“ณัฐวุฒิ” ผิดฝาผิดตัว เสนอหน้ารับประกันแทนนายใหญ่ ใช้สิทธิ์คนไทยจ้อผ่านความจริงสัญจร ประโคมข่าวคนรักทักษิณแห่แน่นราชมังคลากีฬาสถานแน่ ชิงออกตัวไม่มีส่วนรู้เห็น “ม็อบสล้าง” จีบปากพูดแค่เจตนารมณ์ตรงกัน
วันนี้ (23 ต.ค.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีตผู้จัดรายการ “ความจริงวันนี้” ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะโทรศัพท์ทางไกลมาชี้แจงเหตุการณ์ต่างๆ ในรายการความจริงวันนี้ ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ว่า ได้ทราบข่าวจากสื่อมวลชนแต่ยังไม่มีข้อสรุปจากทางรายการว่ามีการดำเนินการอย่างไร ในหลักการถือว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนไทยคนหนึ่งมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นนำเสนอความคิดสู่สาธารณะได้ ขณะเดียวกันจะผ่านช่องทางใดก็ต้องสอบถามจากกลุ่มผู้ดำเนินรายการดังกล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เท่าที่ทราบรายละเอียดผู้จัดรายการจะแถลงข่าวถึงการจัดกิจกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ จะโทรศัพท์โฟนอินเข้ามาหรือไม่ หรือจะมีผู้จัดกิจกรรมบนเวทีปราศรัยอย่างไรนั้นจะมีการแถลงข่าวต้นมัปดาห์หน้า เมื่อถามว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะทำให้สถานการณ์การเมือง ความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมต้องแยกเป็น 2 ส่วน คือ ในการจัดรายการ เท่าที่ตนเคยไปร่วมที่เมืองทองธานี พบว่าเป็นกิจกรรมที่อยู่ในพื้นที่ มีรั้วรอบขอบชิด แม้จะเป็นการปราศรัยแสดงความเห็นทางการเมือง ถือเป็นมิติใหม่ของการชุมนุมเคลื่อนไหวเพราะไปชุมนุมในสถานที่มีรั้วรอบขอบชิด ไม่มีการเคลื่อนตัว เคลื่อนขบวน มีการกำหนดเวลาชัดเจน ผู้ร่วมชุมนุมก็อยู่ในความสงบปราศจากอาวุธ ไม่มีการกองกำลังหรือนักรบใดๆ
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้นายจตุพร พรหมพันธุ์ หนึ่งในผู้ดำเนินรายการระบุว่าจะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ มีเสียงตามสาย นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เป็นการพูดคุยแสดงความเห็น โดยนำเสนอความเห็นว่าจะดำเนินการอย่างไรเพื่อหาข้อสรุปว่าจะมีการจัดกิจกรรมบนเวทีอย่างไรบ้าง เมื่อถามว่าได้มีการทาบทามหรือยัง นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ยังไม่มีการทาบทาม เหมือนกรณีนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อถามว่าได้ประสานไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ หรือยัง นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ประสาน ส่วนนายจตุพรและนายวีระนั้นตนไม่ทราบ เพราะยังไม่ได้คุยกัน
เมื่อถามว่า กระบวนการเคลื่อนไหวของรายการความจริงวันนี้ เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของ พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ หรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่ได้ร่วมกัน แต่มีวัตถุประสงค์เดียวกัน คือ 1.แสดงความไม่เห็นด้วยชัดเจนกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ 2.สนับสนุนการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 3.ต่อต้านการยึดอำนาจในทุกกรณี 4.เป็นความต้องการร่วมกันอยากจะเอาทำเนียบฯ คืน ซึ่งทั้งหมดเป็นวัตถุประสงค์ร่วมกัน แต่วิธีการแตกต่างกัน ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.สล้าง ออกมาระบุว่าจะไปปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล และอาจใช้อาวุธสลายการชุมนุมนั้นขอเรียนว่าเป็นสิ่งที่รัฐบาลคาดหวังอย่างยิ่งว่าทุกฝ่ายที่ออกมาเคลื่อนไหว ต้องเคลื่อนไหวภายใต้กรอบกฎหมาย ไม่ใช้ความรุนแรงประหัตประหารกัน ตนถือว่า พล.ต.อ.สล้างเป็นเพียงการแสดงความเห็น ยังไม่มีการปฏิบัติจริง หากเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการปะทะใช้ความรุนแรงเจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงป้องกันเหตการณ์นั้น
“วันนี้ต้องเข้าใจว่าการเคลื่อนไหวของประชาชนหลายกลุ่ม มีเพียงพันธมิตรฯ เท่านั้นที่มีกองกำลังเป็นของตัวเอง ประกาศตัวเป็นนักรบ เป็นหน่วยลาดตระเวนทั้งกลางวันกลางคืน มีการจัดตั้งองค์กรที่เรียกว่า สน.พันธมิตรฯ กลุ่มผู้ชุมนุมทั่วไปมีการจัดลำดับชั้นยศ มีผู้กองมีผู้หมวด ซึ่งสิ่งนี้สังคมต้องกังวลและห่วงมากที่สุด ขณะนี้ทำเนียบเป็นที่ตั้งของกองกำลังติดอาวุธหรือไม่อย่างไร ส่วนกลุ่มอื่นยังเป็นการแสดงความเห็น” นายณัฐวุฒิกล่าว
เมื่อถามว่า กลุ่ม พล.อ.ขัตติยะ หรือเสธ.แดง จัดตั้งกองกำลังพระเจ้าตาก นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่ว่ากลุ่ม เสธ.แดง หรือ นปช.จะมีกองกำลังลักษณะติดอาวุธ หรือมีลักษณะพกมีดพปืนเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องระมัดระวัง และมีข่าวถึงการจับกุมตัวเป็นระยะ เพื่อใช้เป็นมาตรการป้องกันความรุนแรง เมื่อถามย้ำว่า เสธ.แดงเป็นแกนนำ นปช.ด้วยหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่เท่าที่ติดตามความเคลื่อนไหว เสธ.แดง ยืนยันตลอดว่าไม่ใช่คนของ นปช.ตามที่ให้สัมภาษณ์ และไม่ได้เป็นคนของพันธมิตรฯ ด้วย
ส่วนการประเมินผู้เข้าร่วมรายการความจริงวันนี้ที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน นายณัฐวุฒิ กล่วาว่า ประชาชนน่าจะเต็มสนามพกีฬาฯ เมื่อถามว่า หากมีการรัฐประหารคิดว่าประชาชนจำนวนนั้นเข้าร่วมกับกลุ่ม นปช.และรายการความจริงวันนี้หรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ว่าจะมากกว่านั้น