ปชป.ชี้หมิ่นเบื้องสูงเหิมเกริม ใช้วิทยุชุมชนจาบจ้วง

ผู้ช่วยเลขาฯ ปชป.จี้หน่วยงานรัฐ มหาดไทย-ไอซีที-กองทัพ-ตร.จัดการเว็บไซต์หมิ่นเบื้องสูงอย่างเร่งด่วน ชี้ นับวันยิ่งเหิมเกริมมากขึ้นใช้วิทยุชุมชนปลุกระดม สั่นคลอนสถาบันกษัตริย์

วันนี้ (17 ต.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า จากการติดตามข่าวการใช้เว็บไซต์และสื่อต่างๆ โจมตีสถาบันเบื้องสูงอยู่ในขณะนี้ ว่า หลังจากที่ได้มีขบวนการดังกล่าวในช่วงต้นปีที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ ได้เคลื่อนไหวต่อต้านและเรียกร้องให้ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบจัดการกับเว็บไซต์เหล่านี้ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 30 เว็บไซต์ และขณะนี้เว็บไซต์ต่างๆ เหล่านั้นได้ถูกปิดตัวลงไปเกือบหมดแล้ว แต่ก็ยังมีการเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่ และการเคลื่อนไหวดังกล่าวยังคงมีอยู่ มีการเปลี่ยนรูปแบบและพลิกแพลงวิธีการไปจากเดิม โดยมีการตั้งกระทู้ข้อความหมิ่นเบื้องสูงในช่วงหลังเวลาเที่ยงคืนแล้วลบทิ้งในเวลาตอนเช้า เพื่อบริการแก่สมาชิกขาประจำ และหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ อยากจะตั้งข้อสังเกตว่า หลังจากงานพระราชทานเพลิงศพ น.ส.อังคนา ระดับปัญญาวุฒิ หรือ น้องโบว์ ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จฯเป็นองค์ประธานนั้น จะเห็นได้ว่า ได้มีขบวนการโจมตีสถาบันเบื้องสูงอย่างโจ่งแจ้งรุนแรงและเปิดเผยมากยิ่งขึ้น

เช่น กรณีที่ นายสุชาติ นาคบางไทร หรือ นายวราวุธ ฐานังกรณ์ ได้ขึ้นปราศรัยบนเวที นปก. ณ ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2551 เวลา 18.30 น.ได้พาดพิงถึงสถาบันเบื้องสูงอย่างรุนแรงและชัดเจน โดยใช้สื่อสีฟ้าเป็นสัญลักษณ์ เจ้าหน้าที่รัฐได้ดำเนินการเรื่องนี้แล้วหรือยัง หรือกรณีที่ นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำรักเชียงใหม่ 51 ได้ปราศรัยว่าคนเชียงใหม่นับถือกษัตริย์แค่สามพระองค์เท่านั้น คือ พญาเม็งราย พญางำเมือง และพ่อขุนรามคำแหง เมื่อไปกรุงเทพฯ ก็จะสักการะเฉพาะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเท่านั้น คำพูดเหล่านี้ได้สื่อความหมายอะไรบ้าง เช่นเดียวกับเว็บไซต์ฟ้าเดียวกัน มีการพูดถึงธงชาติใหม่ของสาธารณรัฐสยาม ที่มีสีแดง สีขาว และสีทอง

โดยอธิบายความหมาย ว่า สีแดง คือ ประชาชนที่หลั่งเลือดเนื้อรักษาแผ่นดิน สีขาว คือ ศาสนาที่หล่อเลี้ยงจิตใจประชาชน สีทอง คือ ชาติสยาม ในดินแดนแหลมทองอันรุ่งโรจน์ โดยไม่ได้พูดถึงสีน้ำเงิน ซึ่งหมายถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ แล้วจะปล่อยให้ภาพเหล่านี้เผยแพร่อยู่ในเว็บไซต์ ได้อย่างไร และขณะนี้ได้มีการใช้เครือข่ายวิทยุชุมชนบางสถานีปลุกระดมให้บุคคลในอาชีพต่างๆ มีความรู้สึกเกลียดชังสถาบันเบื้องสูง ซึ่งเป็นคลื่นวิทยุเฉพาะกลุ่มคนในบางอาชีพเท่านั้น ที่กล่าวมานี้เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนเท่านั้นที่กำลังเผยแพร่อยู่ในขณะนี้

“ผมอยากจะเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรงได้ดำเนินการอย่างเฉียบขาดและทันท่วงที หากทำตัวเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ปล่อยให้ขบวนการเหล่านี้เคลื่อนไหวขยายตัวไปในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ก็จะยิ่งทำความสั่นคลอนต่อสถาบันเบื้องสูงอันเป็นที่เคารพและเทิดทูนของคนไทยทั้งชาติ และจะสร้างความแตกแยกในสังคมมากยิ่งขึ้น และเป็นเงื่อนไขให้กลุ่มต่างๆ หยิบยกขึ้นมากล่าวอ้างในการเคลื่อนไหวทางการเมืองได้ อยากให้ผู้มีหน้าที่โดยตรง คือ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงไอซีที กองทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำรวจสันติบาล สำนักงานข่าวกรอง และสภาความมั่นคง ผนึกกำลังดำเนินการจัดการกับขบวนการเลวร้ายเหล่านี้ให้หมดไป ซึ่งคงจะไม่เกินความสามารถของเจ้าหน้าที่เหล่านี้อย่างแน่นอน” ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว