“พิภพ” เย้ย “แม้ว” ไปไม่รอดแน่ หลังใช้คน-ยุทธวิธีผิด เพราะต้องทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง พร้อมปลุกคนเมือง เริ่มการเมืองใหม่ที่กินได้ ยอมแบกภาระช่วยเหลือคนในชนบททำลายช่องว่าง เหมือนเยอรมันรวมประเทศหลังทำลายกำแพงเบอร์ลิน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย
เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น. วันที่ 26 ต.ค. นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิไตย ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีทำเนียบรัฐบาลว่า ถ้าดูการต่อสู้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพวกพ้องในช่วงที่ผ่านมา มีการกำหนดยุทธวิธีที่ผิดมาตลอด ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณมีจุดอ่อน คือ 1.สิ่งที่เขาทำไม่ถูกต้อง และความไม่ถูกต้องนี้แหละที่ทำลายตัวเอง 2.การที่ทักษิณเป็นคนใจร้อน ใจเร็วด่วนได้ 3.ทักษิณเลือกใช้คนผิดมาตลอด ตั้งแต่ จตุพร เนวิน สล้าง ยงยุทธ และสุดท้ายก็ไปไม่รอด เมื่อเขาถูกใช้ไปทำผิดศีลธรรม
ทั้งนี้ การปิดล้อมเราที่ไม่สำเร็จเพราะคนที่เขาใช้ เนื่องจากคนพวกนี้ทำผิดมาตลอด โดยคนพวกนี้จะเรียกเงินไปจัดการเอาคนมา ซึ่งแค่คิดก็ผิดแล้ว เนื่องจากคนที่ถูกจ้างมาจะค้องมาอยู่ 6 วัน แต่คนพวกนี้คงไม่มาทนยืนกลางแดดฝนนานขนาดนั้น นอกจากนี้ชาวบ้านที่มาเขาก็เป็นคนฉลาด ซึ่งที่เขามาเพราะกำนัน หรือรัฐมนตรีสั่ง โดยเมื่อเขามาแล้วก็ถือว่ามา และจะอยู่แค่ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น สุดท้ายความถูกต้องก็ต้องชนะ ซี่งเมื่อเปรียบเทียบกับพันธมิตร ที่ต่อสู้มาตลอดท่ามกลางฝน และระเบิด ยิ่งแตกต่างกันมากขึ้นไปอีก
“ผมอยากให้มาปิดล้อมจริงๆ ในวันพรุ่งนี้ เพราะผมอยากทดสอบพลังเงียบที่ไม่เอาทักษิณ” นายพิภพ กล่าว และว่า เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ปฏิเสธจะสู้ในกระบวนการยุติธรรมแล้ว พี่น้องคนไทยจะรู้ว่าไม่จริง เมื่อเขามาใส่ร้ายศาล โดยทักษิณไม่คิดเรื่องนี้แต่ทำเพื่อตนเองเท่านั้นโดยอ้างประชาชนบังหน้า ซี่งสุดท้ายประชาชนิยมก็ยังทำให้คนจนจนอยู่
นายพิภพ กล่าวถึงการเมืองใหม่ว่า อยากให้คนในเมืองพูดการเมืองใหม่แบบกินได้ เพื่อให้ประชาชนในชนบททราบว่า เรายอมเสียสละเพื่อพวกเขา โดยถึงเวลาที่เราต้องสื่อสารกับคนในชนบทบ้าง หลังจากที่เราเอาเปรียบพวกเขาในบางเรื่องมาก่อน ยกตัวอย่างเช่นราคาน้ำมัน ที่ต่างจังหวัดแพงกว่า และถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราต้องรับภาระให้ราคาน้ำมันให้มีราคาเท่ากันทั่วประเทศ ค่าแรงขั้นต่ำจะต้องเท่ากันทั้งประเทศ และพร้อมหรือไม่ที่จะซื้อสินค้าเกษตรในราคาที่แพงขี้นเพื่อให้ชาวนา ชาวไร่มีชีวิตที่ดีขึ้น โดยปกติเราก็ซื้อราคาแพงอยู่แล้วจากการไปซื้อที่ห้าง แต่เราจะต้องเปลี่ยนไปซื้อโดยตรงกับเกษตรกรเพื่อได้ราคาที่ดีขึ้นแทน
ทั้งนี้ ที่ต้องบอกตรงนี้เพราะมีคำถามจากชนบทว่า เราสู้เพื่ออะไร ซึ่งได้บอกไปว่าเราสู้เพื่อต่อต้านการคอร์รัปชันของทักษิณ และเขาจึงอยากทราบว่าเขาจะมีชีวิตที่ดีขึ้นด้วยหรือ โดยเราต้องอธิบายให้เขาฟังว่าเงินที่ถูกโกงไปนั้นมีประโยชน์ต่อคนในชนบท แล้วเขาจะเข้าใจว่าจะต้องรวมต่อสู้เพื่ออะไร ซึ่งเมื่อนำเงินที่ทุจริตกลับมาได้เราจะนำไปช่วยพวกเขา
