ส.ส.ชั่วสั่ง กมธ.คมนาคม ถอนใบอนุญาต “กัปตันจักรี”

ผู้จัดการออนไลน์ - ส.ส.พลังประชาชน ยืมมือ กมธ.คมนาคม สั่งการบินไทยถอนใบอนุญาตบิน นาวาอากาศตรีจักรี จงศิริ กัปตันการบินไทยรักชาติ ส.ส.หนองบัวลำภูยังอ้างต้องแยกแยะเรื่องการเมือง เพราะตนใช้บริการในฐานะประชาชน

จากกรณีเมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา นาวาอากาศตรีจักรี พงษ์ศิริ กัปตันบริษัท การบินไทย ปฏิเสธไม่ให้ 3 ส.ส.พรรคพลังประชาชน ได้แก่ นางฟารีดา สุไลมาน ส.ส.สุรินทร์ นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู และนางชมพู จันทาทอง ส.ส.หนองคาย พรรคพลังประชาชน ขึ้นเครื่อง

ล่าสุด วันนี้ (16 ต.ค.) ที่รัฐสภา ว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย พรรคพลังประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุม ซึ่งมีการพิจารณาเกี่ยวกับปัญหาของการบินไทยที่ปฏิเสธไม่ให้ 3 ส.ส.พรรคพลังประชาชนขึ้นเครื่องดังกล่าว โดยได้เชิญนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตัวแทนจากสหภาพการบินไทย และกรมการขนส่งทางอากาศ พร้อม ส.ส. 3 คน ซึ่ง กมธ.มีมติให้เพิกถอนใบอนุญาตการบินของนายจักรีเพื่อเป็นเยี่ยงอย่าง และให้ยกเลิกการปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการบิน โดยให้ไปปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ แทน โดยให้การบินไทยแจ้งผลการดำเนินการมายังกมธ.ภายในเวลา 30 วัน

ด้าน นายไชยา ส.ส.พปช.กล่าวว่า การบินไทยยอมรับว่าภายในองค์กรมีปัญหาขัดแย้งเรื่องการเมืองอย่างชัดเจน ซึ่งทางการบินไทยก็รับที่จะแก้ไข ซึ่ง กมธ.ได้เสนอให้การบินไทยปรับปรุงด้านความเชื่อมั่นโดยให้บริการประชาชนอย่างปราศจากอคติ นอกจากนี้ ตนยังถูกละเมิดรัฐธรรมนูญมาตรา 30 ที่ต้องได้รับการบริการสาธารณะ โดยปราศจากอคติ ซึ่งตนเห็นว่านาวาอากาศตรีจักรีควรแยกแยะเรื่องการเมือง วันดังกล่าวนายจักรีควรเลือกที่จะไม่บินมากกว่าไล่ผู้โดยสาร

“ผมมาใช้สิทธิในฐานะประชาชนคนหนึ่งไม่ได้เอาความเป็น ส.ส.มาเกี่ยวข้อง เขาควรให้บริการประชาชนที่เทียมกัน ซึ่งการที่ กมธ.ออกมาดำเนินการแบบนี้เป็นการช่วยการบินไทย เพราะถ้ายังมีกัปตันที่มีลักษณะแบบนี้จะกระทบต่อองค์กรและประชาชนก็จะไม่มีความเชื่อมั่น อาจส่งผลให้ประชาชนผู้ใช้บริการลดน้อยลง” นายไชยาอ้าง

ก่อนหน้านี้ นาวาอากาศตรีจักรี ได้ออกแถลงการณ์มาฉบับหนึ่งยืนยันว่า การกระทำของ ส.ส.พรรคพลังประชาชน ที่เหยียบกองเลือดเนื้อของประชาชนเมื่อวันที่ 7 ต.ค.นั้น สร้างความสลดใจและโกรธแค้นให้แก่คนไทยจำนวนมาก และตนเกรงว่า หากให้ ส.ส.พปช.ขึ้นเครื่องบินไป ก็อาจจะถูกทำร้ายได้ ดังนั้น ตนจึงใช้สิทธิ์ในฐานะกัปตันไม่ให้ ส.ส.พปช.ขึ้นเครื่อง เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งนี้ หากบริษัท การบินไทย สั่งให้ตนขอโทษ ส.ส.ทั้ง 3 คน ตนก็ยอมตายดีกว่าเสียเกียรติของชายชาติทหาร