่ผมไปดักจับได้ผู้ก่อการร้าย 2 คนก็รับสารภาพซึ่งก็ตรงกันกับข่าวว่าเสี่ยคนนี้เป็นผู้สนับสนุนการก่อการร้ายก็ไม่มีใครทำอะไร ซึ่งตอนนี้ผมทนไม่ได้ที่เห็นตำรวจต้องเสียชีวิตเป็นระยะ จึงลงจากเขาพร้อมปืน 11 มม.เพื่อจะดักยิงเสียคนนี้ แต่ผู้บังคับบัญชาทราบก็เลยห้ามไว้ ซึ่งก็ทำให้ผมรอดจนได้มานั่งอยู่ตรงนี้ ” พล.ต.อ.โกวิท กล่าว

รมว.มหาดไทยกล่าวว่า หน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย คือลดผู้มีอิทธิพล ลดผู้ที่คอยเอาเปรียบในสังคม และยิ่งถ้ามาเกี่ยวข้องกับฝ่ายการเมืองยิ่งยากลำบากมาขึ้น ฉะนั้นตนจึงเรียนว่าอะไรที่เกิดกำลังผู้ว่าฯ ผู้กำกับก็ได้กรุณาแจ้งมายังตน ได้ทุกทาง ไม่ว่าจะโทรมาหรือทำเป็นรายงานมาก็ได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะว่าพวกเจ้าพ่อเจ้ามาก็มาจากการที่เจ้าหน้าที่ปล่อยปะละเลย

พล.ต.อ.โกวิท กล่าวต่อว่า ผู้ว่าฯ ต้องดูแลเรื่องงบประมาณและเร่งรัดจ่ายให้กับหน่วยที่เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งมีคนร้องเรียนมาว่าบางอำเภอมาเก็บหัวคิวเอาเปอร์เซ็นต์ เรื่องนี้ผู้ว่าต้องดูแลอย่าปล่อยปะละเลย ตนและนายพีรพล ไตรทศาวิทย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ก็จะเป็นแบบอย่างในการทำงานที่ถูกต้องตรงไปตรงมา และจะดูแลไม่ให้พวกท่านเดือดร้อนหรือว่าถูกอำนาจทางการเมืองไป กระทรวงมหาดไทยต้องเป็นแพะตัวแรกที่ต้องถูกกล่าวหาก่อน หากมีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้นอย่างไรก็ขอให้พวกท่านภูมิใจในหน้าที่ที่ทำ

ด้านนายปรีชา กล่าวว่า ขอให้ผู้ว่าฯ นายอำเภอเอาใจใส่สร้างความสามัคคีของคนในแต่ละจังหวัด เพื่อลดการเผชิญหน้า ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นนโยบายหลักของกระทรวงฯ ส่วนเรื่องปัญหาภัยพิบัตินั้น ผู้ว่าฯ จะต้องเอาใจใส่ แม้จะไม่ใช่หน้าที่ของมหาดไทยโดยตรง แต่ก็ต้องประสานกับกระทรวงอื่นๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

นายปรีชา กล่าว่า ส่วนเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติดนั้น ผู้ว่าฯ จะต้องนำแนวคิดการปราบปรามยาเสพติดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาใช้ เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณเคยทำสำเร็จมาแล้ว ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด นายอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดจะต้องประสานร่วมมือกัน ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด หากพื้นที่ใดมีปัญหาก็จะต้องหาทางป้องกัน

นายปรีชา ยังกล่าวอีกว่า อยากให้ผู้ว่าฯ เชิญ ส.ส. และ ส.ว.ในพื้นที่ มาร่วมปรึกษาหารือในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน เพราะ ส.ส. และ ส.ว.ก็มาจากประชาชนเช่นเดียวกัน

ด้านนายพีรพล ไตรทศาวิทย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดจะต้องตรวจสอบดูแลเว็บไซต์ วิทยุชุมชน รวมถึงการชุมนุมในที่ต่างๆ ที่มีเนื้อหาการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งผู้ว่าฯ จะต้องมีการบันทึกเทปไว้เป็นหลักฐาน หากมีเนื้อหาเข้าข่ายก็สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้ทันที

นายพีรพล กล่าวว่า ขอให้ผู้ว่าเตรียมรับมือกับปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้น ที่อาจทำให้มีคนว่างงานเป็นจำนานมาก ดังนั้น ทุกจังหวัดจะต้องสำรวจพื้นที่ว่างเปล่าของหน่วยงานราชการ หรือพื้นที่ที่อำเภอดูแล นำมาทำประโยชน์ให้กับประชาชน โดยกระทรวงมหาดไทยจะจัดการเรื่องสาธารณูปโภคให้ เช่น การขุดคลองซอย การทำแปลงเกษตร การฝึกอบรมอาชีพ เพื่อรองรับคนว่างงานที่เดินทางกลับบ้าน