นายพิภพ ได้ยกตัวอย่างการช่วยเหลือกันของคนในชาติ กรณีการรวมประเทศเยอรมนี หลังจากทุบกำแพงเบอร์ลินเมื่อ 19 ปีที่แล้ว เมื่อรวมกันระหว่างเยอรมันตะวันตกกับตะวันออกนั้น เขามีความคิดตั้งแต่แรกว่าไม่ให้ฮิตเลอร์มาเกิดในประเทศเขาอีก ซึ่งเราต้องถามตัวเองว่าเราจะทำอย่างไรไม่ให้คนแบบทักษิณมาผุดมาเกิดอีกในประเทศไทย โดยการปฏิรูปเยอรมันเริ่มต้นเขาพยายามที่จะไม่ให้ถูกครอบงำจากเผด็จการ และมีประชาธิปไตยตั้งแต่เริ่มต้น
นอกจากนี้ การศึกษาจะต้องมีการปฏิรูปเช่นเดียวกับในเยอรมันก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ประเทศไทยต้องทำ เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกัน ส่วนอันสุดท้ายคือการปฏิรูปเศรษฐกิจให้คนประเทศเป็นชนชั้นกลางให้หมด และนี่คือสิ่งที่ทำให้เยอรมันประสบความสำเร็จ ซึ่งประเทศไทยก็เหมือนเยอรมันในตอนนั้น และเราควรจะทำให้ได้เช่นกัน
“ตอนนี้เราพบแล้วว่าโครงการที่รัฐบาลทำจะทำให้คนในชนบทจนขึ้นเรื่อยๆ โดยการที่จะทำให้คนในชนบทรวยได้คือคนเมืองจะต้องแบกรับภาระ เหมือนการรวมเยอรมัน ซึ่งในตอนนั้นเยอรมันตะวันออกล้าหลังกว่าเยอรมันตะวันตกมาก แต่เขาพยามทำให้เท่าเทียมกันให้ได้ ตัวอย่างเช่น การซื้อของคนเยอรมันตะวันออกจะไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่เยอรมันตะวันตกจะต้องเสีย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนให้ค่าเงินให้ 1 ดอยช์มาร์กของเยอรมันตะวันออกเท่ากับ 1 ดอยช์มาร์กของเยอรมันตะวันตก เพื่อไม่ให้คนเยอรมันตะวันออกย้ายไปอยู่ตะวันตก ที่เจริญกว่านี่แหละคือแนวทางหนึ่งเช่นกัน และเยอรมันเองก็ทำได้ภายใน 15 ปีที่ทั้งเยอรมันตะวันตกกับตะวันออกเท่าเทียมกัน จนไม่เกิดการเคลื่อนย้ายประชากร”
นายพิภพ กล่าวต่อว่า เรื่องที่พูดมาทั้งหมดจะเป็นการช่วยคนชนบท และคนเหล่านั้นจะเข้าใจว่าเราสู้เพื่ออะไร หรือ ชีวิตเขาจะดีขึ้นได้เพราะการต่อสู้ครั้งนี้ ซึ่งจะไม่มีคำถามแบนั้นอีกต่อไป และการทำลายช่องว่างของคนเมืองและคนชนบท เหมือนการทำลายกำแพงเบอร์ลินในเยอรมันให้ได้ จะเป็นการแก้ไขในเรื่องนี้ได้ จากการเมืองใหม่ที่เราต้องกำจัดนักการเมืองชั่วออกไปก่อน
นายพิภพ กล่าวต่อว่า การต่อสู้กับ พ.ต.ท.ทักษิณต้องอดทน เหมือนพระมหาชนก เพราะการทำความดี ขจัดความเลว ต้องใช้ความอดทนด้วย ถึงแม้วันนี้ 5 แกนนำจะถูกข่มขู่ว่าจะระดมมือปืนมาลอบยิง แกนนำ 5 คน แต่พี่น้องไม่ต้องห่วง เพราะตนเลือกตายด้วยการทำความดี คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกตายได้ อยู่ที่ว่าจะตายขณะทำความดีหนือความชั่ว ซึ่งวันนี้ ไม่ใช่เฉพาะ 5 แกนนำ จะประกาศว่าพร้อมจะตายในอ้อมกอดพี่น้อง เพราะได้ร่วมทุกข์ร่วมสุข อดทนทำความดี ขจัดความชั่วร้ายออกจากสังคมไทย เพราะเรามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ รักษาชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
“พวกเราที่อยู่ที่นี่ มาจากทุกสาขาอาชีพ เรามาร่วมกันเพราะเราต้องการทำความดี ซึ่งวันนี้ผมมีกำลังใจมากขึ้น หลังจากได้ไปร่วมงานฌาปณกิจศพนายสมเสิศ เกษมสุขปราการ ในการต่อสู้จนกว่าสังคมไทยจะดีขึ้น และเราจะอดทนเหมือนพระมหาชนก สุดท้ายความดีต้องชนะความชั่ว และเราจะร่วมต่อสู้ต่อไปจนกว่าจะได้ชัยชนะ” นายพิภพกล่าว
