“สนธิ” ชื่นชมพลังแห่งศีลธรรมของพี่น้องเกิดขึ้นในสังคมไทยอีกครั้ง ย้ำวันนี้มีการแสดงออกชัดเจน ว่า “กลุ่มเสื้อแดง” ที่เป็นขี้ข้า “ทักษิณ” เชื่อมโยงแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีเป้าหมายล้มสถาบันเบื้องสูง พยายามก่อความวุ่นวาย-แตกแยก ทั้งก่อนและหลังวันที่ 21 ตุลาคม ระบุ ถ้า “สมชาย” เป็นนายกฯของพระเจ้าอยู่หัว ต้องรักษาพระเดชานุภาพกดดันให้ “ฮุนเซน” ถอนกำลัง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย
วันนี้ (16 ต.ค.) เมื่อเวลา 21.15 น.นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวปราศรัยบนเวทีที่ทำเนียบรัฐบาล โดยเริ่มต้นด้วยการพูดถึงน้ำใจของพี่น้องหลากหลายอาชีพที่ร่วมกันบริจาคเงิน สิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมของรัฐบาล เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏการณ์เหล่านี้ ถือเป็นพลังแห่งศีลธรรมที่ผุดขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากหายไปนานในยุคของ รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ที่ใช้แต่เงินซื้อทุกสิ่งทุกอย่าง
นายสนธิ กล่าวว่า พลังแห่งศีลธรรมดังกล่าว ที่ว่านับเป็นแสงสว่างที่พุ่งเข้ามาในท่ามกลางรัฐบาลสัตว์นรกที่ปกครองบ้านเมืองอยู่ในขณะนี้
จากนั้น นายสนธิ ได้ย้ำว่า เวลานี้เป็นเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ กับราชบัลลังก์ เท่านั้น โดยในวันนี้ไอ้พวกเสื้อแดงที่เรียกชื่อว่า ชมรมรักเชียงใหม่ 51 ที่เป็นขี้ข้าของทักษิณ ที่พูดชัดเจนว่าจะไหว้แค่ 3 กษัตริย์เท่านั้น นอกนั้นมันไม่ไหว้ หรือบอกว่าถ้าลงมากรุงเทพฯจะไหว้แค่ศาลหลักเมืองเท่านั้น นอกนั้นมันไม่สนใจ มันแบ่งแยก โดยที่ไม่สนใจราชบัลลังก์
“ดังนั้น ในวันนี้คนที่ทรยศต่อชาติและราชบัลลังก์ คือ ทักษิณ และไอ้เสื้อแดงเท่านั้น เวลานี้เหตุการณ์ได้พัฒนามาจนต้องแตกหักกันแล้ว และต้องถามว่าถ้าไม่เอาราชบัลลังก์ก็ต้องใสหัวไปอยู่ที่อื่น” นายสนธิ ระบุและว่า หลายครั้งที่ผ่านมา เมื่อพูดเรื่องนี้ก็มีคนเชื่อและมีคนไม่เชื่อ แต่มาวันนี้มันชัดเจน เพราะพวกเขาดิ้นทุกทางก่อนถึงวันที่ 21 ตุลาคม ก่อนที่จะติดคุก และจากนั้น หลังวันที่ 21 ก็จะทำให้บ้านเมืองแตกแยก แต่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาดลใจให้พันธมิตรฯมารวมใจ เพราะถ้าชาติอยู่ไม่ได้ ราชบัลลังก์ก็ไม่เข้มแข็ง
นายสนธิ ยังได้เชื่อมโยงให้เห็นว่า กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปสู่เป้าหมายสูงสุดคือ ล้มราชบัลลังก์อย่างแท้จริง เพราะมีการทำให้กองทัพอ่อนแอ เพราะถ้าเป็นนายกฯของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะต้องคำนึงถึงพระเกียรติ โดยเฉพาะกรณีเขมร ต้องไม่ให้มันมาลบหลู่พระบรมเดชานุภาพ ต้องขีดเส้นให้ฮุนเซนถอนกำลัง ไม่เช่นนั้นจะโจมตีทันที ซึ่งเชื่อว่าทหารไทยพร้อม อีกทั้งมีศักยภาพที่เหนือกว่า แต่กลับปล่อยให้กุ๊ยข้างถนนมาข่มขู่ เราต้องใช้หลักอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ แข็งแรงแต่ไม่แข็งกร้าว
“แต่ที่ไม่ทำ เพราะเป็นรัฐบาลนอมินีของพี่เมีย ที่มันทำมาหากินร่วมกับฮุนเซนในผลประโยชน์ด้านพลังงานน้ำมันในทะเล” นายสนธิ ระบุ พร้อมทั้งย้ำว่า จะต้องร่วมกันบอยคอตหนังสือพิมพ์ 4 ฉบับต่อไป คือ ข่าวสด มติชน มติชนรายสัปดาห์ และประชาชาติธุรกิจ เพราะถ้าสู้แล้วต้องสู้ทุกแนวรบ
นายสนธิ ให้ความเห็นกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ที่บอกว่า ต้องมีคนรับผิดชอบต่อเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งถ้าพูดให้ถูก คือ ต้องมีคนรับผิดชอบต่อการตายของประชาชน ซึ่งก็คือ นายกฯนั่นเอง และอีกอย่างน้อยสองคนที่ต้องไม่ลืม เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย คือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ โดยเฉพาะ พล.ต.อ.โกวิท ที่ได้รับไว้วางพระราชหฤทัยสมัยเป็นผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน แต่พอสิ้นสมเด็จย่าก็มารับใช้ทักษิณ และอีกสองหน่วยงานที่ต้องไม่ลืม คือ ตชด.ที่นำโดย พล.ต.ท.โกสินทร์ บุญสร้าง และตำรวจ 191 หน่วยอรินทราช ที่นำโดย พล.ต.ต.ศรีวรา รังสิพรามณกุล ซึ่งสองหน่วยงานนี้เป็นหน่วยงานที่ฆ่าประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่ง โกวิท ก็เป็นฆาตกร คนพวกนี้ต้องเอาเข้าคุกให้ได้
นายสนธิ กล่าวว่า ในนามของพันธมิตรฯอยากเสนอให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบการฆ่าประชาชน โดยเสนอให้ พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ เป็นประธาน และเชื่อว่า อีกไม่นาน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะต้องได้รับกรรมในที่สุด