xs
xsm
sm
md
lg

“สุริยะใส” ยันการ์ดไร้อาวุธ-ชี้จับ นปช.ลิ่วล้อ “แม้ว” ชิมลางป่วนก่อน 1 พ.ย.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุริยะใส กตะศิลา
“สุริยะใส” แจงไม่ได้ออกใบอนุญาตพกอาวุธให้การ์ดพันธมิตรฯ มีเฉพาะผู้ติดตามแกนนำที่ได้ใบอนุญาตจากมหาดไทย ยันไม่ให้มีอาวุธทุกชนิดในที่ชุมนุม เหลือแต่ไม้ไว้ป้องกันตัว หลังมีบทเรียน นปช.บุกโจมตีหลายรอบ ย้ำไม่เสวนา 4 ฝ่าย เหตุสถานการณ์เลยขั้นตอนเจรจา มีทางเดียวรัฐบาลนอมินีต้องลาออก “ทักษิณ” ต้องกลับมารับโทษ เผย กรณีจับ นปช.หน้าทำเนียบ ลิ่วล้อ “แม้ว” ชิมลางป่วนก่อน 1 พ.ย.

เมื่อเวลา 19.00 น.วันนี้ (28 ต.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงถึงกรณีที่จะมีการออกใบอนุญาตให้พกพาอาวุธในที่ชุมนุมได้ ว่า คงเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะมติของแกนนำนั้นไม่อนุญาตให้พกพาอาวุธโดยเฉพาะปืน แต่ที่ตนเคยชี้แจงไปก่อนหน้านั้น หมายถึงเฉพาะผู้ที่ติดตามแกนนำ ซึ่งมีใบอนุญาตถูกต้องจากกระทรวงมหาดไทย ยืนยันว่า ไม่ใช่การถือวิสาสะออกใบอนุญาตให้พกพาอาวุธได้ และยืนยันว่า อาวุธทุกชนิดจะไม่ให้มีในที่ชุมนุม ส่วนไม้ที่เราเห็นกันนั้นอยากให้เรียกว่าเป็นอุปกรณ์ป้องกันตัว ป้องกันมวลชนอาจถูกอีกฝ่ายหนึ่งโจมตี เพราะ นปช.ทุกครั้งที่มาก่อกวน หรือมาหาเรื่องมักจะมีอาวุธทุกชนิด ทั้งมีด ทั้งปืน หรือหนังสติ๊ก และล่าสุด ทราบว่า มีน้ำกรดด้วย

สำหรับกรณีของโครงการสานเสวนา 4 ฝ่าย นายสุริยะใส กล่าวว่า แม้ฝ่ายต่างๆ ตั้งใจที่จะช่วยกันหาทางออก แต่เราต้องยอมรับความจริงก่อนว่า ความขัดแย้งในขณะนี้เลยขั้นตอนของการเจรจาแล้ว เพราะวันนี้มีความชัดเจนว่า มีขบวนการต่อต้านคำพิพากษาของศาล โจมตีกระบวนการยุติธรรม ดังนั้น การให้พันธมิตรฯ ไปพูดคุยด้วยนั้น เราคงยอมรับไม่ได้ ที่สำคัญ ฝ่ายตรงข้ามก็ชักธงรบชัดเจน ทั้งเปิดศึกกับสถาบันชั้นสูง และกระบวนการยุติธรรม ดังนั้น ทางออกเดียวคือ รัฐบาลนอมินีต้องลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบ

ส่วนที่รัฐบาลบอกว่า จะรอผลของคณะกรรมการตรวจสอบเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ก่อนจะแสดงความรับผิดชอบนั้น วันนี้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้มีการตรวจสอบเบื้องต้น ก็ชัดเจนแล้วว่า นายกรัฐมนตรีมีส่วนเกี่ยวข้อง ตรงนี้นายสมชาย จะรับผิดชอบอย่างไร หากไม่มีความเสียสละ แยกแยะถูกผิดไม่ออก ความสมานฉันท์ก็จะไม่เกิด ดังนั้นต้องกล้ายอมรับความจริงว่า ความขัดแย้ง มันเลยมาไกลแล้ว ต้องให้ฝ่ายที่ไม่เคารพคำพิพากษากลับมาแล้วยอมรับผิดที่ก่อไว้ ถ้าสังคมมองตรงนี้ไม่ออก แยกผิดแยกถูกไม่ออก บรรยากาศจะยิ่งอึมครึม หากให้พันธมิตรฯ ไปคุย กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกตัดสินว่าผิดต้องติดคุกสังคมก็จะสับสนว่า ตกลงแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ผิดอย่างนั้นหรือ ดังนั้น เจตนาดีอย่างเดียวคงไม่พอ วันนี้สังคมต้องการความกล้าหาญทางจริยธรรมด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ระบุว่า พันธมิตรฯ ไม่ยอมรับข้อเสนออะไรเลย เป็นการสร้างปัญหาให้กับบ้านเมือง นายสุริยะใส กล่าวว่า นายเสนาะ คงไม่เห็น พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นปัญหา ซึ่งถ้าหาก นายเสนาะ อยากเห็นบ้านเมืองสงบ ก็ต้องไปบอกให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมารับผิด แล้วก็ต้องไปเรียกมโนธรรมสำนึกของรัฐบาลด้วย เพราะพันธมิตรฯ ไม่ใช่ต้นเหตุ การกระทำของรัฐเป็นต้นเหตุเราจึงต้องออกมา อยากให้ช่วยบอกนายสมชายว่า ให้หาวิธีทวงคืนพาสปอร์ต และเอาตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมารับผิดให้ได้

สำหรับกรณีที่มีการจับกุม นปช.ได้ในวันนี้นั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่เท่าที่สอบถามจากเจ้าหน้าที่และฟังคำให้การของกลุ่ม นปช.นั้น ไม่ว่าจะมีเจตนาหรือพลัดหลงมานั้น แต่การมาในลักษณะอย่างนี้ไม่เป็นมิตร เพราะมีทั้งน้ำมันเบนซิน และตีนตบ รวมทั้งหนังสติ๊ก ดังนั้น เมื่อเราพบตัวก็ต้องนำมาสอบสวน แล้วจึงปล่อยตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไป ยืนยันว่าไม่มีการทำร้ายร่างกาย แต่คนของเราถูกหนังสติ๊กยิงเข้าที่คอ อย่างไรก็ตาม พันธมิตรฯ มีการประสานกับ สน.ดุสิต กับ สน.นางเลิ้ง ตลอดเวลา ซึ่งเมื่อจับตัวคนต้องสงได้ก็จะสอบสวนเบื้องต้นเพื่อบันทึกคำให้การ จากนั้นก็จะแจ้งให้ตำรวจมารับตัวไปทุกราย แม้กระทั้งกรณีของผู้ต้องสงสัยที่พกพาอาวุธ ลักเล็กขโมยน้อย หรือมาหาเรื่องก่อกวนเราก็ส่งตัวให้ตำรวจ นอกจากนี้ยังทราบมาว่า ส.ส. พรรคพลังประชาชน ในภาคเหนือและอีสาน มีความพยายามรวบรวมประชาชนให้ได้พื้นที่ละ 1,500-2,000 คน ดังนั้น เชื่อว่า ในวันที่ 1 พ.ย.จะไม่ใช่การชุมนุมแล้วกลับอย่างแน่นอน อาจจะมีหน่วยจัดตั้งเข้ามาก่อกวนได้ตลอดเวลา
กำลังโหลดความคิดเห็น