หัวหน้าพรรคประชาราช อวดอ้างเป็นผู้รู้ทางการเมือง ทำนายอนาคตบ้านเมืองเดินเข้าสู่กลียุค หลังประชุมประมุข 4 ฝ่ายล้มเหลว แต่ยังปากดีไม่สำรวจตัวเองก่อนโยนบาป ระบุบ้านเมืองใกล้นองเลือดเพราะฝีมือกลุ่มคนที่ไม่เคารพกฏหมาย
วันนี้ (20 ต.ค.) นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวถึงการหารือ 4 ฝ่ายว่า การหารือจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายไหนก็แล้วแต่ ถือเป็นหน้าที่ที่อาสาจากประชาชนเข้ามาเพื่อทำหน้าที่ให้แก่ประเทศชาติบ้านเมือง เมื่อประชาชนอยากให้การเปลี่ยนแปลงเพื่อปฏิรูปการเมือง เมื่อเสียงออกมาอย่างนี้เราก็ต้องมาหารือกันว่าจะมีทางออกทางไหน เพราะในอดีตมีการตั้ง ส.ส.ร.1 และส.ส.ร. 2 มาแล้ว ซึ่งขณะนี้เราใช้รัฐธรรมนุญปี 50 ซึ่งรัฐธรรมนูญทุกฉบับมีทั้งจุดอ่อนและจุดแข็งที่อาจจะมีการล็อกในการปฏิบัติหน้าที่ ทุกคนต้องรู้กฎหมายและปฏิบัติตามกฎหมาย ดังนั้น เมื่อมีการแก้ไขหรือปฏิรูปการเมืองจะแบบใหม่ แบบเก่า หรือแบบไหนเราก็ไม่รู้ทิศทาง โดยหลักการแล้วประเพณีสิ่งที่ผิดหรืออะไรที่ไม่ผิดเราก็รู้อยู่แก่ใจ ถ้าคนไหนรู้ว่าตนเองทำความผิดแล้วไม่รู้ตัวว่าทำความผิดและแกล้งไม่รู้หรือแกล้งโง่ อย่างไรก็แล้วแต่ รัฐธรรมนูญเป็นกติกาในการปกครองของบ้านเมือง ถือเป็นกติกาที่อยู่ร่วมกัน ใครทำอะไรต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขนี้ ไม่ใช่รักชาติรักแผ่นดินแล้วจะทำอะไรที่เหนือกฎหมาย บ้านเมืองก็อยู่ไม่ได้
“บ้านเมืองจะตกต่ำมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว ถ้าตกต่ำกว่านี้ผมก็เสียใจ จะอยู่กับลูกหลานได้ไม่กี่ปีตามวัยของผม แต่ลูกหลานยังอยู่อีกนาน บ้านนี้เมืองนี้บรรพบุรุษเป็นผู้ให้เราไว้ อีกไม่กี่ปีผมก็ต้องเป็นบรรพบุรุษ คือเสียชีวิตไปแล้วแต่ก็ต้องทำอะไรไว้ให้ลูกหลานไว้เป็นหลัก แต่ทุกวันนี้หากถามว่าปัญหาจะเกิดไหม เกิดแน่นอน ผมไม่ได้ฟันธงมานานแล้ว จะเลือดตกยางออกกันอีก ยังไม่รู้อีกกี่ครั้งแต่ครั้งนี้จะเลือดตกยางออกชนิดที่ว่า เยียวยากันลำบากเราเห็นอยู่ว่ามีคนไม่กี่คนเป็นซาดิสต์กันอยู่ ในหัวคิดอยากจะให้แต่มีเรื่องและไปปลุกเร้าประชาชนออกมาก็ทำให้บ้านเมืองวุ่นวายกันอยู่ทุกวัน ถามว่ากฎหมายอยู่ที่ไหน ประเทศชาติหากไม่มีกฎหมายเราก็อยู่ร่วมกันไม่ได้ ทุกคนต้องมีกติกาไว้อยู่ร่วมกัน หากเราไม่ถามหาคนทำผิดกฎหมายแล้วเราจะมีตำรวจ ข้าราชการ ไว้ทำไม ฉะนั้นหน้าที่ของทุกคนมี ผมขอพูดไม่ใช่ในนามของหัวหน้าพรรคแต่พูดในนามของนายเสนาะ เทียนทอง ว่าบ้านนี้เมืองนี้ใกล้จุดระเบิดเต็มที่แล้ว” นายเสนาะ กล่าว
นายเสนาะ กล่าวต่อว่า ทุกวันนี้ตนไม่สลายใจเพราะบ้านเมืองไม่มีขื่อไม่มีแป อยากถามสื่อว่าเราไม่ต้องเลือกข้าง ขอให้เลือกความถูกต้อง ความถูกต้องอยู่ตรงไหน ถ้าสื่อไม่รู้ก็ไม่ต้องมาเป็นสื่อเวลาจะพูดจะถามอย่าไปถามพวกที่แบ่งข้างถ้าไปถามคนแบ่งข้างแล้วปัญหาจะเกิด
ผู้สื่อข่าวถามว่า การตั้ง ส.ส.ร.3 จะสามารถแก้ปัญหาได้หรือไม่ นายเสนาะ กล่าวว่า เรายังไม่รู้ว่า ส.ส.ร.3 จะมีไหม แล้วจะมีวิธีการสรรหาอย่างไร กำลังปรึกษาหารือกันอยู่ ยังไม่ได้ฟันธงว่าจะเอา ส.ส.ร.3 มาอย่างไร และทิศทางการเมืองใหม่จะออกมาแบบไหนก็ยังคุยกันอยู่จะแท้งหรือไม่แท้งก็ต้องดูกันไป การแท้งไม่ใช่ใครแท้งแต่เป็นประเทศไทยมากกว่า เมื่อถามว่า ฝ่ายการเมืองจะเป็นฝ่ายปลดระเบิดได้หรือไม่ นายเสนาะ กล่าวว่า เราต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าประเทศเมื่อเป็นการปกครองระบอบประชาธิปไตย จะพูดทำไมว่าต้องมีประชาชนเป็นส่วนร่วม การที่ตนเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ในวัย 76 ปี เป็นการสมัคร ส.ส.ทั้ง 13 ครั้งได้คะแนนเป็นแสนนี่ไม่ใช่ประชาชนหรือ ไม่ต้องอ้างว่าประชาชนต้องมีส่วนร่วมการเลือกตั้งเท่ากับเราโยนอำนาจให้กับประชาชน 100% อยู่แล้ว ดังนั้น ประชาชนมีส่วนร่วมอยู่แล้ว