ผู้จัดการออนไลน์ - 5 ครูฝึกนักบินอาวุโสการบินไทยอารยะขัดขืนด้วยการยกพลลาออกจากการเป็นครูสอนนักบิน หลัง “โสภิต โภคะสุวรรณ” ผอ.ฝ่ายบุคคลลุแก่อำนาจ บ้าจี้รับใช้รัฐบาลทรราชเล่นงาน กัปตันจักรี จงศิริ ที่หาญกล้า ไล่ ส.ส.พรรคพลังประชาชน 3 ลงจากเครื่อง จากกรณี 7 ตุลาเลือด
รายงานข่าวจากบริษัท การบินไทย แจ้งว่า เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา บรรดากัปตันอาวุโสที่ทำหน้าที่เป็นครูสอนนักบินของบริษัท (Instructor Pilot) รวมทั้งหมด 5 คน ได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากการเป็นครูฝึกและสอนนักบิน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2551 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ในหนังสือขอลาออกกัปตันทั้งหมดให้เหตุผลว่า เนื่องจาก กัปตันโสภิต โภคะสุวรรณ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายพัฒนาบุคลากรการบิน บริษัท การบินไทย มีคำสั่งให้กัปตันจักรี จงศิริ หยุดการสอนนักบินลูกศิษย์เป็นการชั่วคราว ทั้งๆ ที่ กัปตันจักรี ไม่ได้มีความผิดพลาดในเรื่องของการบินการสอนแต่อย่างใด โดยรายละเอียดในจดหมายฉบับดังกล่าวมีดังนี้
20 ตุลาคม 2551
เรื่อง ขอลาออกจากการเป็น INSTRUCTOR PILOT
เนื่องจาก DX มีคำสั่งให้ กัปตันจักรี จงศิริ หยุดการสอนนักบินลูกศิษย์เป็นการชั่วคราว (ตามเอกสารแนบ) ทั้งๆ ที่ กัปตันจักรี จงศิริ มิได้มีความความผิดพลาดในเรื่องของการบินการสอนแต่อย่างไร
กระผมจึงขอลาออกจากการเป็น INSTRUCTOR PILOT ทั้งนี้ ตั้งแต่ 1 พ.ย. 2551 เป็นต้นไป
จึงเรียนมาเพื่อดำเนินการ
ลงนาม
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2551 กัปตันโสภิต มีคำสั่งภายในให้กัปตันจักรี งดงานสอนนักบินลูกศิษย์ โดยอ้างว่า เพราะเหตุการณ์เรื่องความขัดแย้งระหว่างผู้โดยสารและนักบินของบริษัทกลายเป็นประเด็นใหญ่ ซึ่งอาจสร้างความกดดันและกระทบกระเทือนงานสอนของกัปตันจักรี ครูการบิน 734 จึงขอให้งดงานสอนศิษย์เป็นการชั่วคราวจนกว่าเหตุการณ์จะคลี่คลาย
เหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มขึ้นหลังเหตุการณ์ตำรวจใช้อาวุธรุนแรงสลายผู้ชุมนุมหน้ารัฐสภา 7 ตุลาคม 2551 จนมีผู้บาดเจ็บและล้มตาย วันรุ่งขึ้น 8 ตุลาคม2551 กัปตันจักรี ได้ปฏิเสธที่จะทำหน้าที่เป็นนักบินให้กับ ส.ส.พรรคพลังประชาชน 3 คน ที่ลุแก่อำนาจสั่งใช้ความรุนแรงกับประชาชน
ต่อมา ส.ส.พรรคพลังประชาชน ที่เป็นฝ่ายรัฐบาลแสดงความไม่พอใจการกระทำของกัปตันจักรี อย่างมาก ทั้งข่มขู่ด้วยวาจาและพยายามใช้อำนาจผ่านรัฐมนตรีคมนาคมให้บีบคณะกรรมการบริษัท การบินไทย เล่นงาน กัปตันจักรี โดยสั่งให้มีการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยที่ กัปตันจักรี ชี้แจงถึงเรื่องความปลอดภัยของตัวผู้โดยสารที่เป็น ส.ส.พรรคพลังประชาชนเอง และผู้โดยสารผู้อื่นๆ แต่ก็ไม่เป็นผล กัปตันจักรี ถูกปลดออกจากนักบินลดตำแหน่งให้ทำหน้าที่เพียงเป็นผู้ช่วยนักบิน (Co-pilot) เท่านั้น
“เมื่อวันที่ 8 ตอนเช้านั้น ผมได้เห็นหนังสือพิมพ์ทุกฉบับลงภาพผู้คนซึ่งเป็นคนไทยถูกทำร้ายด้วยอาวุธ ร่างกายฉีกขาด เลือดนองพื้น เป็นภาพซึ่งผมเห็นแล้วรู้สึกอนาถใจอย่างมากที่รัฐบาลโดยการนำของพรรคพลังประชาชน เข่นฆ่าประชาชน โดยคนในพรรคนี้เห็นดีเห็นงามต่อการกระทำกับประชาชน จิตใจของพวกท่านทำด้วยอะไร เพียงเพื่อต้องการที่จะไปอ่านนโยบายบริหารประเทศ ท่านก็ฆ่าฟันผู้คนเข้าไปอ่านนโยบายแล้ว ฉะนั้น ภายในนโยบายบริหารเหล่านั้น ท่านคงจะต้องฆ่าประชาชนคนไทยไปอีกกี่ศพ ท่านจึงจะบรรลุนโยบายการบริหารประเทศของท่าน
“ด้วยความคิดดังนั้น ผมเองจึงตัดสินใจที่จะไม่รับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากพรรคพลังประชาชน สาเหตุเพราะหนังสือพิมพ์ซึ่งมีภาพผู้คนที่ถูกเข่นฆ่าเหล่านั้น เมื่อผู้โดยสารท่านอื่นที่โดยสารไปในเที่ยวบินนั้นได้เห็นภาพและข่าว อาจเกิดบันดาลโทสะ ขาดการยับยั้ง ยกมารุมทำร้าย ส.ส.ของพรรคพลังประชาชน ขณะที่เตรียมขึ้นบินอยู่ ได้รับบาดเจ็บและล้มตายให้ตกไปตามกันก็ได้ ส.ส.พรรคพลังประชาชน เข้าเครื่องในวันดังกล่าว ซึ่งถ้าการสอบสวนว่าผมกระทำความผิด และให้ผมไปกล่าวคำขอโทษ ส.ส.เหล่านั้น ก็ขอให้ลงโทษด้วยการฆ่าผมเสียดีกว่าที่จะให้ผมไปกล่าวคำขอโทษกับคนที่ไม่มีศีลธรรมเหล่านั้นให้เสียศักดิ์ศรีของความเป็นชายชาติทหารนักรบอย่างผม” กัปตันจักรี เคยเขียนจดหมายยืนยันถึงเหตุผลที่ตัดสินใจไปในครั้งนั้น
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจลาออกจากการเป็นครูสอนนักบินของเหล่ากัปตันอาวุโสทั้ง 5 คนนี้จะส่งผลกระทบต่อบริษัท การบินไทย อย่างแน่นอน โดยเฉพาะฝูงบินโบอิง 737 เนื่องจาก กัปตันเหล่านี้มีประสบการณ์สูงและเป็นบุคลากรที่มีค่าของบริษัท